บทที่28 คนชั้นต่ำอย่างแก
หลังจากที่ฉู่เทียนเจียงพูดจบฮัวว่านถงก็เขวี้ยงตะเกียบทิ้งและลุกขึ้นพลางชี้ไปที่ฉู่เทียนเจียง
และตะคอก
“แกว่าใครเป็นหมา?”
ทันใดนั้นฉู่เทียนเจียงก็จับนิ้วของฮัวว่านถงที่เกือบชี้โดนจมูกเอาไว้
“ฮัวว่านถงเป็นคนต้องหัดมีมารยาทบ้าง อย่าสาดคำหยาบเรี่ยราดเข้าใจไหม?
ไม่งั้นฉันเจอแกครั้งนึงตบแกครั้งนึง”
ฮัวว่านถงเจ็บจนกัดฟัน ในขณะเดียวกันก็มีมือวางไว้บนบ่าของฉู่เทียนเจียง
“น้องชายเป็นคนต้องถ่อมตัวเหนือฟ้ายังมีฟ้านะ”
เมื่อเห็นว่าเป็นเจียงหลงทั้งโต๊ะอาหารก็ไม่มีใครส่งเสียงเลย แม้แต่ท่านผู้ใหญ่ฮัวอานไท่
ยังฟังคำแนะนำของฮัวฝู้โก๋เจียงหลงที่จะเป็นลูกเขยในอนาคตไม่ง่ายเลย ราชาแห่งรบ
ในเซาเทิร์นแลนด์ที่เกษียณแล้วจัดการฉู่เทียนเจียงก็น่าจะเกินพอแล้ว
ไม่สินี่มันคือการทำเรื่องเล็กให้เป็นเรื่องใหญ่
เมื่อปล่อยฮัวว่านถง ฉู่เทียนเจียงก็ค่อยๆ เอามือของเจียงหลงออกแล้วขมวดคิ้วพลางพูด
“ใครเป็นน้องชายแก แกมีสิทธิ์เหรอ?”
ในขณะนี้เจียงหลงหัวเราะออกมา
“ฮ่าๆแน่จริงนิ งั้นพวกเรามีโอกาสค่อยพบกันใหม่”
เมื่อออกจากโรงแรมซื่อจี้แล้วขึ้นรถอาวดี้ ฮัวเหวินฮุยก็ระเบิดออกมา
“ฮัวฝู้โก๋! แกไม่สมควรเป็นพี่น้องกับฉัน!”
โรงอิฐถูกยึดไปหมายความว่าอะไร หมายความว่าพวกเขาจะไม่มีรายรับแล้วยังไงละ
ตระกูลฮัวของพวกเขาถือว่าทำงานให้กับท่านผู้ใหญ่ จะทำธุรกิจเองก็ไม่ได้การอนุญาต
อย่างแน่นอน เมื่อสูญเสียไปทั้งหมดก็เท่ากับว่าไม่เหลืออะไรแล้ว
“พ่อ ท่านอย่าโมโหไปฉันไม่เชื่อหรอกว่าจากคุณปู่ไปเราจะใช้ชีวิตได้อย่างยากลำบาก”
ฉู่เทียนเจียงที่นั่งฝั่งคนขับยิ้มพลางพูด
“พ่อท่านวางใจได้สักวันไม่ช้าก็เร็วพวกคุณปู่จะต้องเสียใจภายหลังแน่ ว่าแต่พ่อท่านเสียดาย
โรงอิฐเหรอ?”
ฮัวเหวินฮุยถอนหายใจละยิ้ม
“มีอะไรน่าเสียดายในเมื่อมันไม่มีแล้ว แต่ว่าปู่แกสามารถให้ฉันทำงานที่โรงอิฐก็ถือว่า
รักกันมากพอแล้ว เฮ้อกลับบ้านเถอะค่อยคุยกัน”
ฉู่เทียนเจียงพยักหน้า
“ในเมื่อพ่อท่านเสียดายโรงอิฐงั้นพวกเราเปิดร้านใหม่ก็พอแล้วมั้ย ผมรับรองภายใน
หนึ่งเดือนโรงอิฐของฝั่งท่านผู้ใหญ่ล้มละลายแน่”
ฮัวจิ่นถิงที่นั่งอยู่ด้านหลังทนไม่ไหวรู้สึกว่าหลังจากที่ฉู่เทียนเจียงกลับมาชอบพูดคำใหญ่คำโต
“คุณเบาๆ หน่อยคิดว่ากำลังเล่นเกมสร้างบ้านเหรอ? คุณปู่ลงทุนไปหลายล้านกับโรงอิฐนั้น
คุณคิดว่าอยากเปิดก็เปิดได้เหรอ?“
“พวกคุณก็คิดในแง่ลบเกินไป”
ว่าพลางฉู่เทียนเจียงก็จัดทรงผมของตัวเอง และพูดต่ออย่างไม่แยแส
“ยังจำเจ้านายของร้านอาหารจู๋ยุ่นได้มั้ยที่ชื่อเหลียนเฉิง? เขาติดหนี้ผม เป็นผู้มีพระคุณช่วยชีวิตเชียวนะ
จะชดเชยด้วยอาหารมื้อเดียวได้อย่างไร ผมจะส่งข้อความถึงเขาตอนนี้และพยายามให้เขา
ทำสิ่งต่างๆให้ลุล่วงในวันพรุ่งนี้”
เมื่อได้ยินแบบนี้สายตาของฮัวเหวินฮุยก็ประกาย ฮัวจิ่นถิงก็ตกตะลึงไปชั่วขณะแล้ว
ถามอย่างเขินๆ
“มัน....มันจะสำเร็จเหรอ? ยังไงก็หลายล้านนะเจ้านายเหลียนจะตอบตกลงเหรอ?”
“เรื่องนี้พวกคุณก็อย่าสนใจเลย”
ช่วงเที่ยงของวันที่สอง ฮัวเหวินฮุยได้กลับมาก่อนที่อาหารเที่ยงเสร็จ
“พ่อเปลี่ยนตำแหน่งกับอาโกวเสร็จแล้วเหรอคะ?”
คำถามของฮัวจิ่นถิงทำเอาฮัวเหวินฮุยขำ
“เฮ้อพ่ออย่างฉันสู้อาโกวของลูกไม่ได้เลย เธอและอาเขยของลูกตอนนี้กำลังทำธุรกิจเล็กๆ
แม้ว่าพวกเขาจะทำเงินได้ไม่มากแต่ทั้งครอบครัวก็ไม่ต้องกังวลเรื่องการกินอยู่เลยเธอไม่อยาก
ยุ่งเกี่ยวธุรกิจใดๆจากตระกูลฮัว ดังนั้นพ่อจึงไปบ้านคุณปู่ลูกมาและบอกกับท่านผู้ใหญ่ว่า
“โรงอิฐอยากให้ใครก็ให้ไปเลย”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ฉู่เทียนเจียงก็ยิ้มออกมา
“ความสัมพันธ์ดีแต่อาโกวไม่อยากยุ่งงั้นเราก็สามารถทำได้อย่างสบายใจ
พ่อรู้มั้ยว่าโรงอิฐเฟิงทงอยู่ที่ไหน?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมยุทธ์กบฏโลก