รั่วเฟิงซีลุกขึ้นแล้วเดินออกไป “ซูเฟย เจ้ามาเข้าเฝ้าฝ่าบาทด้วยเรื่องอะไร?”
พอซูเฟยเห็นฮองเฮาเหนียงเหนียง ก็รีบทำความเคารพ “ถวายบังคมฮองเฮาเหนียงเหนียง เหนียงเหนียงทรงพระเจริญ ที่หม่อมฉันมาที่นี่ เพราะอยากถามว่าทำไมถึงไม่ให้ออกจากวัง ทหารที่เฝ้าประตูวังบอกว่าเป็นคำสั่งจากเหนียงเหนียงหรือ?”
“เป็นคำสั่งของข้าจริง ๆ กำไลหยกของข้าหายไปอันหนึ่ง นั่นเป็นของหมั้นหมายที่ฝ่าบาทมอบให้ข้า ดังนั้นตอนนี้ข้าจึงสั่งให้คนค้นหาในวัง ก่อนที่ยังหากำไลหยกไม่เจอ ห้ามใครออกนอกวังทั้งนั้น!” รั่วเฟิงซีตอบกลับไป
“ถ้ากำไลหยกของฮองเฮาเหนียงเหนียงหาไม่เจอวันหนึ่ง พวกเราก็ห้ามออกจากวังไปวันหนึ่งอย่างงั้นหรือ?” ซูเฟยพูดขึ้นมาด้วยความไม่พอใจ
ปกติซูเฟยก็เป็นคนมีนิสัยยโสโอหัง ปากไม่ไว้หน้าผู้คน พอตอนนี้ออกจากวังไม่ได้ ก็ทำให้นางโมโหขึ้นมาไม่น้อยจริง ๆ
รั่วเฟิงซีจ้องมองไปที่นางอย่างเย็นชา “ใช่ ถูกต้อง ก่อนที่จะหากำไลหยกเจอ ใครก็ห้ามออกไปทั้งนั้น!”
“นี่มันไม่ยุติธรรมเลย ข้าจะขอเข้าเฝ้าฝ่าบาท ข้าจะขอให้ฝ่าบาทช่วยให้ความเป็นธรรมกับข้า ฝ่าบาท ฝ่าบาทออกมาซิเพค่ะ ฝ่าบาทช่วยมาให้ความเป็นธรรมแก่หม่อมฉันหน่อยเพค่ะ!” ซูเฟยตะโกนเสียงดังขึ้นมาอย่างไม่พอใจ
นางเป็นคนที่เสียงดังมาตั้งแต่แรกอยู่แล้ว พอมาตะโกนแบบนี้ ก็ดึงดูดความสนใจของพวกบ่าวได้ไม่น้อย สีหน้าของรั่วเฟิงซีเย็นชาลงหลายเท่า
ฮ่องเต้คนเดียวของแผ่นดินถูกคนวางยาพิษจนหมดสติไปกะทันหัน นี่มันเรื่องใหญ่หลวงแค่ไหน ถ้าถูกคนชั่วเอาไปใช้งาน วังหลังก็ไม่ต้องคิดเลยว่าจะมีสภาพแบบไหน
“ซูเฟยเจ้าไม่ต้องมาเอะอะโวยวายเลย ฝ่าบาทกำลังพักผ่อนอยู่ ห้ามรบกวน ทหารมาส่งซูเฟยกลับไปซิ!” รั่วเฟิงซีพึมพำเสียงเย็นขึ้นมา
“พ่ะย่ะค่ะ!” องครักษ์สองคนรีบเดินเข้ามา
“นี่ฮองเฮาท่านจะทำอะไรกัน นี่ท่านจะไม่ให้หม่อมฉันพบฝ่าบาทเลยหรือ?” ซูเฟยพูดขึ้นมาอย่างโกรธเคือง
“หยู้ผินถวายบังคมฮองเฮาเหนียงเหนียง” หยู้ผินเดินเข้ามาถวายบังคมอย่างนอบน้อม
“ลุกขึ้นได้!” รั่วเฟิงซีพึมพำเรียบ ๆ ขึ้นมาประโยคหนึ่ง แต่ละคนพากันมาหมดเลย ความบังเอิญเช่นนี้ทำให้นางอดสงสัยขึ้นมาไม่ได้
“ทำไมพี่ซูเฟยถึงพูดเช่นนี้กับฮองเฮาเหนียงเหนียงล่ะ เหนียงเหนียงไม่ให้ท่านพบฝ่าบาท จะต้องมีเหตุผลที่ไม่ให้เข้าพบแน่ พวกเรารีบกลับกันเถอะ” หยู้ผินพูดเกลี้ยกล่อมขึ้นมา
คำพูดนี้เหมือนกับปลอบโยน แต่กลับแอบยุแยงไปด้วย
ซูเฟยยิ่งโกรธเคืองมากยิ่งขึ้น “จะมีเหตุผลอะไรไม่ให้เราเจอฝ่าบาท นางต้องเอาฝ่าบาทไปซ่อนไว้แน่นอน วันนี้ข้าจะต้องเจอฝ่าบาทให้ได้ ไม่งั้นข้าไม่มีทางกลับไปแน่”
“พี่ซูเฟย ถ้าท่านยังเป็นแบบนี้อีก ฮองเฮาเหนียงเหนียงต้องไม่พอใจแน่” หยู้ผินพูดอย่างเข้าอกเข้าใจขึ้น
“ข้าเองก็ไม่พอใจ วันนี้ถ้าไม่ได้เจอฝ่าบาท ข้าก็จะอยู่ที่นี่ไม่ไปไหนแล้ว” ซูเฟยพูดอย่างไม่มีเหตุผลขึ้นมา
“บังอาจ กล้ามาโอหังต่อหน้าข้าเช่นนี้ไม่สำรวมตัวเองว่าเป็นแค่สนม ยังมาใส่ร้ายข้าว่าเอาฝ่าบาทไปซ่อน กล้าทำการอุกอาจเช่นนี้ข้าไม่มีทางปล่อยเจ้าไปแน่ ทหารตบปาก!” ฮองเฮารั่วเฟิงซีพึมพำประโยคหนึ่งขึ้นมาอย่างวางอำนาจ
พวกกองทัพหลวงรีบวิ่งเข้ามา แล้วยื่นมือไปควบคุมตัวซูเฟยเอาไว้
“ไสหัวไป ปล่อยตัวข้านะ ข้าเป็นซูเฟยที่ฝ่าบาทแต่งตั้งขึ้นมาเองนะ พวกเจ้ากล้ามาแตะต้องตัวข้าหรือ!” ซูเฟยตะโกนออกไป
“เพี๊ยะ!” เสียงตบดังกังวานขึ้นมาทีหนึ่ง ทั้งตัวซูเฟยมึนงงไปเลย ใบหน้าก็บวมแดงเป็นรอยนิ้วมือขึ้นมาทันที ความเจ็บปวดที่เด่นชัดเช่นนี้ ทำให้นางเจ็บจนขมวดคิ้วขึ้นมาทันที
“ฮองเฮา นี่ท่านกล้าตบข้าเลยหรือ มีสิทธิ์อะไร?”
“ก็สิทธิ์ที่ข้าเป็นฮองเฮาที่ฝ่าบาทแต่งตั้งขึ้นมาเองนะซิ เข้าพูดจาไม่สุภาพ พูดจาใส่ร้ายข้า สมควรแล้วที่โดนตบปาก!” รั่วเฟิงซีน้ำเสียงเย็นชา ท่าทางน่าเกรงขาม ทำให้คนไม่กล้าที่จะระแวงสงสัยเลย
ฮองเฮาที่อ่อนโยนและสง่างามในตอนปกติ บัดนี้กลับเย็นชา ดุร้าย และท่าทีที่ทรงพลังข่มผู้อื่นเช่นนี้ ได้ทำให้ซูเฟยตกใจจนนิ่งอึ้งไปจริง ๆ
กองทัพหลวงควบคุมตัวซูเฟยเอาไว้ มามาแก่คนหนึ่งก็รีบเข้ามาตบปาก เสียงตบเพี๊ยะ ๆ ดังก้องกังวานไปทั่วลาน ผู้คนฟังแล้วก็รู้สึกหวาดกลัวกัน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมนางข้ามพิภพ
อัพต่อด้วยจ้า...
รอตอนต่อจ้า...
แต่ละบทที่่อ่านแล้ว ควรมีสีหรือเครื่องหมายที่แตกต่างกัน ผู้อ่านจะได้ทราบว่าเรืื่องนี้อ่านไปถึงบทไหนแล้ว...
รำคานโฆษณาที่เลื่อนเข้ามา เข้าใจได้ว่าต้องหารายได้ แต่ควรนำไปวางไว้ด้านล่างสุด ไม่ด้านซ้ายก็ด้านขวา จะได้ไม่เสียอารมณ์ในการอ่าน ปกติโฆษณาที่อยู่ระหว่างหน้าก็ใหญ่และมากอยู่แล้ว...
ขอร้องทงทีมงานช่วยอัพเดทจนจบด้วยนะคะ😭😭😭😭😭...
เรื่องนี้ทางทีมงานจะอัพเดทต่อมั้ยค่ะ😭...
รอตอนใหม่อยู่นะคะ😭🙏🏻...
เมื่อไหร่จะอัพเพิ่มค่ะหายไปเป็นเดือนแล้วนะ...
รอค่ะ ตามเรื่องนี้มานานมาก อัพตอนต่อจาก 1070 ให้หน่อยค่ะ...
สนุกมากค่ะ รออ่านตอนต่อไปอยู่นะคะรบกวนลงต่อให้จบด้วยค่ะ กำลังสนุก...