จอมยุทธ์กบฏโลก นิยาย บท 33

สรุปบท บทที่ 33 รับนายท่านกลับบ้าน: จอมยุทธ์กบฏโลก

สรุปเนื้อหา บทที่ 33 รับนายท่านกลับบ้าน – จอมยุทธ์กบฏโลก โดย เหมยปาเหย

บท บทที่ 33 รับนายท่านกลับบ้าน ของ จอมยุทธ์กบฏโลก ในหมวดนิยายใช้ชีวิต เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย เหมยปาเหย อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที

บทที่ 33 รับนายท่านกลับบ้าน

เมื่อได้ยินแบบนี้ ฉู่เทียนเจียงแสยะยิ้มออกมา

“อะไรกัน ยังไม่ทันสอบสวนก็จะส่งผมเข้าเรือนจำแล้วอย่างนั้นเหรอ และยังเป็นเรือนจำโจ้งเซินที่โหดเหี้ยมในเขตแดนบูรพาอีกด้วย น่าสนใจดีนิ”

“อย่าคิดไปเอง สอบสวนน่ะมันต้องสอบสวนอยู่แล้ว แต่ในกรณีของคุณ แปดสิบเปอร์เซ็นต์คงต้องอยู่ที่นั่น คงจะเป็นที่อื่นไปไม่ได้แล้ว”

สำนักงานของทีมสอบสวนคดีพิเศษอยู่ที่อาคารสามชั้นขนาดเล็กบนเนินเขา ให้ความรู้สึกเหมือนฉู่เทียนเจียงไปโรงอิฐ

เมื่อเข้าไปในห้องๆ หนึ่ง มีชายหนุ่มคนหนึ่งรออยู่ในนั้นแล้ว

เพิ่งจะนั่งชายหนุ่มก็เปิดปากพูดออกมาว่า

“ฉู่เทียนเจียงนำรถถังไปใช้โดยพลการ เราได้ตรวจสอบอย่างชัดเจนแล้ว โทษจำคุกในเรือนจำโจ้งเซินเขตแดนบูรพาสามปี”

ปึง!

เสียงประทับดังขึ้น เหมือนทุกอย่างจะสิ้นสุดลงและไม่มีโอกาสแก้ไขอะไรได้อีก

“อะไรกัน คุณไม่ตรวจสอบดูเหรอว่าผมอยู่ระดับไหนในนอร์ทเทิร์นแลนด์ และไม่ตรวจสอบดูเหรอว่ารถถังคันนั้นปลดประจำการแล้วหรือยัง”

ชายหนุ่มที่กำลังจะลุกขึ้นยืน เมื่อได้ยินฉู่เทียนเจียงพูดแบบนี้ จึงพูดอย่างเย็นชาว่า

“ผมจำเป็นต้องรู้เหรอ ผมเป็นหัวหน้าทีมสอบสวนคดีพิเศษของทีมสี่ในเมืองหนิง ถ้าสอบสวนใครสักคนยังต้องคิดตำแหน่งของเขา ผมไม่เหนื่อยตายเหรอ”

พี่หงไห่มาสั่งการเองยังต้องตรวจสอบอีกเหรอ ช่างน่าขำเสียจริง

ขณะนั้นมีคนๆ หนึ่งรีบวิ่งเข้ามาจนหายไม่ไม่ทัน

“หัว.....หัวหน้าเหลียงลานของเราถูกคนล้อมรอบเอาไว้ หัวหน้าทีมอื่นออกไปกันหมดแล้ว คุณก็รีบหน่อยเถอะ”

อะไรนะ เหลียงเหวินเกือบโกรธจนแทบจะหัวเราะออกมา ที่นี่คือที่ไหนกันมีคนบังอาจมาล้อมอย่างนั้นเหรอ กล้าดียังไงถึงเหิมเกริมขนาดนี้

“ไป ออกไปดูสักหน่อย พวกนายเฝ้าเขาเอาไว้ก่อน รอฉันกลับมาค่อยส่งไปเรือนจำโจ้งเซินแห่งเขตแดนบูรพา”

“ครับ”

ที่ลานมีคนนับร้อยยืนอยู่โดยไม่ขยับไปไหน และไม่พูดอะไรแม้แต่น้อย แต่กลับรู้สึกถึงความกระหายเลือดแผ่ซ่านไปทั่วลาน

ผู้คนนับร้อยคนเหล่านี้ มียี่สิบคนเข้าแถวอย่างเรียบร้อย สายตาของพวกเขามีความน่ากลัวแฝงอยู่

เมื่อมองไปที่คนเหล่านี้ก็ล้วนประหลาดใจ ออร่าแบบนี้เคยไปสนามรบมาแล้วแน่นอน เผชิญหน้ากับคนพวกนี้ พวกเขาไม่กลัวสิแปลก

“พวกแกเป็นลูกน้องใคร รู้ไหมว่าที่นี่คือที่ไหน”

ไม่มีใครพูดอะไรออกมา มีเพียงเหลียงเหวินที่ออกมาและเริ่มเอะอะโวยวาย ท่าทีของเขายโสโอหังเป็นอย่างมาก และทำเอาหัวหน้าทีมคนอื่นๆ ต่างขมวดคิ้ว

คนนับร้อยถูกฝึกมาอย่างดี โดนข่มขู่ด้วยคำขู่ไม่กี่คำก็จะกลัวอย่างนั้นเหรอ

เมื่อเห็นว่าไม่มีใครสนใจเขา เหลียงเหวินหัวเสียอย่างมาก เขารู้สึกเสียหน้าจึงโบกมือไปมาและพูดว่า

“ฟังไว้ให้ดี ภายในหนึ่งนาทีให้สลายตัว นี่เป็นการเตือนครั้งสุดท้าย”

ในตอนที่เหลียงเหวินกำลังค่อยๆ ลดมือลงเพื่อเตรียมส่งสัญญาณ มีร่างใหญ่ร่างหนึ่งพุ่งออกมาทางตึกใหญ่เป็นชายวัยกลางคนตัวเตี้ย แม้จะเตี้ยแต่แข็งแกร่งมาก

คนๆ นี้เป็นหัวหน้าทีมใหญ่ของทีมสอบสวนคดีพิเศษในเมืองหนิง มีฉายาว่ายานก่าน แต่ว่าที่นี่มีใครกล้าหรือมีสิทธิ์เรียกฉายาของหัวหน้าทีมใหญ่

“ยานก่าน”

แต่ทว่าตอนนี้มีคนเรียกฉายาของเขาออกมาแล้ว เป็นคนที่ยืนอยู่แถวหน้าตรงของคนนับร้อยที่กำลังยืนอยู่

พวกลูกน้องบ้าไปแล้ว คนๆนี้เป็นใครถึงกล้าเรียกฉายาของหัวหน้าทีมใหญ่ รนหาที่ตายชัดๆ

เรื่องที่น่าเหลือเชื่อเกิดขึ้น เห็นหัวหน้าทีมใหญ่ของพวกเขาไม่เพียงแต่จะไม่โกรธ อีกทั้งยังยิ้มออกมาก่อนจะพูดว่า

“หม่าเหลียง นายพาพวกพ้องนับร้อยมา คงไม่ใช่ว่าจะมาดื่มชากับฉันหรอกนะ”

ใช่แล้วคนที่ยืนอยู่แถวหน้าสุดคือหม่าเหลียง เขามองยานก่านอย่างจริงจัง และเอ่ยขึ้นด้วยเสียงทุ้มต่ำ

“ไม่ใช่ เรามารับนายท่านกลับบ้าน”

มารับนายท่านกลับบ้านอย่างนั้นเหรอ คนอื่นๆ เหงื่อแตกพลั่ก ยานก่านตัวสั่นและถอยหลังหนึ่งก้าว เขาพูดอย่างตะกุกตะกักว่า

“นาย....นายจะบอกว่า....เขาอยู่ที่นี่เหรอ”

น้ำเสียงของยานก่านตะกุกตะกัก เขาไม่อยากจะเชื่อว่าฉู่เทียนเจียงเทพสงครามเลี่ยนหยู้หนึ่งในสามของผู้ถูกเลือกให้เป็นเทพสงครามแห่งหัวเซี่ย ผู้ดูแลนอร์ทเทิร์นแลนด์และผู้ที่ไม่มีใครกล้าละเมิดจะอยู่ที่นี่

“ดูสิ่งที่แกพูดสิ งั้นฉันขอบคุณแกก่อนละกัน”

เมื่อสิ้นเสียง ประตูเปิดออกดังปัง ทำเอาทั้งสองตกใจเมื่อเห็นผู้ที่มาใหม่ก็รีบทำความเคารพอย่างมีมารยาท

“หัวหน้าทีมใหญ่”

ตอนนี้ยานก่านหัวหน้าทีมใหญ่ของพวกเขา แข็งราวกับหิน เขายืนมองฉู่เทียนเจียงที่นั่งอยู่บนเก้าอี้และมีรอยยิ้มจางๆ อยู่บนใบหน้า

นี่มัน.....จับคนใหญ่คนโตมาจริงๆ ด้วย พระเจ้า! ฟ้าผ่าให้ผมตายเถอะ

ฉู่เทียนเจียงค่อยๆ ลุกยืนและพูด

“ไม่เจอกันนานนะยานก่าน ถูกย้ายมาจากนอร์ทเทิร์นแลนด์ ไม่คิดว่าจะมาเป็นหัวหน้าทีมใหญ่ที่นี่ ไม่เลวนี่”

ชายชุดดำทั้งสองอึ้งไป หนึ่งในนั้นรีบดุขึ้นมาทันที

“บังอาจ นี่เป็นหัวหน้าทีมใหญ่ของพวกเรา แกกล้า....”

“หุบปาก!”

ยานก่านตะคอกและมองไปที่ฉู่เทียนเจียงด้วยสายตารู้สึกผิด

“นายท่านผม...”

“ไม่ต้องพูดแล้ว นายรู้นิสัยฉันดี ออกไปเถอะ”

ชายชุดดำทั้งสองอึ้งไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นด้วยซ้ำ

เมื่อออกมาถึงด้านนอก เหลียงเหวินเห็นว่าฉู่ทียนเจียงถูกปล่อยตัวออกมาในใจก็รู้สึกไม่สบายใจเป็นอย่างมาก เขาเป็นคนที่มีคนหนุนหลังจะปล่อยให้ยานก่านกระทำความผิดกำเริบเสิบสานได้ยังไง มีความรู้สึกเหมือนจับพิรุธอะไรได้ ทำให้ลางสังหรณ์ไม่ดีก่อนหน้านี้หายไป

“หัวหน้าทีมใหญ่ เขาชื่อฉู่เทียนเจียง มีความผิด....”

สายตาเดียวทำเอาเหลียงเหวินหยุดพูด สายตาของยานก่านน่ากลัวมากจริงๆ

ยานก่านก้าวขึ้นไป เขาเอามือตบบ่าของเหลียงเหวิน และพูดคำที่ทำให้ทุกคนในที่นี้ถึงกับอ้าปากค้าง

“ดี ดีมาก สมแล้วที่เป็นลูกน้องและหัวหน้าทีมชั้นยอดของฉัน จับเทพสงครามเลี่ยนหยู้ที่สร้างความดีความชอบมากมายจากนอร์ทเทิร์นแลนด์มา แกทํา 'ผลงานใหญ่' จริงๆ!”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมยุทธ์กบฏโลก