นางหลับตาลงทันที เพ่งจิตรับรู้ถึงความเปลี่ยนแปลงที่พลังจิตนำมาสู่กายและใจ
ไม่รู้ว่าล่วงเลยไปเนิ่นนานเพียงใด นางจึงค่อยคืนสติ ญาณจิตแจ่มกระจ่าง ดวงตาทั้งสองเปล่งประกายดั่งเปลวเพลิง
นางแผ่ญาณจิตออกไป จนสามารถครอบคลุมได้กว่าครึ่งยอดเขาแล้ว
ไม่จำเป็นต้องกินยารวบรวมพลังวิญญาณอีก นางรู้สึกได้ว่าพลังจิตของตนบัดนี้ถึงขีดสุดแล้ว อีกทั้งเรี่ยวแรงยังเพิ่มพูนขึ้นเป็นทวีคูณเกินนับพ้น
เพียงแต่เรือนกายยังร้อนรุ่มเป็นพัก ๆ ราวกับตกอยู่กลางทะเลเพลิง หรือมีเปลวอัคคีลุกโชนอยู่ภายในใคร่จะพุ่งทะยานออกมา ไฉนจึงร้อนถึงเพียงนี้เล่า?
เหงื่อผุดพร่าง ทะลักออกมาไม่หยุด...
ล่วงเลยไปอีกนาน ความร้อนรุ่มก็มลายลง กู้เหมยตั่วจึงลุกขึ้นยืนอีกครั้ง
นางก้าวเดินอย่างสบายเพียงไม่กี่ก้าว ฝีเท้าเบาดั่งขนนก ราวกับเรี่ยวแรงทั่วกายไม่มีวันสิ้นสุด พลังปราณอันร้อนแรงโอบล้อมเรือนกายไว้ทั่วทุกส่วน
นี่มันจะเหาะขึ้นฟ้ากระนั้นรึ? หรือจะพ่นเพลิงออกมากันแน่?
นางรู้ดีว่า สิ่งนี้ล้วนเป็นผลอันเกิดจากการผูกพันธะกับเจ้าลูกเสือแดงทั้งสิ้น
เมื่อผูกพันธะกับเจ้าลูกเสือน้อย ไม่เพียงได้รับพลังอำนาจอันมหาศาล หากยังได้พลังความร้อนแรงอย่างใหญ่หลวงติดมาด้วย
“นังเจ้าเล่ห์! ในเมื่อผูกพันธะกันแล้ว ยาวิเศษก็ควรมอบให้ข้าสักทีเถอะ!” เสียงโวยวายของเจ้าลูกเสือแดงดังขึ้นในห้วงจิต ส่วนคนภายนอกก็เห็นเพียงเจ้าลูกเสือร้องลั่นอยู่เท่านั้น
เมื่อผูกพันธะกันแล้ว กู้เหมยตั่วก็สามารถสื่อสารกับเจ้าลูกเสือแดงผ่านทางญาณจิตได้
กู้เหมยตั่วถึงกับเดือดดาล “เจ้าพูดจากับนายท่านเจ้าเยี่ยงนี้รึ? หลังผูกพันธะกันแล้ว หากสัตว์วิญญาณลบหลู่นายตน นายท่านของย่อมมีสิทธิ์ลงโทษได้ใช่หรือไม่...หืม?”
“เอ่อ...นายท่าน เรื่องเมื่อครู่เป็นเพียงคำผิดหลุดปากไปเท่านั้น จริง ๆ แล้วแค่ปากพลาดเอง!”
“เจ้าเสือแดงน้อยนั่น” คำว่า เสือ ยังมิทันหลุดจากปาก...
“นามของข้าคือจู้กัง”
งั้นข้าจะเรียกเจ้าว่า ‘กังโต้ว’ ก็แล้วกัน ‘จู้กัง’ มันฟังดูไม่เหมือนชื่อสัตว์เลี้ยงสักเท่าไร
เห็นเจ้าลูกเสือแดงทำท่าขัดใจ กู้เหมยตั่วเองก็เริ่มไม่สบอารมณ์เช่นกัน
“กังโต้ว... หรือไม่ก็เลือกเอาระหว่าง ‘เจ้าแดง’ กับ ‘เจ้าขาว’ สักชื่อ”
“ก็ได้ ๆ เจ้าเป็นนายท่าน เจ้าว่ายังไรก็ต้องตามนั้น อย่างน้อยก็ยังมีคำว่า ‘กัง’ อยู่ เฮ้อ...ข้าเป็นถึงเซียนชั้นสูงเชียวนะ...”
“ในเมื่อเจ้าเป็นถึงเซียน แล้วไฉนจึงลงมาอยู่ที่นี่เล่า?”
“ข้าเป็นสายตรงแห่งเทพอัคคี ได้ไปร่วมงานเลี้ยงลูกท้อของหวังหมู่ แต่ดันไปดึงชายอาภรณ์ของฉางเอ๋อเข้า เลยถูกหวังหมู่ลงทัณฑ์ ส่งตัวลงมายังโลกมนุษย์”
“ก็แค่ดึงชายอาภรณ์เบา ๆ ถึงกับต้องถูกลงทัณฑ์หนักปานนี้เชียวหรือ?”
“ข้าเห็นสายกระโปรงนางจะหลุด ก็ช่วยดึงขึ้นมาให้นาง แต่นางกลับตบหน้าข้า ข้าก็เลยดึงลงไปอีก
บังเอิญหวังหมู่จับได้ว่าเง็กเซียนฮ่องเต้ แอบคบชู้กับนางพญามังกร อารมณ์เลยขุ่นมัว ก็เลยลงโทษข้าหนักนัก ไล่ข้าลงมาเสีย
ข้าเกือบสิ้นใจ ดวงจิตแทบสลายกลายเป็นควัน โหมพลังเฮือกสุดท้ายรวมร่างตนเองเป็นเสือ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จากสาวบ้านนา สู่ฮูหยินจอมพยัคฆ์