เข้าสู่ระบบผ่าน

จากสาวบ้านนา สู่ฮูหยินจอมพยัคฆ์ นิยาย บท 34

"ขอบคุณนะเสี่ยวหวู่ พี่สาวมีของขวัญมาฝากพวกเจ้าด้วยนะ พี่สาวซื้อหนังสือมาเยอะแยะเลย เสี่ยวหวู่ชอบหรือไม่เล่า?"

พี่รองกู้ชุนหยวนเดินเข้ามา "ตั่วตั่ว วันนี้ต้องจ่ายค่าแรงให้ช่างฝีมือที่วางรากฐาน เงินคงไม่พอแล้ว"

"พี่รอง ท่านตามข้าเข้ามาในเรือนเถิด ข้าจะหยิบเงินให้ท่าน"

เมื่อจัดการส่งกู้ชุนหยวนไปแล้ว กู้เหมยตั่วเอาของออกมาจากตะกร้าสะพายหลัง ออกมาจากมิติ หยิบหนังสือที่เซี่ยงอวิ๋นเจ๋อจดไว้บนใบรายการออกมา และหาตำราเรียนพื้นฐานสองสามเล่มให้เสี่ยวซื่อกับเสี่ยวหวู่อ่าน

เสี่ยวซื่อกับเสี่ยวหวู่ต่างโห่ร้องด้วยความดีใจว่า "โอ้โห ในที่สุดก็มีหนังสือของตัวเองแล้ว"

"ใช่แล้ว หนังสือเหล่านี้ล้วนเป็นของพวกเจ้า หวังว่าพวกเจ้าจะตั้งใจเล่าเรียน พวกพี่ชายก็ไม่มีโอกาสได้อ่าน

พี่สาวจะหาเงินให้ได้มากๆ เพื่อให้เสี่ยวซื่อเสี่ยวหวู่ของข้าได้เล่าเรียน วันหน้าจะได้สอบจอหงวน ต่อไปพี่สาวก็จะไม่ถูกผู้อื่นรังแกอีกแล้ว"

เสี่ยวซื่อพยักหน้า "อืม ข้าจะตั้งใจเล่าเรียนขอรับ"

เสี่ยวหวู่เอ่ยด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาว่า "พี่สาว ข้าก็จะตั้งใจเล่าเรียนเช่นกัน จะสร้างเรือนที่ใหญ่ขึ้น ใหญ่ขึ้นกว่าเดิมให้พี่สาว ทำให้ท่านแม่ไม่ต้องร้องไห้อีก"

"เสี่ยวซื่อเสี่ยวหวู่ของพี่สาว ช่างมีความมุ่งมั่นเสียจริง มาเถิด พวกเราลองดูหนังสือเล่มนี้กัน พี่สาวจะอ่านให้พวกเจ้าฟังหนึ่งรอบ"

สามคนพี่น้องอ่านหนังสือกันอย่างมีความสุข

เถาซื่อเดินเข้ามา "ตั่วตั่วเอ๋ย เนื้อที่เจ้าทิ้งไว้มันใช้ไม่หมด จะทำอย่างไรดีเล่า อย่าปล่อยไว้นานเกินไป ประเดี๋ยวจะเสียเอาได้นะ"

กู้เหมยตั่วเอ่ยอย่างไม่ใส่ใจว่า "ไม่เป็นไรหรอกเจ้าค่ะ ท่านแม่ ท่านเอาไปสับเป็นไส้ แล้วนำไปห่อซาลาเปากินเถิด"

"ได้"

เถาซื่อเดินออกไปแล้ว

จิตของกู้เหมยตั่วล่วงเข้าสู่มิติ นับตั้งแต่ที่ดินเพาะปลูกในมิติถูกเพาะปลูกแล้ว กู้เหมยตั่วก็จะเข้ามาดูบ้างเป็นครั้งคราว พอพืชผลสุกงอม นางก็จะเก็บเกี่ยวแล้วนำไปเก็บไว้ในคลังของมิติ

พืชผลจำพวกธัญพืชใช้เวลาหกถึงเจ็ดวันก็สุกงอม ส่วนผักใช้เวลาสามถึงสี่วันก็สุกงอม กู้เหมยตั่วเก็บเกี่ยวพืชผลและผักที่สุกงอมแล้ว จัดการพื้นที่เพาะปลูกให้เรียบร้อย แล้วจึงเพาะปลูกใหม่

เก้าสิบห้าเปอร์เซนต์ของพื้นที่เพาะปลูกในมิติ ปลูกแต่พืชผลจำพวกธัญพืช กู้เหมยตั่วรู้ดีว่า หากเกิดภัยธรรมชาติหรือภัยที่เกิดจากน้ำมือมนุษย์ ธัญพืชจะกลายเป็นสิ่งล้ำค่าอย่างยิ่งยวด

ผลผลิตธัญพืชในยุคนี้ต่ำมาก ดังนั้นชาวบ้านจึงอดอยากเป็นประจำ ตนจึงต้องเก็บกักธัญพืชให้มากเข้าไว้ มีการเตรียมพร้อมย่อมไร้ซึ่งภัย

"......เจ็ดเก้าหกสิบสาม แปดเก้าเจ็ดสิบสอง เก้าเก้าแปดสิบเอ็ด พี่สาว ท่องเสร็จแล้วขอรับ"

"โอ้โห เสี่ยวซื่อท่องได้ดีมาก เยี่ยมไปเลย มา อ้าปากสิ ให้ลูกอมหวานๆ เป็นรางวัลหนึ่งชิ้น ข้อความช่วงนี้ ข้าใช้พินอินกำกับไว้ทั้งหมดแล้ว เอาไปท่องจำให้ขึ้นใจนะ"

"ได้ขอรับ"

มีคำกล่าวที่เป็นแรงกระตุ้นให้ศึกษาเล่าเรียนบทหนึ่งที่ว่า

"จะเรียนหรือไม่เรียนก็ตาม ผู้เรียนก็เปรียบดั่งรวงข้าวและต้นข้าว ผู้ไม่เรียนก็เปรียบดั่งต้นหญ้าและวัชพืช ดั่งรวงข้าวและต้นข้าวเอ๋ย คือเสบียงอันล้ำค่าของแผ่นดิน คือขุมทรัพย์อันยิ่งใหญ่ของโลกหล้า ดั่งต้นหญ้าและวัชพืชเอ๋ย ผู้ไถพรวนชิงชังรังเกียจ ผู้ถอนหญ้าหงุดหงิดกังวลใจ วันหน้าเมื่อเผชิญหน้ากับความยากลำบาก จะเสียใจเมื่อสายเสียแล้ว"

ราคาของเราเพียงแค่ 1/4 ของผู้ให้บริการรายอื่น

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จากสาวบ้านนา สู่ฮูหยินจอมพยัคฆ์