สรุปเนื้อหา บทที่23 ให้แล้วจริงๆ – จอมยุทธ์กบฏโลก โดย เหมยปาเหย
บท บทที่23 ให้แล้วจริงๆ ของ จอมยุทธ์กบฏโลก ในหมวดนิยายใช้ชีวิต เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย เหมยปาเหย อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที
บทที่23 ให้แล้วจริงๆ
ในตอนที่ถึงโรงงานอิฐก็เป็นเวลาตีสี่สี่สิบนาทีแล้ว นี่เป็นเพราะฉู่เทียนเจียงตั้งใจมุ่งตรงมาที่นี่ถึงได้มาถึงเร็วขนาดนี้
พอแล้วไปในลาน ก็เห็นศพทั้งสามร่างถูกคลุมด้วยผ้าสามผืนวางอยู่ตรงกลาง แล้วชายอายุประมาณห้าสิบปีก็เดินมาทางฉู่เทียนเจียง
“เทียนเจียงสินะ”
ไม่ต้องบอก ก็รู้ว่าคนนี้ก็คืออาหง ด้านหลังนั้นยังมีหลายคนตามมาด้วย คงเป็นคนงานของโรงงานอิฐทั้งหมด
ฉู่เทียนเจียงรู้ว่า หลังจากคืนสัญญาแล้ว เป็นเพราะชุมชนใหม่จะเริ่มสร้างกันแล้ว เพราะฉะนั้นโรงงานอิฐก็ทำงานกันมากขึ้น
“120มาแล้วไปรึยัง”
พอได้ยินคำถามแล้ว อาหงก็พยักหน้า
“มาไปแล้วครับ ได้รับประกาศว่าตายหมดแล้วครับ ให้พวกเราแจ้งตำรวจรอผลตรวจชันสูตรศพ หมอในรถนั้นบอกว่า เบื้องต้นสันนิษฐานว่าหัวใจวายเฉียบพลันครับ”
พูดถึงตอนนี้แล้ว สีหน้าของอาหงก็แปลกๆ เล็กน้อย
“หนุ่มร่างกายแข็งแรงทั้งสามคนหัวใจวายเฉียบพลันพร้อมกันแบบนี้ มีโอกาสเกิดขึ้นน้อยกว่าถูกลอตเตอรี่ด้วยซ้ำ”
ฉู่เทียนเจียงโน้มตัวลงไปเปิดผ้าขาวออก แล้วเริ่มตรวจสอบ แล้วก็ไม่ได้ตอบอะไร
อาหงสบตากับพนักงานสองสามคนไปทีนึง ดูออกเลยว่าต่างก็ลุกลี้ลุกลนอยู่ข้างใน
ฮัวเหวินฮุยที่เป็นถึงประธานโรงงานอิฐ ฉู่เทียนเจียงที่หนีการเป็นลูกเขยที่ถูกรังแกด้วยการไปเกณฑ์ทหารกลับมา พวกเขาจะไม่รู้ได้ยังไง
วันนี้พอเห็นว่าฉู่เทียนเจียงมาจัดการเรื่องที่ใหญ่โตแบบนี้แล้ว ทุกคนต่างก็พากันรู้สึกพูดไม่ออกบอกไม่ถูกกันเลยทีเดียว
พูดคำที่น่าเกลียดหน่อยก็คือ คนไร้ประโยชน์แบบนี้ จะจัดการอะไรได้ เดินยังไม่เป็นก็อยากจะว่างซะละ
“แจ้งครอบครัวรึยัง”
“แจ้งแล้วครับ โทรหาประธานฮัวเสร็จก็แจ้งไปแล้วครับ เทียนเจียง นาย……นายกลับไปก่อนเถอะ ไม่งั้นถ้าครอบครัวของทั้งสามมาถึงแล้ว นางคงโดนต่อยตายแน่ๆ ”
พวกพนักงานสองสามคนที่อยู่ข้างๆ ก็พากันพูดเสริมขึ้น แล้วก็เริ่มพูดจาไม่ดีขึ้นแล้ว
“พี่หงพูดถูก นายไปหลบก่อนเถอะ งานนี้ต้องให้ประธานฮัวมาจัดการ นายน่ะ ใช้ไม่ได้”
"นายชื่อฉู่เทียนเจียงใช่ไหม อย่าหาว่าฉันพูดจาไม่ดีเลยนะ นี่เป็นเรื่องคนตายเป็นเรื่องใหญ่ อีกอย่างก็ตายตั้งสามคน นายคิดว่านายจะจัดการได้ไหม"
พวกเขารู้ดีว่าตำแหน่งลูกเขยกระจอกนั้นยังไม่เท่าหมาเลยด้วยซ้ำ เลยกล้าพูดแบบนี้ จริงๆ แล้วเป้าหมายก็ถือว่าดี พวกเขากลัวว่าโรงงานจะโดนสั่งปิดเพราะเรื่องนี้
ในตอนนี้ ฉู่เทียนเจียงก็ค่อยๆ ยืดตัวขึ้น และไม่ได้สนใจคำพูดพวกนี้อยู่แล้ว แต่กลับมองไปที่อาหงแล้วพูด
"อาหงครับ รบกวนเอาแล็ปท็อปมาหน่อยครับ และช่วยพิมพ์หนังสือรับรองหน่อยสักสองสามฉบับให้หน่อยครับ"
อึ้งไปสักพัก อาหงก็ยังโบกมือให้คนที่อยู่ด้านหลังคนนึง แล้วลูกน้องก็รีบไป
เห็นแบบนั้นแล้ว หนึ่งในพนักงานเก่าที่อายุเยอะหน่อยก็ไม่พอใจเป็นอย่างมาก โมโหจนเอาขวดน้ำในมือขว้างลงไปที่พื้น
“ฉู่เทียนเจียง มึงเห็นคำพูดกูเป็นลมรึไง เรื่องใหญ่ขนาดนี้ เด็กเห่อหมอยที่ไม่มีอำนาจสักนิดอย่างมึงจะจัดการได้รึไง รีบโทรหาประธานฮัวเดี๋ยวนี้ ได้ยินไหม ตอนนี้โรงงานทำโอทีกันอยู่ ในช่วงครึ่งปีหลังโบนัสคอมมิชชันต่างๆ จะสูงมาก ถ้าจัดการเรื่องนี้ไม่ดีโรงงานก็จะโดนปิด มึงยังจะมาทำอะไรเกินตัวอีก เป็นแค่ลูกเขยกระจอกยังจะเอาหน้า ตอนนี้มึงกำลังเล่นกับชีวิตกูอยู่”
จำพูดที่แทงใจแบบนั้น สีหน้าของอาหงก็เปลี่ยนไป ถึงเขาจะเป็นลูกเขยกระจอก แต่แบบนี้ก็ไม่ไว้หน้าเกินไปแล้ว
อาหงที่โบกมือห้ามแล้วจะพูด ฉู่เทียนเจียงก็เข้าใจ บางทีคนทั้งบ้านอาจจะพึ่งคนๆ เดียวก็ได้
พวกอาหงต่างพากันงงตาแตกกันหมด ชดเชยคนละหนึ่งล้าน เงินชดเชยนี้สูงเกินไปรึเปล่า จากที่เขารู้ว่าฮัวเหวินฮุยอยู่ในตระกูลฮัวนั้นนับว่าเป็นคนที่ไม่มีเงินที่สุดเลยล่ะ เงินสามล้านนี้ เอาอะไรไปใช้ล่ะ
“รู้สึกว่าฉู่เทียนเจียงนี่ไม่ใช่แค่ลูกเขยกระจอกที่ไร้ประโยชน์อย่างเดียว ยังเป็นไอ้โง่อีกด้วยถ้าเรื่องมันจัดการได้ง่ายขนาดนี้ แล้วจะเอาเขามาทำไม”
“ไม่ใช่นะครับ ประธานฮัวมีเงินสำรองสามล้านที่ไหนกัน ในการใช้จ่ายทั้งหมดโรงอิฐแห่งนี้เป็นโรงงานของท่านผู้ใหญ่ฮัว นอกจากเงินเดือนและสิ่งจำเป็นแล้ว ไม่อนุญาตให้นำเงินในสมุดบัญชีไปใช้ บางทีฉู่เทียนเจียงคงจะโง่จริงๆ ”
พนักงานทั้งสองสามหัวเราะอยู่ข้างหลัง แต่ ฉู่เทียนเจียงกลับพยายามทำเสียงอ่อนโยนลงหน่อย
"คุณน้าครับ เรื่องได้เกิดขึ้นแล้ว คนตายแล้วก็ไม่สามารถฟื้นมาได้ สิ่งที่เราทำได้ตอนนี้คือทำให้ครอบครัวของคุณมีชีวิตที่ดีขึ้น ถ้าคุณน้าโดนฟ้องจริง เชื่อผมสิว่าคุณน้าจะไม่ได้แม้แต่ครึ่งนึงของหนึ่งล้านเลยล่ะ หรืออาจจะน้อยกว่านั้น ยังไงพวกเขาก็เสียชีวิตด้วยอาการหัวใจวายเฉียบพลัน มันไม่เกี่ยวอะไรกับการทำงานของโรงงานของเราหรืออย่างอื่นเลยสักนิด "
เมื่อได้ยินแบบนี้ ชายทั้งสามคนที่สามารถเป็นเจ้าของได้ก็เงียบกันทั้งหมด ถึงแม้ว่าพวกเขาคิดว่าลูกชายของพวกเขาไม่ได้หัวใจวาย แต่ถ้ามันเป็นเรื่องจริง เงินที่จะได้นั้นก็ต้องน้อยลงอีกแน่ๆ
ในตอนนี้ ชายวัยกลางคนที่มาถึงก่อน ก็หยิบบัตรธนาคารออกมาใบนึงแล้วเดินไปที่ ฉู่เทียนเจียงและพูดอย่างเย็นชา
“ฉันสามารถเซ็นรับรองได้ แต่ถ้าหมอชันสูตรแล้วบอกว่าไม่ใช่การตายเพราะโรคหัวใจ เรื่องเงิน ฉันจะคืนให้ จากนั้นก็ให้นายไปอยู่ในคุก ถึงจะไม่ได้เงิน ฉันก็จะต้องขอความเป็นธรรมให้กับลูกชายของฉัน”
“ได้ นี่เป็นอำนาจของคุณ”
ดูรหัสบัตรไปทีนึง ป้อนเข้าไป คลิกเมาส์ ชายวัยกลางคนหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดู ในตาก็รู้สึกเหลือเชื่อเล็กน้อย
“ล้านนึง โอนไปแล้วจริงๆ”
พออีกสองคนเห็นว่า ในตอนนั้นก็ไม่มีทางเลือกอื่นแล้ว ทำได้แค่เอาบัตรเอทีเอ็มออกมา แล้วเงินฝากทั้งหมดของพวกเขาก็โอนเข้ามาแล้ว
ทันใดนั้น พวกพนักงานเก่าสองสามคนและอาหงต่างก็พากันอึ้งทึ่งกันหมด
“สามล้าน ให้ไปแล้ว ……จริงหรอ ประเด็นคือฉู่เทียนเจียงเอาเงินมาจากไหน”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมยุทธ์กบฏโลก