จอมยุทธ์กบฏโลก นิยาย บท 34

สรุปบท บทที่ 34 ฉันชอบความอวดดีของนาย: จอมยุทธ์กบฏโลก

สรุปตอน บทที่ 34 ฉันชอบความอวดดีของนาย – จากเรื่อง จอมยุทธ์กบฏโลก โดย เหมยปาเหย

ตอน บทที่ 34 ฉันชอบความอวดดีของนาย ของนิยายใช้ชีวิตเรื่องดัง จอมยุทธ์กบฏโลก โดยนักเขียน เหมยปาเหย เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง

บทที่ 34 ฉันชอบความอวดดีของนาย

เทพสงครามเลี่ยนหยู้อย่างนั้นเหรอ ตอนนี้ทุกคนต่างสูดหายใจเฮือก สมองขาวโพลนไปหมด

โดยเฉพาะเหลียงเหวินที่ทรุดลงกับพื้น เหงื่อไหลออกมาไม่หยุด พี่หงไห่บอกกับเขาว่าฉู่เทียนเจียงเป็นแค่ทหารโง่ๆ ที่ปลดประจำการมาจากนอร์ทเทิร์นแลนด์

เป็นไปได้ไง.....

ไม่เหมือนกับเจียงหลงที่เป็นราชาแห่งการรบจากเซาเทิร์นแลนด์ที่ปลดประจำการไปหลายปี ทีมสอบสวนพิเศษรู้จักสี่สถานที่นี้รวมถึงสถานการณ์ในตอนนี้เป็นอย่างดี

นอกจากเขตแดนประจิม อีกสามแห่งที่เหลือต่างมีผู้ถูกเลือกเป็นเทพสงครามหนึ่งคน

เป็นการมีอยู่ที่น่ากลัวอย่างมาก เคยชนะศึกมานับไม่ถ้วน แต่คนอย่างพวกเรายังไม่มีสิทธิ์รู้ที่มาที่ไปของเรื่องนี้ รู้แค่ว่าทั้งสามคนได้รับฉายาเทพสงคราม

และเทพสงครามเลี่ยนหยู้เป็นฉายาของผู้ที่มาจากนอร์ทเทิร์นแลนด์

“ยานก่านงั้นฉันกลับก่อนนะ”

ฉู่เทียนเจียงตบบ่ายานก่านเบาๆ แล้วหันหลังจากไป เดินไปเพียงไม่กี่ก้าว จู่ๆ เขาก็หันกลับมา เหมือนนึกอะไรออกก่อนจะพูดว่า

“ใช่แล้วรถถังคันนั้นปลดประจำการไปแล้ว ตอนนี้มันจึงไม่ได้ใช้งานและจะไปที่พิพิธภัณฑ์ทหาร นี่เด็กน้อย คราวหน้าทำงานก็ใส่ใจกว่านี้หน่อย อย่าโดนคนอื่นหลอกใช้ขนาดนี้ แต่ว่าคงจะไม่มีครั้งหน้าแล้วล่ะ”

ฉู่เทียนเจียงพาหม่าเหลียงและพรรคพวกจากไป ปล่อยให้ทีมสอบสวนคดีพิเศษยืนนิ่งอยู่ในลานด้วยความสับสน

วันนี้พวกเขาจับเทพสงครามมาสอบปากคำ นี่มันช่าง....

อีกทั้งตำแหน่งอย่างฉู่เทียนเจียง แม้จะกระทำความผิดคนที่สามารถสอบปากคำเขาก็ไม่กี่คน เพียงเท่านี้ก็แสดงให้เห็นแล้วว่าตัวตนของเขานั้นน่ากลัวแค่ไหน

“เหอะ! เพราะรถถังที่ปลดประจำการ เหลียงเหวินสมองแกนี่บ้าไปแล้วหรือไง เขาเป็นตั้งเทพสงครามแห่งนอร์ทเทิร์นแลนด์ หนึ่งในสามผู้ถูกเลือกในหัวเซี่ย แม้เขาจะเอาเรือบรรทุกเครื่องบินมาใช้แล้วยังไง!”

ยานก่านอยากตบเหลียงเหวินให้ตายคามือ โชคดีที่ครั้งนี้เป็นฉู่เทียนเจียง ยานก่านเคยเป็นลูกน้องของฉู่เทียนเจียง และฉู่เทียนเจียงยังเป็นคนที่ใจดีที่สุดจากหนึ่งในสามผู้ถูกเลือกเป็นเทพสงคราม ถ้าเป็นสองคนที่เหลือวันนี้พวกเขาอาจจะพังยับเยินแน่นอน

“หัวหน้าทีมใหญ่! ผมผิดไปแล้ว ผมผิดไปแล้วจริงๆ ผมถูกคนอื่นสั่งการมาอีกที ได้โปรดให้โอกาสผม เห็นแก่หลายปีมานี้.....”

“หุบปาก!”

เขาตะคอกไปทีหนึ่ง ยานก่านรับเอกสารจากลูกน้องมา สายตาของคนที่เหลือเต็มไปด้วยความสะใจ บางคนก็แอบถอนหายใจ คราวนี้เหลียงเหวินจบเห่แน่

“จากพฤติกรรมของแก รวมถึงการที่พิจารณาตัดสินคดีขั้นสุดท้ายต่อฉู่เทียนเจียง งั้นแกก็จำคุกที่เรือนจำโจ้งเซินแห่งเขตบูรพาสามปีเถอะ รีบดำเนินการและพาไปตัวไปเดี๋ยวนี้”

อะไรนะ เหลียงเหวินตกใจจนเป็นลม เรือนจำโจ้งเซินแห่งเขตบูรพานั่นคือคุกที่มีอัตราการเสียชีวิตสูงสุด อย่าว่าแต่สามปีเลย เขาทนอยู่ที่นั่นได้ไม่เกินหนึ่งเดือนหรอก

หลังจากพาเหลียงเหวินไป ยานก่านก็มองไปรอบๆ พลางพูดอย่างเย็นชาว่า

“เรื่องที่เกิดขึ้นในวันนี้ให้ลืมมันไปให้หมด ถ้าใครเป็นคนแพร่ออกไป จะมีจุดจบแบบเหลียงเหวินแน่”

“รับทราบ!”

เมื่อใกล้ถึงประตูชุมชนตงเฉิง ในเขตชานเมืองแห่งนี้มีประชากรเบาบาง ฉู่เทียนเจียงจงใจหยุดขบวนรถบนถนนที่แทบไม่มีคน

เมื่อเห็นสายตาที่แน่วแน่และใบหน้าที่คุ้นเคย สีหน้าฉู่เทียนเจียงเรียบนิ่ง

“จากนี้เป็นต้นไป ทุกคนกลับบ้านใครบ้านมันไปพักผ่อนให้ดี นี่คือคำสั่งถ้ามีคนฝ่าฝืนไล่ออกจากทีมฉันเลย!”

“ครับ!”

ครั้งนี้ ฉู่เทียนเจียงสั่งคำสั่งที่เคร่งครัด ใครยังกล้าขัดอีก เขารีบขึ้นรถและจากไปอย่างรวดเร็ว

“หม่าเหลียง ไม่ง่ายเลยกว่าจะมีวันหยุด ทุกคนไม่ได้กลับบ้านมาหลายปีแล้ว ทำไมต้องให้พี่น้องมาเสียเวลากับฉันด้วย”

หม่าเหลียงลูบท้ายทอยอย่างเขินอาย เขาแสดงท่าทางแบบนี้แค่ต่อหน้าฉู่เทียนเจียงเท่านั้น

“จำไว้คุณมีเวลาคิดแค่อาทิตย์เดียว”

เมื่อสิ้นเสียง พวกหลิวชิ่งก็หายไป เฉินเจียงเหอถอนหายใจ และรีบตามไปอธิบายให้กับฉู่เทียนเจียง

“คุณฉู่ พวกเขาบังคับผม ผมบอกเขาแล้วว่าคนที่ชนะปรมาจารย์ไห่คือหนึ่งในลูกน้องของคุณ แต่เขาไม่เชื่อและยัง.....”

เมื่อกำลังอธิบายก็เห็นสายตายียวนของฉู่เทียนเจียง

“ผู้เฒ่า คุณว่างมากเหรอ”

เฉินเจียงเหอไม่กล้าพูดอีก แต่ก็ครุ่นคิดเรื่องหนึ่งอยู่ในใจ ถ้าฉู่เทียนเจียงสามารถพิสูจน์ว่าไม่เห็นสำนักเสินกู่อยู่ในสายตา แม้ว่าเขาจะพยายามอย่างเต็มที่กับตระกูลเฉิน แต่เขาก็ต้องเป็นมิตรที่ดีกับฉู่เทียนเจียง

พูดถึงตอนนี้ เฉินหว่านที่เป็นหลานสาว ก็เป็นตัวเลือกที่ไม่เลว

“ฮัวจิ่นถิง ฉันไม่ได้พูดมั่วนะ ต่อจากนี้ฉู่เทียนเจียงไม่มาให้เห็นอีกแล้ว เขาทำความผิดแถมเป็นความผิดที่ยิ่งใหญ่ พวกคุณยังไม่เชื่อกันอีกเหรอ เหอๆเข้าใจผิดว่าเจตนาดีของผู้อื่นเป็นเจตนาที่ไม่ดี ยังไงปู่ก็เรียกให้พวกคุณไปประชุม ไตร่ตรองด้วยตัวเอง”

ฉู่เทียนเจียงที่เพิ่งถึงสนามหน้าบ้าน ภาพเดิมปรากฏขึ้นอีกครั้ง ฮัวว่านถงที่กำลังอวดเก่ง ด่าพลางเดินถอยหลัง

เมื่อธอหันหลังมาก็เห็นฉู่เทียนเจียงอยู่ใกล้แค่เอื้อม ฮัวว่านถงงงไปหมด

“แก....เป็นไปได้ไง!”

แผนการที่เจียงหลงทิ้งไว้ให้คือเรียกพี่หงไห่มาจัดการ ทั้งๆ ที่บอกว่าฉู่เทียนเจียงจะหายสาบสูญไปตั้งแต่วันนี้ หรือว่านี่จะเป็นผี

เพียะ

ไม่มีการโต้เถียง ไม่มีคำพูดใด ฉู่เทียนเจียงสะบัดมือและตบไปที่หน้าฮัวว่านถง

“ฉันจำได้ว่าฉันเคยบอกว่าควรเรียกภรรยาของฉันว่ายังไง”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมยุทธ์กบฏโลก