ชาวบ้านมองไปที่ผู้ใหญ่บ้าน แล้วหันไปมองหัวหน้าตระกูล ต่างฝ่ายต่างไม่รู้จะทำอย่างไรดี
ผู้ใหญ่บ้านโกรธจัด “กู้ต้าเซิง เจ้าจะยอมให้ครอบครัวของเหล่าซื่อถูกไฟคลอกตาย ยังดีกว่าจะแยกบ้านใช่หรือไม่?”
หัวหน้าตระกูลกล่าวว่า “ดี! ไม่นึกว่าเจ้าจะใจดำถึงเพียงนี้ ในเมื่อเจ้าไม่ต้องการลูกคนนี้แล้ว หมู่บ้านเราจะรับเขาเอง!
ทุกคนรีบดับไฟ! เร็วเข้า ก่อนที่ไฟจะลามไปเผาบ้านอื่น!” ชาวบ้านจึงรีบช่วยกันดับไฟ
ผู้เฒ่ากู้ก็ไม่ได้อยากเสียลูกคนนี้ไปนักหรอก เช่นเดียวกับที่กู้เหมยตั่วเคยพูดไว้ บ้านสี่เป็นกำลังสำคัญในการทำงาน หากไม่มีบ้านสี่แล้ว จะเหลือใครมาทำงานอีกเล่า?
แต่นังหนูคนนั้นกลับพูดออกมาอย่างเด็ดเดี่ยว แม้จะช่วยชีวิตพวกเขาไว้ได้ แต่ใจของพวกเขาก็แตกสลายไปแล้ว ราวกับว่าไม่เคยมีบุตรชายคนนี้มาก่อน
ในขณะที่ผู้ใหญ่บ้านกับหัวหน้าตระกูลกำลังพูดคุยกันอยู่นั้น กู้เหมยตั่วก็รีบร้อนดึงผ้าชุบน้ำออกจากใบหน้าและศีรษะของคนในครอบครัว บิดมันเป็นก้อนแล้วโยนลงในตะกร้าสะพายหลังทันที
พลางสั่งการคนในครอบครัว
“อย่ายืนหลบอยู่ตรงมุม รีบเอาเขม่าดำทาปลายจมูก ใบหน้า และศีรษะสักสองครั้ง!”
ทุกคนรีบลงมือทันที เถาซื่อช่วยแต่งหน้าให้บุตรชายตัวน้อยสองคนจนเสร็จเรียบร้อยเช่นกัน
เมื่อชาวบ้านช่วยเหลือคนบ้านสี่ออกจากทะเลเพลิงได้สำเร็จ ภาพของครอบครัวที่น่าสงสารนี้ช่างน่าเวทนาเสียจริง
กู้เหล่าซื่อหน้าตาบึ้งตึง เขาอุ้มบุตรชายคนรองที่ไอจนหลังงอ เส้นผมของบุตรชายคนรองถูกไฟไหม้จนหมด และดวงตาก็ลืมไม่ขึ้น ไอไม่หยุดเลยทีเดียว
เถาซื่อกับกู้เหมยตั่วต่างอุ้มเด็กไว้คนละคน พลิกตัวเด็กให้ใบหน้าคว่ำลงบนขา แล้วตบหลังเพื่อช่วยให้หายใจสะดวก เด็กๆ ร้องไห้เสียงดัง เถาซื่อก็ร้องไห้ตามไปด้วยเช่นกัน
พี่ชายของกู้เหมยตั่วไม่สนใจบาดแผลไฟไหม้บนมือและแขน รีบเข้ามาช่วยเหลืออยู่ด้านข้าง
หลังจากที่คนบ้านสี่ถูกช่วยออกมาได้ไม่นาน บ้านก็พังทลายลงในกองเพลิง เหลือเพียงคานไม้ขนาดใหญ่ที่ถูกไฟไหม้จนดำสนิท วางพาดอยู่บนกำแพงดิน
กู้เหมยตั่วไอแรงๆ สองครั้ง ก่อนจะใช้มือปาดใบหน้าที่เต็มไปด้วยเขม่าดำ แล้วเดินตรงไปหาผู้เฒ่ากู้ จ้องมองตาเฒ่าผู้นี้ด้วยสายตาแน่วแน่ “ท่านปู่ ท่านยังไม่ยอมแยกบ้านใช่หรือไม่?”
“อย่าฝันไปเลย!”
“ดี! ในเมื่อท่านปู่ไม่ยอมแยกบ้าน ท่านปู่ผู้ใหญ่บ้าน ท่านปู่หัวหน้าตระกูล ข้าต้องการตัดสัมพันธ์!
พวกเราเป็นครอบครัวเดียวกัน แต่ต้องนั่งรอความตายในกองไฟ พวกเขาไม่แม้แต่จะยื่นมือมาช่วยพวกเราด้วยซ้ำ นี่หวังให้พวกเราตายใช่หรือไม่? ข้าไม่ต้องการญาติแบบนี้อีกต่อไป!”
แม่เฒ่าซุนไม่สนใจสิ่งใด รีบพุ่งเข้ามาหากู้เหมยตั่วหมายจะทำร้าย แต่โชคไม่ดีนัก กู้เหมยตั่วไม่ปล่อยให้นางเข้าใกล้ได้เลย
แม่เฒ่าซุนตวาดลั่น “นังเด็กสารเลว! เจ้าสวะชั่วช้า ให้ฟ้าผ่าตายเสียเถอะ ข้ายังไม่ตายเลย ก็คิดจะแยกบ้านแล้วเรอะ ไอ้…”
ผู้เฒ่ากู้ตะโกนเสียงดัง “หุบปาก!”
แม่เฒ่าซุนยังคงขยับปากอย่างโกรธจัด แต่กลับไม่มีเสียงเล็ดลอดออกมาเลยแม้แต่น้อย
ทุกอย่างสงบลงทันที
หัวหน้าตระกูลโกรธจนแทบทนไม่ไหว ไม่เคยพบเห็นคนที่ใจดำเช่นนี้มาก่อน
“เปิดศาลบรรพบุรุษ!”
ตระกูลกู้ถือเป็นตระกูลใหญ่ในหมู่บ้านเซี่ยไท่ ศาลบรรพบุรุษก็ใหญ่โตเช่นกัน เมื่อเดินเข้าไปในศาล ทุกคนทำความเคารพบรรพบุรุษ หัวหน้าตระกูลหยิบพู่กันขึ้นมา และเขียนเอกสารด้วยลายมือที่งดงาม เขาเคยเป็นบัณฑิตถงเซิง จึงมีลายมืองดงามเป็นเลิศ
เมื่อเขียนเอกสารตัดสัมพันธ์เสร็จแล้ว ก็จัดทำขึ้นทั้งหมดสี่ชุด โดยแต่ละฝ่ายเก็บไว้ฝ่ายละหนึ่งชุด อีกหนึ่งชุดสำหรับตระกูล และอีกชุดต้องส่งไปยังทางการเพื่อเป็นหลักฐาน
หัวหน้าตระกูลมองไปที่ผู้เฒ่ากู้ “เมื่อลงนามเอกสารตัดสัมพันธ์นี้แล้ว พวกเจ้าจะกลายเป็นคนละครอบครัว ตั้งแต่นี้ไปต่างคนต่างอยู่ ใช้ชีวิตของตัวเองต่อไป
ลงนามเลย แล้วประทับลายนิ้วมือด้วย”
กู้เหมยตั่วเดินเข้ามา โค้งคำนับให้ผู้ใหญ่บ้านกับหัวหน้าตระกูล “ขอบคุณท่านปู่ผู้ใหญ่บ้านกับท่านปู่หัวหน้าตระกูลที่ช่วยเหลือ ลำบากแย่เลย”
จากนั้นจูงมือพ่อแม่และพี่น้อง เดินมาหาผู้เฒ่ากู้แล้วคุกเข่าลง “ท่านปู่ ขอเรียกท่านว่าปู่เป็นครั้งสุดท้าย หลังจากนี้เราสองครอบครัวจะไม่เกี่ยวข้องกันอีก ขอบคุณสำหรับบุญคุณที่ท่านปู่เลี้ยงดูมา เราขอโขกศีรษะ”
ทั้งครอบครัวโขกศีรษะสามครั้งก่อนจะลุกขึ้นยืน
บ้านสี่ตระกูลกู้ได้รับอิสรภาพในที่สุด!
กู้เหมยตั่วมองคนในตระกูลทั้งหมดก่อนจะกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า
“ในเมื่อเราไม่ใช่ครอบครัวเดียวกันแล้ว ข้าขอเตือน หากพวกเจ้ากล้ามารังแกครอบครัวของเราอีก ข้าจะสู้จนถึงที่สุด ข้าไม่กลัวแม้แต่ความตาย แล้วข้าจะกลัวใครอีก? ตอนนี้พวกเราไม่ได้เป็นญาติกันแล้ว!”
“ท่านปู่ผู้ใหญ่บ้าน ท่านพอจะทราบไหมว่ามีบ้านว่างในหมู่บ้านหรือไม่? ครอบครัวพวกเราขอยืมอยู่ชั่วคราวสักสองสามวัน”
หัวหน้าตระกูลได้ยินดังนั้นจึงตอบว่า “ในตระกูลของเรามีอยู่ เดี๋ยวข้าจะหาคนมาช่วยซ่อมให้ พวกเจ้าจะได้มีที่พักอาศัย”
“ขอบคุณท่านปู่หัวหน้าตระกูลเจ้าค่ะ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จากสาวบ้านนา สู่ฮูหยินจอมพยัคฆ์