บทที่29 คนที่โหดร้ายที่สุด
“ฮือๆ ขอโทษค่ะคุณน้าอีอีไม่ได้ตั้งใจ”
การดุด่าเป็นเพียงเบื้องหน้า ฮัวเมิ่งหยวนยกมือขวาของเธอขึ้นและตรงไปยังที่อีอีที่ยังคงร้องไห้
และขอโทษ
“แก! พอได้แล้ว!”
เสียงเย็นดังแทรกเข้ามา ข้อมือของฮัวเมิ่งหยวนถูกฉู่เทียนเจียงจับไว้
“ฉู่เทียนเจียง? แกปล่อยฉันนะ! ลูกสาวแกทำหน้าฉันพังไปหมด ทำไมฉันจะสั่งสอนไม่ได้!”
ฉู่เทียนเจียงถลึงตาด้วยความโกรธ เขายังนึกว่าน้าสาวอย่างฮัวเมิ่งหยวนเปลี่ยนเป็นคนดีแล้ว
ตอนนี้ดูเหมือนว่าภาพนั้นเป็นภาพที่หลอกลวงชัดๆ มืออีกข้างยกขึ้นมากำลังจะตบไปที่
ใบหน้ารูปไข่แต่มีเสียงตำหนิดังขึ้น
“ฉู่เทียนเจียงแกกล้าเหรอ!”
หลิวหลานและฮัวจิ่นถิงรีบวิ่งเข้ามา เมื่อกี้พวกเธออยู่ห้องนอนไม่รู้ว่าทำอะไรพอได้ยินเสียงดัง
จึงรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น
เมื่อเห็นแม่ยายสายตาของฉู่เทียนเจียงเริ่มเย็นชา
“เธอสมควรโดนตบ!เธอด่าอีอีว่าเป็นพวกชั้นต่ำ ผู้หญิงแบบนี้ไม่เหมาะที่จะเป็นครอบครัว
ด้วยกัน”
ไม่ต้องถึงขั้นให้ฉู่เทียนเจียงพูด พวกเธอทั้งสองก็ได้ยินอย่างชัดเจนกับคำด่าที่ฮัวเมิ่งหยวนด่า
อีอีในเมื่อกี้ แม้จะเป็นเช่นนี้หลิวหลานก็ได้ยืนอยู่ตรงหน้าเพื่อบังฮัวเมิ่งหยวน
“จะสั่งสอนก็ต้องให้ฉันเป็นคนสั่งสอน แกไม่มีสิทธิ์ตีลูกสาวฉันปล่อยมือเดี๋ยวนี้”
สายตาของฮัวจิ่นถิงที่อุ้มอีอีอยู่ไม่ได้รู้สึกโกรธแต่กลับรู้สึกผิดหวัง
“เมิ่งหยวนฉันจำได้ว่าฉันเคยบอกเธอแล้วนิ ถ้าเธอยังกล้าว่าอีอีอีก....”
“ฉันว่าแล้วจะทำไม! เธอดูหน้าฉันสิลูกสาวเธอทำทั้งนั้น ฉันยังหาแฟนไม่ได้เลย
เธอหรือฉู่เทียนเจียงรับผิดชอบได้เหรอ?”
ใบหน้าของฮัวเมิ่งหยวนมีเพียงรอยขีดข่วนจากของเล่นเท่านั้นเองและมีเพียงรอยเลือดซึม
ออกมานิดๆ เป็นแผลเล็กน้อยที่ไม่กี่วันก็หาย พูดอย่างกับว่าหน้าเสียโฉมอย่างงั้น
“แกไสหัวออกไป!”
สายตาฮัวจิ่นถิงไร้ซึ่งอารมณ์เธอชี้ไปที่ประตู น้องสาวคนนี้สุดจะเยียวยา
“ก็ได้ ดูเหมือนว่าบ้านนี้จะทนฉันไม่ไหวแล้ว ฉันไปเอง!”
เพิ่งหยิบกระเป๋าฉู่เทียนเจียงก็ไปขวางทางเดินของฮัวเมิ่งหยวน
เมื่อเห็นสายตานั้นจะบอกว่าฮัวเมิ่งหยวนไม่กลัวก็คงจะเป็นเรื่องโกหกแต่ก็ต้องแกล้งทำเป็นเก่งก่อนจะพูด
“ฉู่เทียนเจียงแกคิดอยากจะทำอะไร! แม่ดูมันสิ”
หลิวหลานถอนหายใจ
“เทียนเจียงปล่อยเธอไปเถอะ”
แต่จู่ๆ ฉู่เทียนเจียงก็ส่ายหัว
“จะไปเหรอก็ได้ ฮัวเมิ่งหยวนเงินหนึ่งแสนที่เธอยืมจากเหลียนเฉิงเอาออกมา”
อะไรนะ? ฮัวจิ่นถิงกับหลิวหลานคิดว่าตัวเองนั้นฟังผิดและมองไปอย่างเหลือเชื่อ
“เมิ่งหยวน แก....แกไปยืมเงินกับเจ้านายเหลียนเฉิงหนึ่งแสนเหรอ? แกจะทำอะไร?”
มองหลิวหลานอย่างคาดหวัง ฮัวเมิ่งหยวนพูดอย่างเย็นชา
“ทำอะไรละ? รถเบนซ์ไม่เปลืองน้ำมันเหรอ? ดูแลรักษาหน้าไม่ใช้ตังไง? เหลียนเฉิงรวย
ขนาดนั้นแสนนึงสำหรับเขาก็เหมือนหนึ่งร้อยไม่ต่างอะไรกันเลย ไม่ได้ยืมฟรีพวกแกยุ่งได้
ด้วยเหรอ? แน่จริงพวกแกก็ไปยืมสิ”
จู่ๆ ฉู่เทียนเจียงก็รู้สึกว่าน้าคนนี้น่าชิงชังกว่าพวกท่านผู้ใหญ่แต่แม่ยายก็ปกป้องเธอเสมอมา
“พอได้แล้ว ลูกกลับโรงเรียนไปเถอะเงินแสนนึงนั้นเดี๋ยวแม่กับพ่อของลูกหาวิธีไปคืน
เจ้านายเหลียนเอง ยังมีอีกคราวหน้าดีกับอีอีหน่อยเขาเป็นหลานเธอนะ
ลูกหยุดเอาแต่ใจได้ไหม”
“เข้าใจแล้ว”
โบกมืออย่างไม่สบอารมณ์แม้แต่ตอนไปฮัวเมิ่งหยวนก็มองไปที่ฉู่เทียนเจียงอย่างชนะ
เหมือนกับกำลังพูดว่าดูสิแกทำอะไรฉันไม่ได้หรอก
หลังจากที่ฮัวเมิ่งหยวนจากไป หลิวหลานก็หันไปพูดกับฉู่เทียนเจียงอย่างจริงใจ
“เทียนเจียง ฉันรู้ว่าสิ่งที่เมิ่งหยวนทำมันไม่ถูกต้องแต่เธอยังเป็นเด็กและแกก็เป็นพี่เขยต้องรู้จัก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมยุทธ์กบฏโลก