จอมนางข้ามพิภพ นิยาย บท 996

รั่วเฟิงซีลุกขึ้นแล้วเดินออกไป “ซูเฟย เจ้ามาเข้าเฝ้าฝ่าบาทด้วยเรื่องอะไร?”

พอซูเฟยเห็นฮองเฮาเหนียงเหนียง ก็รีบทำความเคารพ “ถวายบังคมฮองเฮาเหนียงเหนียง เหนียงเหนียงทรงพระเจริญ ที่หม่อมฉันมาที่นี่ เพราะอยากถามว่าทำไมถึงไม่ให้ออกจากวัง ทหารที่เฝ้าประตูวังบอกว่าเป็นคำสั่งจากเหนียงเหนียงหรือ?”

“เป็นคำสั่งของข้าจริง ๆ กำไลหยกของข้าหายไปอันหนึ่ง นั่นเป็นของหมั้นหมายที่ฝ่าบาทมอบให้ข้า ดังนั้นตอนนี้ข้าจึงสั่งให้คนค้นหาในวัง ก่อนที่ยังหากำไลหยกไม่เจอ ห้ามใครออกนอกวังทั้งนั้น!” รั่วเฟิงซีตอบกลับไป

“ถ้ากำไลหยกของฮองเฮาเหนียงเหนียงหาไม่เจอวันหนึ่ง พวกเราก็ห้ามออกจากวังไปวันหนึ่งอย่างงั้นหรือ?” ซูเฟยพูดขึ้นมาด้วยความไม่พอใจ

ปกติซูเฟยก็เป็นคนมีนิสัยยโสโอหัง ปากไม่ไว้หน้าผู้คน พอตอนนี้ออกจากวังไม่ได้ ก็ทำให้นางโมโหขึ้นมาไม่น้อยจริง ๆ

รั่วเฟิงซีจ้องมองไปที่นางอย่างเย็นชา “ใช่ ถูกต้อง ก่อนที่จะหากำไลหยกเจอ ใครก็ห้ามออกไปทั้งนั้น!”

“นี่มันไม่ยุติธรรมเลย ข้าจะขอเข้าเฝ้าฝ่าบาท ข้าจะขอให้ฝ่าบาทช่วยให้ความเป็นธรรมกับข้า ฝ่าบาท ฝ่าบาทออกมาซิเพค่ะ ฝ่าบาทช่วยมาให้ความเป็นธรรมแก่หม่อมฉันหน่อยเพค่ะ!” ซูเฟยตะโกนเสียงดังขึ้นมาอย่างไม่พอใจ

นางเป็นคนที่เสียงดังมาตั้งแต่แรกอยู่แล้ว พอมาตะโกนแบบนี้ ก็ดึงดูดความสนใจของพวกบ่าวได้ไม่น้อย สีหน้าของรั่วเฟิงซีเย็นชาลงหลายเท่า

ฮ่องเต้คนเดียวของแผ่นดินถูกคนวางยาพิษจนหมดสติไปกะทันหัน นี่มันเรื่องใหญ่หลวงแค่ไหน ถ้าถูกคนชั่วเอาไปใช้งาน วังหลังก็ไม่ต้องคิดเลยว่าจะมีสภาพแบบไหน

“ซูเฟยเจ้าไม่ต้องมาเอะอะโวยวายเลย ฝ่าบาทกำลังพักผ่อนอยู่ ห้ามรบกวน ทหารมาส่งซูเฟยกลับไปซิ!” รั่วเฟิงซีพึมพำเสียงเย็นขึ้นมา

“พ่ะย่ะค่ะ!” องครักษ์สองคนรีบเดินเข้ามา

“นี่ฮองเฮาท่านจะทำอะไรกัน นี่ท่านจะไม่ให้หม่อมฉันพบฝ่าบาทเลยหรือ?” ซูเฟยพูดขึ้นมาอย่างโกรธเคือง

“หยู้ผินถวายบังคมฮองเฮาเหนียงเหนียง” หยู้ผินเดินเข้ามาถวายบังคมอย่างนอบน้อม

“ลุกขึ้นได้!” รั่วเฟิงซีพึมพำเรียบ ๆ ขึ้นมาประโยคหนึ่ง แต่ละคนพากันมาหมดเลย ความบังเอิญเช่นนี้ทำให้นางอดสงสัยขึ้นมาไม่ได้

“ทำไมพี่ซูเฟยถึงพูดเช่นนี้กับฮองเฮาเหนียงเหนียงล่ะ เหนียงเหนียงไม่ให้ท่านพบฝ่าบาท จะต้องมีเหตุผลที่ไม่ให้เข้าพบแน่ พวกเรารีบกลับกันเถอะ” หยู้ผินพูดเกลี้ยกล่อมขึ้นมา

คำพูดนี้เหมือนกับปลอบโยน แต่กลับแอบยุแยงไปด้วย

ซูเฟยยิ่งโกรธเคืองมากยิ่งขึ้น “จะมีเหตุผลอะไรไม่ให้เราเจอฝ่าบาท นางต้องเอาฝ่าบาทไปซ่อนไว้แน่นอน วันนี้ข้าจะต้องเจอฝ่าบาทให้ได้ ไม่งั้นข้าไม่มีทางกลับไปแน่”

“พี่ซูเฟย ถ้าท่านยังเป็นแบบนี้อีก ฮองเฮาเหนียงเหนียงต้องไม่พอใจแน่” หยู้ผินพูดอย่างเข้าอกเข้าใจขึ้น

“ข้าเองก็ไม่พอใจ วันนี้ถ้าไม่ได้เจอฝ่าบาท ข้าก็จะอยู่ที่นี่ไม่ไปไหนแล้ว” ซูเฟยพูดอย่างไม่มีเหตุผลขึ้นมา

“บังอาจ กล้ามาโอหังต่อหน้าข้าเช่นนี้ไม่สำรวมตัวเองว่าเป็นแค่สนม ยังมาใส่ร้ายข้าว่าเอาฝ่าบาทไปซ่อน กล้าทำการอุกอาจเช่นนี้ข้าไม่มีทางปล่อยเจ้าไปแน่ ทหารตบปาก!” ฮองเฮารั่วเฟิงซีพึมพำประโยคหนึ่งขึ้นมาอย่างวางอำนาจ

พวกกองทัพหลวงรีบวิ่งเข้ามา แล้วยื่นมือไปควบคุมตัวซูเฟยเอาไว้

“ไสหัวไป ปล่อยตัวข้านะ ข้าเป็นซูเฟยที่ฝ่าบาทแต่งตั้งขึ้นมาเองนะ พวกเจ้ากล้ามาแตะต้องตัวข้าหรือ!” ซูเฟยตะโกนออกไป

“เพี๊ยะ!” เสียงตบดังกังวานขึ้นมาทีหนึ่ง ทั้งตัวซูเฟยมึนงงไปเลย ใบหน้าก็บวมแดงเป็นรอยนิ้วมือขึ้นมาทันที ความเจ็บปวดที่เด่นชัดเช่นนี้ ทำให้นางเจ็บจนขมวดคิ้วขึ้นมาทันที

“ฮองเฮา นี่ท่านกล้าตบข้าเลยหรือ มีสิทธิ์อะไร?”

“ก็สิทธิ์ที่ข้าเป็นฮองเฮาที่ฝ่าบาทแต่งตั้งขึ้นมาเองนะซิ เข้าพูดจาไม่สุภาพ พูดจาใส่ร้ายข้า สมควรแล้วที่โดนตบปาก!” รั่วเฟิงซีน้ำเสียงเย็นชา ท่าทางน่าเกรงขาม ทำให้คนไม่กล้าที่จะระแวงสงสัยเลย

ฮองเฮาที่อ่อนโยนและสง่างามในตอนปกติ บัดนี้กลับเย็นชา ดุร้าย และท่าทีที่ทรงพลังข่มผู้อื่นเช่นนี้ ได้ทำให้ซูเฟยตกใจจนนิ่งอึ้งไปจริง ๆ

กองทัพหลวงควบคุมตัวซูเฟยเอาไว้ มามาแก่คนหนึ่งก็รีบเข้ามาตบปาก เสียงตบเพี๊ยะ ๆ ดังก้องกังวานไปทั่วลาน ผู้คนฟังแล้วก็รู้สึกหวาดกลัวกัน

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมนางข้ามพิภพ