จอมยุทธ์กบฏโลก นิยาย บท 29

สรุปบท บทที่29 คนที่โหดร้ายที่สุด: จอมยุทธ์กบฏโลก

สรุปตอน บทที่29 คนที่โหดร้ายที่สุด – จากเรื่อง จอมยุทธ์กบฏโลก โดย เหมยปาเหย

ตอน บทที่29 คนที่โหดร้ายที่สุด ของนิยายใช้ชีวิตเรื่องดัง จอมยุทธ์กบฏโลก โดยนักเขียน เหมยปาเหย เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง

บทที่29 คนที่โหดร้ายที่สุด

“ฮือๆ ขอโทษค่ะคุณน้าอีอีไม่ได้ตั้งใจ”

การดุด่าเป็นเพียงเบื้องหน้า ฮัวเมิ่งหยวนยกมือขวาของเธอขึ้นและตรงไปยังที่อีอีที่ยังคงร้องไห้

และขอโทษ

“แก! พอได้แล้ว!”

เสียงเย็นดังแทรกเข้ามา ข้อมือของฮัวเมิ่งหยวนถูกฉู่เทียนเจียงจับไว้

“ฉู่เทียนเจียง? แกปล่อยฉันนะ! ลูกสาวแกทำหน้าฉันพังไปหมด ทำไมฉันจะสั่งสอนไม่ได้!”

ฉู่เทียนเจียงถลึงตาด้วยความโกรธ เขายังนึกว่าน้าสาวอย่างฮัวเมิ่งหยวนเปลี่ยนเป็นคนดีแล้ว

ตอนนี้ดูเหมือนว่าภาพนั้นเป็นภาพที่หลอกลวงชัดๆ มืออีกข้างยกขึ้นมากำลังจะตบไปที่

ใบหน้ารูปไข่แต่มีเสียงตำหนิดังขึ้น

“ฉู่เทียนเจียงแกกล้าเหรอ!”

หลิวหลานและฮัวจิ่นถิงรีบวิ่งเข้ามา เมื่อกี้พวกเธออยู่ห้องนอนไม่รู้ว่าทำอะไรพอได้ยินเสียงดัง

จึงรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น

เมื่อเห็นแม่ยายสายตาของฉู่เทียนเจียงเริ่มเย็นชา

“เธอสมควรโดนตบ!เธอด่าอีอีว่าเป็นพวกชั้นต่ำ ผู้หญิงแบบนี้ไม่เหมาะที่จะเป็นครอบครัว

ด้วยกัน”

ไม่ต้องถึงขั้นให้ฉู่เทียนเจียงพูด พวกเธอทั้งสองก็ได้ยินอย่างชัดเจนกับคำด่าที่ฮัวเมิ่งหยวนด่า

อีอีในเมื่อกี้ แม้จะเป็นเช่นนี้หลิวหลานก็ได้ยืนอยู่ตรงหน้าเพื่อบังฮัวเมิ่งหยวน

“จะสั่งสอนก็ต้องให้ฉันเป็นคนสั่งสอน แกไม่มีสิทธิ์ตีลูกสาวฉันปล่อยมือเดี๋ยวนี้”

สายตาของฮัวจิ่นถิงที่อุ้มอีอีอยู่ไม่ได้รู้สึกโกรธแต่กลับรู้สึกผิดหวัง

“เมิ่งหยวนฉันจำได้ว่าฉันเคยบอกเธอแล้วนิ ถ้าเธอยังกล้าว่าอีอีอีก....”

“ฉันว่าแล้วจะทำไม! เธอดูหน้าฉันสิลูกสาวเธอทำทั้งนั้น ฉันยังหาแฟนไม่ได้เลย

เธอหรือฉู่เทียนเจียงรับผิดชอบได้เหรอ?”

ใบหน้าของฮัวเมิ่งหยวนมีเพียงรอยขีดข่วนจากของเล่นเท่านั้นเองและมีเพียงรอยเลือดซึม

ออกมานิดๆ เป็นแผลเล็กน้อยที่ไม่กี่วันก็หาย พูดอย่างกับว่าหน้าเสียโฉมอย่างงั้น

“แกไสหัวออกไป!”

สายตาฮัวจิ่นถิงไร้ซึ่งอารมณ์เธอชี้ไปที่ประตู น้องสาวคนนี้สุดจะเยียวยา

“ก็ได้ ดูเหมือนว่าบ้านนี้จะทนฉันไม่ไหวแล้ว ฉันไปเอง!”

เพิ่งหยิบกระเป๋าฉู่เทียนเจียงก็ไปขวางทางเดินของฮัวเมิ่งหยวน

เมื่อเห็นสายตานั้นจะบอกว่าฮัวเมิ่งหยวนไม่กลัวก็คงจะเป็นเรื่องโกหกแต่ก็ต้องแกล้งทำเป็นเก่งก่อนจะพูด

“ฉู่เทียนเจียงแกคิดอยากจะทำอะไร! แม่ดูมันสิ”

หลิวหลานถอนหายใจ

“เทียนเจียงปล่อยเธอไปเถอะ”

แต่จู่ๆ ฉู่เทียนเจียงก็ส่ายหัว

“จะไปเหรอก็ได้ ฮัวเมิ่งหยวนเงินหนึ่งแสนที่เธอยืมจากเหลียนเฉิงเอาออกมา”

อะไรนะ? ฮัวจิ่นถิงกับหลิวหลานคิดว่าตัวเองนั้นฟังผิดและมองไปอย่างเหลือเชื่อ

“เมิ่งหยวน แก....แกไปยืมเงินกับเจ้านายเหลียนเฉิงหนึ่งแสนเหรอ? แกจะทำอะไร?”

มองหลิวหลานอย่างคาดหวัง ฮัวเมิ่งหยวนพูดอย่างเย็นชา

“ทำอะไรละ? รถเบนซ์ไม่เปลืองน้ำมันเหรอ? ดูแลรักษาหน้าไม่ใช้ตังไง? เหลียนเฉิงรวย

ขนาดนั้นแสนนึงสำหรับเขาก็เหมือนหนึ่งร้อยไม่ต่างอะไรกันเลย ไม่ได้ยืมฟรีพวกแกยุ่งได้

ด้วยเหรอ? แน่จริงพวกแกก็ไปยืมสิ”

จู่ๆ ฉู่เทียนเจียงก็รู้สึกว่าน้าคนนี้น่าชิงชังกว่าพวกท่านผู้ใหญ่แต่แม่ยายก็ปกป้องเธอเสมอมา

“พอได้แล้ว ลูกกลับโรงเรียนไปเถอะเงินแสนนึงนั้นเดี๋ยวแม่กับพ่อของลูกหาวิธีไปคืน

เจ้านายเหลียนเอง ยังมีอีกคราวหน้าดีกับอีอีหน่อยเขาเป็นหลานเธอนะ

ลูกหยุดเอาแต่ใจได้ไหม”

“เข้าใจแล้ว”

โบกมืออย่างไม่สบอารมณ์แม้แต่ตอนไปฮัวเมิ่งหยวนก็มองไปที่ฉู่เทียนเจียงอย่างชนะ

เหมือนกับกำลังพูดว่าดูสิแกทำอะไรฉันไม่ได้หรอก

หลังจากที่ฮัวเมิ่งหยวนจากไป หลิวหลานก็หันไปพูดกับฉู่เทียนเจียงอย่างจริงใจ

“เทียนเจียง ฉันรู้ว่าสิ่งที่เมิ่งหยวนทำมันไม่ถูกต้องแต่เธอยังเป็นเด็กและแกก็เป็นพี่เขยต้องรู้จัก

“แบบนี้สิดี ไม่อย่างนั้นพ่อของฉันก็จะไปเอาโรงอิฐมาและให้ฉันดูแล?”

“ก็จริง งั้นแสดงว่าในอนาคตเงินของพี่ก็มากขึ้น”

ฮัวเสี่ยวเจี๋ยเป็นลูกบุญธรรมของลูกชายคนโตของตระกูลฮัวอย่างฮัวจื้อหย่วน

คนที่ไม่เอาวิชากลับเป็นคนที่มี ‘พรสวรรค์’ ที่ทำตัวเสเพล หลายๆครั้งฮัวจื้อหย่วนก็รู้สึกเสียใจ

ภายหลังที่เลี้ยงตัวไร้ประโยชน์ไว้แต่ดันสร้างความสัมพันธ์ขึ้นมาแล้วทำไงได้ละ

เอาตามตรงบางครั้งฮัวว่านถงก็รู้สึกอิจฉาลูกพี่ลูกน้องอย่างฮัวเสี่ยวเจี๋ย แต่ละวันยกเว้นเล่นก็ไม่

ต้องทำอะไรเลย คราวนี้ลุงใหญ่ของเขาโยนโรงอิฐทิ้งอันที่จริงเขาต้องการสร้างความประทับใจ

ให้กับท่านผู้ใหญ่ อีกอย่างวัตถุประสงค์ของลูกบุญธรรมคือการได้รับการยอมรับจากท่านผู้ใหญ่

และสืบทอดมรดกในอนาคต

“ไม่หรอก คราวหน้าพี่เชิญนายมาเล่นอีก ว่าแต่ได้ข่าวว่าโดนฉู่เทียนเจียงเล่นงานเหรอ?ฮ่าๆ

ถ้ามันกล้ายั่วโมโหฉันนะ จะฆ่ามันโดยไม่กะพริบตาเลย”

ฮัวว่านถงทำไรได้นอกจากยิ้มตาม น่าเสียดายที่พี่เขยของเขาเจียงหลงมีธุระที่จะต้องไป

ต่างประเทศอย่างกะทันหันจะกลับมาตอนไหนก็ยังไม่แน่ใจ ไม่เช่นนั้นฉู่เทียนเจียงได้ตาย

อย่างทรมานแน่

อย่างไรก็ตามก่อนที่เจียงหลงจะจากไปก็ได้ทิ้งแพลนบีไว้ให้กับเขาและมันก็เพียงที่

จะจัดการกับฉู่เทียนเจียงแล้ว

และในตอนนี้เสียงโทรศัพท์ของฮัวว่านถงก็ดังขึ้น เมื่อเห็นว่าเป็นฉงจื่อโทรมาจึงแสยะยิ้มออกมา

และหันไปพูดกับฮัวเสี่ยวเจี๋ย

“พี่ หนังดีที่ผมเคยบอกพี่กำลังจะฉายแล้วดูให้ดี รอดูคนไร้ประโยชน์อย่างฉู่เทียนเจียงจะพิการ

ยังไง และนี่มันเพิ่งเริ่มต้น”

รับโทรศัพท์ มีเสียงของฉงจื่อจากปลายสาย

“ฉู่เทียนเจียงมาถึงบาร์แล้วอยู่ชั้นหนึ่ง คุณชายฮัวเตรียมจ่ายมัดจำสุดท้ายมาได้เลย เดี๋ยวผมจะ

ทำการวีดีโอคอลตามติดสถานการณ์ให้คุณ รับรองว่าคุณต้องพอใจ”

ดวงตาของฮัวว่านถงเป็นเปร่งความร้ายออกมาเล็กน้อย

“โอเค งั้นฉันจะรอคลิปจากนาย”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมยุทธ์กบฏโลก