พอสืบถามดูอย่างละเอียดถึงได้รู้ว่า บ้านสี่ของตระกูลกู้แยกบ้านออกไปแล้ว ที่บ้านจึงไม่มีคนทำงาน ช่วงนี้พ่อเฒ่ากู้อารมณ์บูดบึ้ง มองอะไรล้วนไม่สบอารมณ์ไปเสียหมด
ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อเช่นนี้ แม่เฒ่าซุนไหนเลยจะกล้าทำของอร่อย
ยิ่งไปกว่านั้น ซุนหยางได้ยินมาว่า ท่านป้าใหญ่ของเขาต้องทนรับความเดือดร้อนเพราะนังเด็กสารเลวอย่างกู้เหมยตั่วไม่น้อยเลย เรื่องเช่นนี้จะยอมได้อย่างไรกัน?
ก็อย่างที่เห็นนั่นแหละ ที่ริมแม่น้ำ ซุนหยางกับพรรคพวกอีกสามสี่คนก็ดักหน้ากู้ชุนจิ่วไว้ เพื่อสั่งสอนให้เขารู้สำนึก
กู้ชุนจิ่วชินชากับการถูกพวกเขารังแกแล้ว เขาก็เคยต่อต้าน ทว่าก็ได้แต่แลกมาด้วยการถูกท่านย่ากับท่านลุงสามทุบตีอย่างทารุณโหดร้ายยิ่งกว่าเดิม
เขาเลือกที่จะยอมแพ้ โชคดีที่น้องชายไม่อยู่ จึงไม่ต้องถูกตี
เขากอดศีรษะของตนเอง พยายามหลบหลีกกำปั้นที่ชกเข้ามาอย่างสุดกำลัง
กู้เหมยตั่วรุดมาถึงราวกับพายุ นางดึงพี่ชายออกจากวงล้อม ตรวจดูทั่วทั้งตัวอย่างละเอียด โชคดีที่ล้วนเป็นเพียงบาดแผลภายนอก
กู้เหมยตั่วที่ซุนหยางรู้จัก ก็แค่นังขี้แพ้ตัวเล็กๆ คนหนึ่ง แม้จะได้ยินว่านางมีเรี่ยวแรงไม่น้อย แต่ก็ไม่เคยเห็นนางตีใครมาก่อน ก็เลยมิได้เห็นนางอยู่ในสายตา
ตนเองอายุสิบห้าแล้ว จะกลัวยัยเด็กเหม็นอายุเก้าขวบงั้นหรือ?
"นังเด็กสารเลว กล้ารังแกท่านป้าใหญ่ของข้างั้นรึ ข้าจะตีแกให้ตายไปเลย" พุ่งเข้ามาก็เริ่มต่อยตีทันที
กู้เหมยตั่วเองก็รู้จักเขาเช่นกัน เช่นนั้นจะมัวเกรงใจอะไรกันเล่า นางยกเท้าเตะซุนหยางจนล้มลงไปกองกับพื้นในทันที
กู้เหมยตั่วล้วงผ้าเช็ดหน้าออกมา เช็ดคราบเลือดบนใบหน้าให้พี่ชาย
"พี่ใหญ่ ผู้อื่นรังแกท่าน ท่านมัวแต่รอรับการถูกตี เช่นนี้ ผู้อื่นก็จะยิ่งอยากรังแกท่านมากขึ้นเท่านั้น
พวกเขามีคนเยอะแล้วอย่างไรเล่า จะกลัวอะไรกัน ก็แค่สู้กับพวกเขาไปเลย! ตีล้มได้คนหนึ่งก็เท่าทุน ตีล้มได้สองคนก็กำไรแล้ว
ยอมให้ผู้อื่นตีจนตาย ก็ไม่อาจยอมให้ผู้อื่นขู่จนตายเสียเอง
พี่ใหญ่ ไปล้างแค้นเถิดเจ้าค่ะ!"
แววหวาดกลัวที่ฉายวาบแล้วผ่านไปในดวงตาของกู้ชุนจิ่ว ไม่อาจรอดพ้นสายตาของกู้เหมยตั่วไปได้
"พี่ใหญ่ ไม่เป็นไรหรอกเจ้าค่ะ ข้าจะอยู่ตรงนี้เพื่อเสริมความกล้าให้ท่านเอง ก่อนหน้านี้เขาเคยตีท่านอย่างไร ท่านก็คืนให้เขาไปให้หมดเลย
ยังมีส่วนนั้นของพี่รอง ก็ตีคืนมาให้หมดเช่นกัน ไปเถิด ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ท่านจะต้องพิสูจน์ให้ทุกคนเห็นว่า: ท่าน กู้ชุนจิ่ว มิใช่คนที่จะรังแกได้ง่าย ๆ อีกต่อไป!"
เพียงไม่กี่ประโยคของกู้เหมยตั่ว ก็จุดประกายไฟแห่งการต่อสู้ในตัวกู้ชุนจิ่วขึ้นมา ความแค้นใหม่และเก่าพลันทำให้ทั่วร่างของเขาเปี่ยมล้นไปด้วยพละกำลัง
เขาก้าวไปยืนเบื้องหน้าซุนหยาง ดึงอีกฝ่ายให้ลุกขึ้นจากพื้น กระชากคอเสื้อของอีกฝ่ายไว้ แล้วกระหน่ำหมัดเข้าที่ใบหน้าไม่ยั้ง
ภาพเหตุการณ์ที่ตนเองกับน้องชายถูกตีผุดขึ้นมาทีละฉาก ในห้วงความคิดของเขา เขาชกหมัดออกไปอย่างสุดแรง พยายามปลดปล่อยความแค้นทั้งหมดออกมา
กู้เหมยตั่วไม่อาจปล่อยให้พี่ใหญ่จ้องแต่จะตีซ้ำที่เดิมได้
"พี่ใหญ่ ตีท้องเจ้าค่ะ"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จากสาวบ้านนา สู่ฮูหยินจอมพยัคฆ์