บทที่ 32 มากับฉัน
ฝั่งฉู่เทียนเจียงมีความสุขร่วมสมัครสมาน แต่บ้านของฮัวจื้อหย่วนกลับมีความเศร้าและขุ่นมัว
“พ่อ! นี่.....ไม่เกี่ยวกับผม ผมไม่รู้เรื่องอะไรเลย ยังไม่ทันได้ไปโรงอิฐด้วยซ้ำ ก็เกิดเรื่องขึ้นแล้ว ไม่เกี่ยวกับผมจริงๆ นะ”
ฟังฮัวเสี่ยวเจี๋ยลูกชายตัวเองร้องไห้ระบายออกมา ฮัวจื้อหย่วนจึงเตะไปหนึ่งที
“ไร้ประโยชน์! วันๆ ใช้ชีวิตสำมะเลเทเมา เพิ่งหนึ่งทุ่มแกลองดมกลิ่นเหล้าบนตัวแกสิว่าแรงแค่ไหน ฉันโทรถามมาแล้วเบื้องหลังมีคนอยากทำลายโรงอิฐซิงฮุย ฉันไปบ้านปู่แกแป๊บนึง อย่าให้ความรับผิดชอบนี้ตกมาถึงบ้านเรา”
มีคนต้องการทำลายโรงอิฐอย่างนั้นเหรอ ฮัวเสี่ยวเจี๋ยอึ้งไป
“พ่อ ใครมันอวดดีเช่นนี้ กล้าแม้กระทั่งจะทำลายบ้านของเรา ให้ผมหาคนมาฆ่ามันดีไหม”
เพียะ!
ฝ่ามือตบไปที่ท้ายทอยของฮัวเสี่ยวเจี๋ย มันมาจากควมโกรธของฮัวจื้อหย่วน
“มือไม่พายเอาเท้าราน้ำ แกคิดว่าตระกูลฮัวของเรามีอำนาจในเมืองหนิงเหรอ? มีคนที่มีอำนาจกว่าเรา สามารถขยี้ให้พวกเราตายได้โดยใช้เพียงนิ้วเดียว แกอยู่บ้านดีๆ ล่ะ อีกสองวันพี่สาวของแกจะกลับมา เธอจะมาจัดการแก ฉันไม่สนใจแกแล้ว”
อู๋ฮัวฮัวเดินมากอดฮัวเสี่ยวเจี๋ย เห็นว่าฮัวจื้อหย่วนพูดอย่างไม่สบอารมณ์
“พอได้แล้ว อารมณ์เสียก็มาลงกับลูก คุณเก่งจริงก็หาเงินให้มากกว่านี้หน่อยสิ ดูพวกลูกผู้ดีมีเงินพวกนั้นสิ ใช้เงินทั้งชีวิตก็ไม่หมด พูดแบบน่าเกลียดก็คือคุณให้ลูกชายของคุณสักร้อยล้าน เขาก็สามารถทำเงินให้คุณกลับคืนมาได้มากมาย”
ฮัวจื้อหยวนส่งเสียงหึออกมาอย่างเยือกเย็นและไม่ได้พูดอะไร และเดินออก เขาสงสัยว่าทำไมเหลียนเฉิงถึงลงมือกับโรงอิฐของเขา นี่เป็นเรื่องที่ไม่สมเหตุสมผลเลย พวกเขาไม่เคยไปมาหาสู่กัน ไม่เคยมีเรื่องขัดแย้งกัน ทำไมถึงเกิดเรื่องแบบนี้
ในตอนนี้โรงอิฐซิงฮุยถูกสั่งปิดเพราะเรื่องของคุณภาพ และพวกที่ทำธุรกิจด้วยกัน ต่างให้พวกเขาคืนเงินให้ ถ้าทำพลาดอาจจะเสียเงินห้าหกล้าน เขาจะยอมเป็นแพะรับบาปได้ยังไง จะต้องไปคุยกับพ่อให้รู้เรื่อง
ในขณะเดียวกัน เหลียนเฉิงนั่งอยู่ในห้องส่วนตัวของคลับแห่งหนึ่งในเมืองหนิง ในมือของเขาถือซิการ์อยู่
ขณะนั้น ประตูห้องถูกเปิดออกและมีคนสองคนเดินเข้ามา
“ประธานเหลียน เสี่ยเตียวถึงแล้วครับ”
ชายที่เข้ามาข้างหลัง ดูท่าทางซื่อ เขาสวมแว่นอยู่บนใบหน้า อายุประมาณห้าสิบกว่าปี แต่อย่าประมาทชายคนนี้เขาคือเสี่ยเตียวหัวหน้าองค์กรมืดที่ใหญ่ที่สุดในเมืองหนิง มีจำนวนสมาชิกมากกว่านับร้อยคน ผูกขาดบาร์ คาราโอเกะและคลับอื่นๆ มากมาย
เสี่ยเตียวค่อยๆ นั่งลงตรงข้ามเหลียนเฉิง เสี่ยเตียวยิ้มก่อนจะพูดว่า
“ประธานเหลียน ลมอะไรพัดพาให้คุณเรียกผมมา?”
เหลียนเฉิงตีหน้านิ่ง
“เรื่องของฉงจื่อลูกน้องของคุณ ขอให้จบสิ้นเพียงเท่านี้ คุณมีปัญหาอะไรไหม?”
เสี่ยเตียวหัวเราะจนตาหยี รอยยิ้มของเขากว้างขึ้นไปอีก
“ฮ่าๆ ประธานเหลียนที่แท้ก็เรื่องนี้นี่เอง ทำไมครับ ไอ้คนชื่อฉู่เทียนเจียงกับประธานเหลียนมีความแค้นกันเหรอครับ หรือว่าเป็นญาติของประธานเหลียน”
“พูดไร้สาระอะไรเยอะแยะ เหล่าเตียวคุณก็ไม่ใช่คนที่ยืดเยื้อนิ รีบพูดอะไรดีๆ ออกมาหน่อย”
ในช่วงบ่ายฉู่เทียนเจียงได้สั่งการหลายอย่าง หนึ่งในนั้นคือการเตือนเสี่ยเตียว ฉู่เทียนเจียงไม่มีเวลาเล่นเกมปลาเล็กกินปลาใหญ่ ปลาเล็กใหญ่ถูกปลาแก่กินเหมือนสมัยก่อน
“ตกลง! ประธานเหลียนพูดแบบนี้ ไม่แน่เราอาจมีโอกาสได้ร่วมงานกัน ผมต้องไว้หน้าอย่าแน่นอน เพียงแต่ว่าในบรรดาลูกน้อง ฉงจื่อก็เป็นคนที่สนิทคนหนึ่ง ตอนนี้นอนอยู่ที่โรงพยาบาล แถมขาทั้งสองข้างก็ด้วน ถึงแม้เขาจะหย่ากันแล้ว แต่ก็ยังมีคนแก่ในบ้านที่ต้องดูแล คุณว่ามันควร.....”
เห็นเสี่ยเตียวเกี่ยวนิ้วไปมา ทำไมเหลียนเฉิงจะไม่รู้ว่าหมายความว่ายังไง
“บอกจำนวนมา”
“พูดง่ายดีนี่ประธานเหลียน หนึ่งล้านจริงใจพอไหม”
หลังจากเงียบไปชั่วครู่เหลียนเฉิงก็ยิ้ม
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมยุทธ์กบฏโลก