จุติใหม่มหาเทพตี้เทียน นิยาย บท 103

หลังจากจัดการจมเกาะของบริษัท HTI เรียบร้อยแล้ว จ้าวเทียนก็ได้บินลงมาอยู่บนเรือขนส่งลำหนึ่ง ซึ่งแท้จริงแล้วมันเป็นเรือรบที่ถูกอำพรางไว้

บนเรือในตอนนี้หนาแน่นไปด้วยผู้คนที่ถูกช่วยออกมาจากห้องทดลองลับ โชคดีที่ทางศาสนจักรแห่งแสงได้เตรียมทีมแพทย์ไว้ดูแลอย่างดี ทำให้ไม่มีใครเสียชีวิต

“ คุณมีแผนจัดการกับพวกเขาอย่างไร ” ออโรร่าถามขึ้นด้วยสีหน้ากังวล คนเหล่านี้จำเป็นต้องออกแยกจากคนปกติ

เพราะร่างกายพวกเขาเหมือนถูกผสมระหว่างสัตว์อสูรกับมนุษย์ บางคนมีหัวเป็นสุนัขตัวเป็นคน บ้างก็มีเขามีปีกงอกขึ้นมา ทำให้ไม่สามารถอยู่ร่วมกับคนปกติได้

“ ฉันฝากเธอจัดหาสถานที่อาศัยชั่วคราวให้พวกเขาก่อนซักหนึ่งเดือนได้ไหม หลังจากนั้นฉันจะจัดการเอง ” จ้าวเทียนพูดขึ้นด้วยท่าทีจริงจัง

“ ตกลง…ถ้าคุณพร้อมเมื่อไหร่ก็ติดต่อฉันมาได้เลย ” ออโรร่าตอบพร้อมกับเดินหลบออกไป เพราะเธอสังเกตเห็นโม่ซินหยานกำลังเดินมาหาจ้าวเทียน

“ ขอบคุณนะ…ที่มาช่วยฉัน ” โม่ซินหยานพูดขึ้นรอยยิ้มอ่อนโยน เธอเดินเข้ามากอดจ้าวเทียนเอาไว้ ตลอดเวลาที่ถูกทรมานเธอไม่เคยเสียน้ำตามาก่อน

แต่ตอนนี้น้ำตาแห่งความตื้นตันของเธอกลับไหลออกมาไม่หยุด หากจ้าวเทียนมาช้าไปเพียงแค่นาทีเดียวเธอคงถูกล้างสมองไปแล้ว และชีวิตของเธอคงกลายเป็นเพียงอาวุธสงครามที่ไม่มีความคิดเป็นของตัวเอง

จ้าวเทียนใช้มือลูบแผ่นหลังของเธอเบาๆ เขากำลังพยายามปลอบให้เธอสงบลง สภาพในห้องทดลองเขาได้รับรู้ผ่านทางสัมผัสวิญญาณแล้ว

เขารู้ดีว่าเธอต้องเจอกับอะไรบ้าง เพราะตัวของโม่ซินหยานถูกคัดเลือกเป็นพิเศษ จึงต้องทนทุกข์ทรมานมากกว่าคนอื่นหลายเท่า แค่เธอยังคงรักษาสติเอาไว้ได้ก็ถือว่าดีมากแล้ว

“ พวกลูกศิษย์ของเธอเป็นยังไงบ้าง ” จ้าวเทียนถามเปลี่ยนเรื่องขึ้น

“ พวกเธออยู่ในสภาพที่ไม่ค่อยดีเท่าไหร่…บางส่วนของร่างกายพวกเธอไม่เหมือนคนธรรมดาอีกต่อไปแล้ว ตอนนี้สภาพจิตใจของพวกเธอบอบช้ำมาก ” โม่ซินหยานพูดขึ้นด้วยแววตาเศร้า

เด็กสาวพวกนั้นไม่สามารถควบคุมพลังแปลงสภาพได้เหมือนเธอ ทำให้กลับคืนร่างมนุษย์ไม่ได้

“ ไม่ต้องกังวล…หลังจากที่พวกเรากลับถึงบ้าน ฉันจะหาวิธีแก้ไขเอง ” จ้าวเทียนพูดด้วยความมั่นใจ

หลังจากที่พูดคุยกันอยู่ประมาณ 5 นาที เขาก็ให้โม่ซินหยานกลับไปนอนพักผ่อน ส่วนตัวเองก็เดินไปหาพวกนักวิทยาศาสตร์ที่เขาช่วยออกมาจากสถานที่ตั้งเครื่องเปิดประตูมิติ ด้านล่างภูเขา

“ คุณเป็นไงบ้าง…ร่างกายดีขึ้นไหม ” จ้าวเทียนถามผู้ชายที่เขาได้ช่วยเอาไว้ เขามีชื่อว่าโทนี่เป็นศาสตราจารย์ด้านฟิสิกส์อนุภาคที่โดดเด่นมากในยุคนี้

เมื่อ 1 ปีก่อนบริษัท HTI ได้ลักพาตัวเขาและภรรยามา เพื่อให้เข้าร่วมโครงการประตูข้ามมิติกับนักวิทยาศาสตร์ชั้นนำคนอื่นๆที่ประสบชะตากรรมเดียวกัน

แม้ว่าจ้าวเทียนจะให้ยาฟื้นฟูร่างกายไปแล้ว แต่สภาพของอีกฝ่ายในตอนนั้นก็ล่อแล่เต็มที หากตอนนั้นจ้าวเทียนไปช้าอีกเพียงไม่กี่วินาที โทนี่ก็คงตายไปแล้ว

“ ขอบคุณครับ…ยาของคุณได้ผลจริงๆ ตอนนี้ผมเริ่มขยับได้บ้างแล้ว ” โทนี่พูดขึ้นด้วยแววตาจริงใจ เขารู้สึกขอบคุณชายที่อยู่ตรงหน้ามากที่ช่วยชีวิตเขาไว้

หากไม่ใช่เพราะร่างกายของเขาอ่อนแอมากจนต้องนอนอยู่บนเตียงภายใต้การดูแลของภรรยา ก็คงเดินไปขอบคุณจ้าวเทียนด้วยตัวเองแล้ว

“ คุณไม่เป็นไรก็ดีแล้ว…ผมขอถามอะไรคุณหน่อยได้ไหม เกี่ยวกับเครื่องที่ใช้เปิดประตูมิติกับโลกอื่น มันสามารถใช้พลังอย่างอื่นนอกจากพลังชีวิตมนุษย์ได้ไหม ”

เมื่อได้ยินคำถามของจ้าวเทียน นักวิทยาศาสตร์ที่อยู่แถวนั้นก็อึ้งไปครู่หนึ่ง สุดท้ายก็หันไปมองที่โทนี่เป็นสายตาเดียวกัน

พวกเขารู้ตั้งแต่ตอนที่จ้าวเทียนนำเครื่องมือทดลองทั้งหมดกลับมาด้วยแล้ว ว่าอีกฝ่ายก็สนใจโครงการนี้เช่นกัน ส่วนจะตัดสินใจช่วยหรือไม่นั้นก็มอบให้โทนี่เป็นคนเลือก

“ คุณก็ต้องการติดต่อกับพวกปีศาจเหมือนกันเหรอ ” โทนี่ถามขึ้นด้วยสีหน้าจริงจัง

“ ไม่ใช่…ปีศาจพวกนั้นไม่อยู่ในสายตาฉันหรอก ฉันต้องการใช้เครื่องนี้เปิดประตูมิติเชื่อมกับดินแดนสวรรค์ ” จ้าวเทียนพูดขึ้นด้วยแววตาเปล่งประกาย

!!

“ สวรรค์มีจริงหรือ” “ คุณเคยติดต่อกับแดนสวรรค์มาก่อนเหรอ ”

“ นั่นมัน…ทำได้เหรอ ”“ พระเจ้าช่วย…ฉันได้ยินไม่ผิดใช่ไหม ”

พวกนักวิทยาศาสตร์แสดงท่าทีตื่นเต้นขึ้นมาทันที พวกเขาล้วนนับถือศาสนาคริสต์ย่อมอยากจะขึ้นสวรรค์ไปพบพระเจ้าอยู่แล้ว

“ พลังงานที่ใช้เปิดประตูมิติ…มันขึ้นอยู่กับโลกที่เราติดต่อด้วย หากคุณต้องการติดต่อกับแดนสวรรค์ คุณก็ต้องได้รับความช่วยเหลือจากคนที่อยู่บนนั้น ” โทนี่ตัดสินใจพูดออกมา เขาตัดสินใจแล้วว่าจะช่วยจ้าวเทียนเพื่อตอบแทนบุญคุณ

“ เรื่องนั้นไม่ต้องเป็นห่วง…ว่าแต่พวกคุณสนใจเข้าร่วมโครงการนี้ต่อไหม ฉันจะให้เงินตอบแทนจำนวนมากและให้อิสระพวกคุณเต็มที่ ”

“ ฉันขอเพียงข้อเดียว…เก็บข้อมูลการทดลองนี้เป็นความลับ พวกคุณเองก็เห็นสิ่งที่เกิดขึ้นกับบริษัท HTI แล้ว คงไม่อยากเจอแบบนั้นใช่ไหม ” จ้าวเทียนพูดเสียงเฉียบขาด

“ พวกเราตกลงครับ…บอส! ”

เมื่อสามารถรับเอาผู้มีความสามารถมาเพิ่มได้ ทำให้จ้าวเทียนรู้สึกมีความสุขมาก ด้วยความสามารถของพวกเขาเหล่านี้ ไม่แน่ว่าในอนาคต เทคโนโลยีระดับสูงบนโลกอาจจะนำขึ้นไปใช้บนแดนสวรรค์ได้

!!

หืม

เพราะรู้สึกได้ถึงอะไรบางอย่าง จ้าวเทียนเลยกวาดสัมผัสวิญญาณออกไป แล้วเขาก็สามารถตรวจพบเรือดำน้ำกำลังมุ่งตรงมาทางนี้

ด้านหนึ่งของเรือดำน้ำมีตัวอักษรภาษาอังกฤษ HTI นี่คงเป็นกำลังเสริมจากสำนักงานหลักของศัตรู พวกมันคงตรวจพบเรือขนส่งที่พวกเขาอยู่แล้ว

“ เรื่องนี้ฉันจัดการเอง!...เธอพาคนพวกนี้ไปส่งที่ปลอดภัยก็พอ ส่วนคนของฉันเดี๋ยวจะมีคนมารับเอง ” จ้าวเทียนพูดกับออโรร่าด้วยสีหน้าจริงจัง เขารู้ว่าเธอเองก็สัมผัสถึงพวกมันได้เหมือนกัน

“ ระวังตัวด้วย…นี่คือเรือดำน้ำพลังงานนิวเคลียร์ของ HTI มันมีอาวุธที่อานุภาพร้ายแรงมาก เกราะของมันหนามากทำจากวัสดุที่สามารถทนแรงระเบิดขีปนาวุธได้ ” ออโรร่าพูดขึ้นด้วยความเป็นห่วง

จ้าวเทียนพยักหน้าให้เธอหนึ่งครั้ง แล้วพุ่งออกไปจากเรือทันที ตอนนี้เขาจำเป็นต้องแข่งกับเวลา เพราะฝ่ายตรงข้ามกำลังเข้ามาใกล้เรือขนส่งด้วยความเร็วสูง

วูป!

ด้วยสัมผัสวิญญาณ ตอนนี้สถานการณ์ปัจจุบันของเรือดำน้ำอยู่ในการรับรู้ของเขาทั้งหมด

ภายในเรือลำนี้มีลูกเรืออยู่ประมาณ 100 คน ส่วนใหญ่เป็นคนตะวันตกผมสีทองตาสีฟ้าถึง 80% ส่วนที่เหลือเป็นคนเอเชียผมดำ เมื่อเขาตรวจสอบให้ละเอียดยิ่งขึ้นยังพบยอดฝีมือส่วนหนึ่งอยู่ให้ห้องควบคุมด้วย

เขาสวมชุดเกราะสีดำปกปิดทั้งตัว คล้ายกับอัศวินในยุคโรมัน ด้านข้างมีหน่วยพิเศษที่สวมชุดเกราะไฮเทคคล้ายกับหุ่นยนต์

พวกเขาทั้งหมดกำลังสังเกตตำแหน่งเรือขนส่งของออโรร่าผ่านทางจอเรดาร์ ทันใดนั้นชายชุดเกาะสีดำก็เหมือนสัมผัสได้ถึงจ้าวเทียนเช่นกัน

ชิ้ง!

ดวงตาของชายคนนั้นเปล่งแสงสีม่วง แล้วจ้องมองกลับมาทางสัมผัสวิญญาณของจ้าวเทียน ทำให้ตัวเขาชะงักไป จากนั้นก็ขยับไม่ได้เหมือนถูกแช่เอาไว้ในน้ำแข็ง เส้นประสาททั้งหมดเหมือนเป็นอัมพาตไปครู่หนึ่ง

‘ แย่แล้ว…ชายคนนั้นก็เป็นระดับ S ’

เฟี้ยว!!ๆๆๆ

ตอร์ปิโดสี่ลูกถูกยิงออกต่อเนื่องกัน อีกฝ่ายต้องการปิดบัญชีในครั้งเดียว

“ พายุเพลิงสุริยัน! ”

ครืนนน

แม้ว่าจะเป็นใต้ทะเล แต่เปลวเพลิงของจ้าวเทียนก็ยังคงทรงพลังเช่นเดิม เพราะมันคือพลังของดวงอาทิตย์ที่ทรงอำนาจเหนือธาตุทั้งหมด