บทที่37 แกยังมีเวลาอีกสามสิบวินาที
คะ……คนเดียวงั้นเหรอ?
ฮัวเป้ากับเฉินเสี่ยวเฟิงอึ้งตะลึงงันอยู่กับที่ มองดูแผ่นหลังของฉู่เทียนเจียงเดินจากไป
ดูให้แน่ใจรึยัง ที่นี่เป็นถิ่นของเสี่ยเตียวเลยนะ บุกเดี่ยวเขาไปจัดการเสี่ยเตียวแบบนี้ได้?แกคิดว่าแกกำลังแสดงหนังอยู่รึไง
แต่ทว่า เฉินเสี่ยวเฟิงลังเลอยู่ครู่หนึ่ง จึงรีบเดินตามออกไป มันเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการสืบทอดของตระกูลเฉิน เขาเป็นลูกผู้ชาย ถ้าไม่ใช้ชีวิตเสี่ยงดูสักครั้งหนึ่ง จะเรียกว่าลูกผู้ชายได้อย่างไร?
ฮัวเป้ากัดฟัน แล้วเดินตามเข้าไปทันที เฉินเสี่ยวเฟิง เป็นถึงคุณชายผู้ร่ำรวยของตระกูลเฉินยังกล้าบุกเข้าไปเลย เขาเองก็เป็นคนที่ใช้ชีวิตอยู่กับการต่อสู้ ใช้มีดปอกแตงโมเล่มเดียวถึงได้มีอย่างทุกวันนี้ได้ จะไปแพ้ความกล้าของคุณชายเศรษฐีแค่คนเดียวได้เหรอ?
ยิ่งไปกว่านั้น ใครก็ไม่ใช่คนโง่หรอก หรือฉู่เทียนเจียงคนนี้ อาจจะเตรียมลูกน้องไว้ด้านในแล้วก็เป็นได้
“ยินดีต้อนรับสู่คลับว่านฮัวค่ะ”
หญิงสาวหน้าตาดียืนเรียงรายเอ่ยกล่าวทักทายอย่างพร้อมเพรียง จึงทำให้เฉินเสี่ยวเฟิงและฮัวเป้าที่ใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัวตกใจเป็นการใหญ่
“คุณผู้ชายคะ ได้มีการจองไว้ไหมคะ?”
หญิงสาวเจ้าเสน่ห์เดินเข้ามาต้อนรับทั้งสาม บนร่างของเธอสวมชุดที่วาบหวิวมาก เธออยากจะเข้ามาควงแขนของฉู่เทียนเจียง แต่กลับถูกคนที่อยู่ด้านหลังเบี่ยงตัวหลบ
“ไม่มี หาห้องส่วนตัวให้ฉันสักห้อง ชั้นสามก็ได้”
พอได้ยินคำพูดแบบนี้ หญิงสาวก็รู้ได้ทันทีว่าฉู่เทียนเจียงอาจจะเป็นคนที่เคยมาแล้ว อีกทั้งท่าเดินยังเสือคำราม ความเป็นไปได้ถึงแปดสิบเปอร์เซ็นต์เป็นคุณชาย เธอจึงรีบต้อนรับขับสู้อย่างยินดีปรีดา
“คุณชายค่ะเชิญตามฉันมาค่ะ”
หลังจากนั้นยังโบกมือ หญิงสาวที่สวมชุดกี่เพ้าที่ตามหลังเธออยู่คนหนึ่งรีบวิ่งสอยเท้าสั่นๆไปกดลิฟต์ทันที
ณ ห้องพรีเมี่ยมV1ด้านใน เสี่ยเตียวกำลังนั่งอยู่ ด้านข้างมีหญิงสาวคนหนึ่งที่เขาเลือกประจำนั่งอยู่ด้วย บนโซฟากว้าง มีผู้ชายห้าคนนั่งอยู่ ที่เหลือทั้งสี่ทิศมีลูกน้องยืนประจำการเฝ้าดูแลความปลอดภัย
คนที่สามารถนั่งกับเสี่ยเตียวได้ แน่นอนว่าต้องมีตำแหน่งฐานะพอตัว เป็นเหมือนกับฉงจื่อ เป็นลูกน้องที่คุมเขตเล็กๆน้อยของเสี่ยเตียว
“เสี่ยเตียวครับ ฉู่เทียนเจียงคนนั้น ผมไปสืบข่าวมาแล้วนะครับ เขาเป็นเขยที่แต่งเข้าบ้านตระกูลฮัวครับ พึ่งกลับมาจากการเข้ากองทัพเมื่อไม่นานมานี้ครับ มีกำลังอยู่นิดหน่อย ต่อสู้เก่งพอตัว ไม่มีภูมิหลังอะไรอีกเลยครับ”
คนหนึ่งพูดจบ ชายหนุ่มผมหยิกงอที่อยู่ข้างๆเสี่ยเตียวก็หัวเราะขึ้นมา
“เรื่องนี้ให้ผมจัดการเถอะครับ ผมรับรองว่าพรุ่งนี้ก่อนตะวันตกดินผมจะจัดการมันให้เรียบร้อย เอาขามันให้หักไปเลยใช่ไหมครับ?”
เสี่ยเตียวใช้มือลูบคลำไปที่ไหล่ของหญิงสาวที่อยู่ข้างๆ ใช้สายตามองอย่างชื่นชมเสร็จแล้วจึงเอ่ยขึ้นมาว่า
“ไอ้ผมหยิก ฉันชอบนิสัยชิงดีชิงเด่นของแกว่ะ ก็ได้ ฉู่เทียนเจียงฉันขอมอบให้แกแล้วกัน หักขามันแล้วเอาขังไว้ซะ ฉันจะไปถามหาค่ารักษาจากเหลียนเฉิง เนื่องจากฉงจื่อยังรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล ขาทั้งสองข้างถูกตัดไปแล้ว”
คนก่อนหน้านี้ไตร่ตรองอยู่ครู่หนึ่ง จึงพูดขึ้นมาอีกครั้งว่า
“จริงด้วยเสี่ยเตียว ฉงจื่อเกิดเรื่องขึ้นครั้งก่อน เขาได้รับเงินจากฮัวว่านถงคนตระกูลฮัวมาห้าหมื่นเพื่อจัดการฉู่เทียนเจียง เอายังไงกับฮัวว่านถงดีครับ?”
ทันใดนั้นไอ้หัวหยิกก็หยิบขวดเบียร์ขึ้นมาแล้วกระดกดื่มมันลงไป ใบหน้าเผยให้เห็นถึงคว้ามบ้าคลั่ง
“ทำยังไง!แน่นอนว่าต้องเอามาให้ฉันอยู่แล้ว ฉันชักจะอดไม่ได้แล้วสินะ”
เสี่ยเตียวที่อยู่ข้างๆไม่พูดอะไรอีก เหมือนกับกำลังยอมรับกับคำพูดแบบนี้แล้ว เสี่ยเตียวคนอย่างเขาทำอะไรแยกแยะเรื่องทุกอย่างอยู่แล้ว ขาทั้งสองข้างของฉงจื่อ ฉู่เทียนเจียงต้องรับผิดชอบเป็นคนแรก ตามมาด้วยฮัวว่านถง แน่นอนว่าไม่มีทางปล่อยไปแน่
พวกเขาไม่รู้ ว่าหน้าประตู ฉู่เทียนเจียงที่มาถึงชั้นสามแล้วหยุดเท้ากะทันหัน
“คุณชายคะ ห้อง306ยังไม่ถึงนะคะ”
ฉู่เทียนเจียงชี้ไปที่ห้องวีไอพีที่อยู่ข้างๆ แล้วพูดขึ้นมาว่า
“ฉันเปลี่ยนใจละ ฉันจะเอาห้องนี้”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมยุทธ์กบฏโลก