หลังจากที่จ้าวเทียนจัดการปัญหาของตระกูลจ้าวเสร็จสิ้น เขาก็ได้รักษาอาการของลุงใหญ่จนฟื้นคืนสติขึ้นมา แม้ว่าร่างกายของลุงใหญ่จะยังอ่อนแออยู่บ้าง แต่ก็นับว่าพ้นขีดอันตรายแล้ว
เรื่องตำแหน่งผู้นำตระกูล จ้าวเทียนได้ยกให้กับจ้าวเย่ซง โดยมีจ้าวหนิงเซียนนั่งตำแหน่งผู้อาวุโสสูงสุด
สองวันผ่านไป
เหล่าแกนนำที่เลือกอยู่ฝ่ายจ้าวหนิงเซียน ก็ได้รับการผลักดันขึ้นสู่ตำแหน่งสำคัญ ส่วนอดีตลูกน้องของผู้นำคนเก่านั้น ได้ถูกตรวจสอบอย่างเข้มงวด
หากพบว่าพวกเขาใช้ชื่อเสียงตระกูลแอบทำเรื่องชั่วช้า จะถูกดำเนินคดีตามกฎหมายทันที โดยไม่มีการละเว้นใดๆทั้งสิ้น
การจัดการเรื่องราวทั้งหมดของจ้าวเทียน อยู่ภายใต้กฎหมายและอำนาจที่เขาได้รับมอบหมายมา ทำให้อีกฝ่ายไม่สามารถฟ้องร้องได้
ในช่วงเวลาสองวันที่ผ่านมา เรื่องที่จ้าวเทียนได้รับแต่งตั้งเป็นพลเอกยังมีคนรู้ไม่มากนัก ซึ่งมีเฉพาะผู้มีตำแหน่งสูงๆในรัฐบาลและบรรพชนเซียนทั้งสามตระกูลเท่านั้นที่รู้
และเพราะตำแหน่งของจ้าวเทียนนี้เอง ทำให้บรรพชนเซียนตระกูลจ้าวประกาศเก็บตัวฝึกวิชาแบบไม่มีกำหนด โดยส่งมอบตำแหน่งทุกอย่างให้กับจ้าวหนิงเซียน
หากเป็นไปตามการคาดเดาของจ้าวเทียน เรื่องนี้คงเป็นฝีมือของผู้อาวุโสต้วนมู่ ที่ต้องการรักษาชีวิตของจ้าวหงเลี่ยงเอาไว้ เพราะยังไงเขาก็เป็นกำลังสำคัญในการปกป้องประเทศในยามที่เกิดวิกฤตได้
ในบรรดาศัตรูของจ้าวเทียน ตอนนี้มีเพียงจ้าวหยุนปิงเท่านั้นที่ยังไม่ได้รับโทษ ไม่รู้ว่าแม่ชีชุดเทาใช้วิธีอะไร ถึงหนีรอดจากสัมผัสวิญญาณที่มีอาณาเขตเกือบครึ่งประเทศของจ้าวเทียนได้
เวลาบ่ายโมง เทือกเขาคุนหลุน
วันนี้จ้าวเทียนกับเหยียนซืออู่ ตั้งใจที่จะออกมาค้นหาคลังสมบัติลับของเจ้าสำนักคุนหลุนรุ่นแรก เพราะความช่วยเหลือของอ๋าวเฟิง ทำให้สามารถแก้ปัญหาเรื่องกระดานหมากล้อมไปได้โดยง่าย ในตอนนี้พวกเขาเพียงแค่ค้นหาตำแหน่งเอาจากแผ่นหยกที่ได้มาเท่านั้น
แต่ทว่า ในตอนที่กำลังเตรียมตัวออกเดินทาง ก็ได้มีสมาชิกใหม่เพิ่มมาอีกสองคนอย่างกะทันหัน
“ น้องปิงหยู…ดูกระต่ายตัวนั้นสิ มันน่ารักมากเลย พวกเราเอากลับไปเลี้ยงกันมั้ย ^๐^ ”
จ้าวหยูเหมยดึงแขนโม่ปิงหยูวิ่งไล่ตามกระต่ายสีขาว ที่กระโดดเข้าไปในพุ่มไม้ วันนี้ทั้งสองคนต่างแต่งตัวเข้าคู่กัน เป็นชุดเดรสสั้นสีสันสดใส
เมื่อรวมกับนิสัยที่ร่างเริงของพวกเธอแล้ว ทำให้คนที่อยู่ใกล้ๆรู้สึกผ่อนคลายไปโดยไม่รู้ตัว
“ หยูเหมย…เที่ยวเล่นอยู่แถวนี้ก็พอนะ บนเขาคุนหลุนมีสัตว์ร้ายมากมายเดี๋ยวมันจะกัดเอา ” เหยียนซืออู่พูดขึ้นด้วยเสียงอ่อนโยน
ที่จริงแล้วภารกิจในวันนี้ถือเป็นความลับสุดยอดของสำนักคุนหลุน แต่คนที่มาพร้อมเขาในวันนี้คือครอบครัวคนสำคัญ ส่วนลูกศิษย์ของหลายชายเขานั้น ก็เหมือนเป็นหลานสาวเขาคนหนึ่ง
ดังนั้นเขาจึงไม่ได้กังวล เรื่องความลับอะไรมากมาย…
“ ผู้อาวุโสไม่ต้องกังวล…มีหนูอยู่ด้วย พี่หยูเหมยต้องปลอดภัยแน่นอน ” โม่ปิงหยูรีบพูดขึ้นด้วยความมั่นใจ
แม้ภายนอกเธอเป็นเพียงเด็กสาวตัวเล็กน่ารัก แต่แท้จริงแล้วเธอคือปรมาจารย์ระดับสูงคนหนึ่ง ด้วยพลังฝีมือของเธอในตอนนี้ สามารถขึ้นเป็นผู้อาวุโสสูงสุดของตระกูลใหญ่ได้เลยทีเดียว
เพราะเลือดมังกรที่จ้าวเทียนแจกจ่ายไปในวันนั้น ทำให้แกนนำของขุมกำลังของเขาเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างมหาศาล
ซึ่งข่าวดีที่สุดก็คือ…
เหยียนซืออู่บรรลุครึ่งก้าวเซียนนภาแล้ว
หรือถ้าเปรียบเทียบตามการจัดอันดับของโลก ก็คือผู้มีพลังระดับ S ทำให้กลุ่มของจ้าวเทียนมีระดับ S ถึงสองคน เทียบเท่ากับมหาอำนาจชั้นนำ
ส่วนไป๋ซู่เจินกับซูต๋าจี่นั้น เนื่องจากวิถีเซียนปีศาจ ยังไม่มีผู้ค้นพบวิธีบรรลุสู่ขั้นถัดไป ทำให้พวกเธอยังอยู่ในขอบเขตเดิม
แต่พลังฝีมือของพวกเธอเพิ่มขึ้นมาเกือบหนึ่งเท่า จัดอยู่ในอันดับต้นๆของผู้มีพลังระดับ A ทั่วโลก
ในตอนนี้พวกไป๋ซู่เจินกำลังช่วยฝึกฝนทีมลอบสังหารกับโม่ซินหยาน ซึ่งผลเป็นที่น่าพอใจมาก
เพราะผู้ที่ผ่านการดัดแปลงยีนมานั้น ตอบสนองต่อเลือดมังกรได้อย่างดีเยี่ยม ที่เห็นได้ชัดที่สุดคือโม่ซินหยาน
ร่างกายเธอสามารถรับเอาเลือดมังกรไปได้ถึงสามขวด ทำให้ตอนนี้พลังของเธอเทียบเท่าเซียนระดับสูง ทั้งยังสามารถงอกปีกแบบมังกรออกมาได้ด้วย
ซึ่งผู้ที่ถูกดัดแปลงยีนมานั้น ถึงแม้จะมีพลังการต่อสู้เทียบเท่าระดับ A แต่ก็ไม่สามารถบินได้ เพราะไม่ได้ฝึกฝนแบบปกติทำให้ควบคุมพลังธรรมชาติไม่ได้
แต่ด้วยประสิทธิภาพของเลือดมังกร ดูเหมือนจะลบจุดอ่อนข้อนี้ไป ภายในอนาคตข้างหน้าจ้าวเทียนคิดว่า เขาอาจจะมีทีมลอบสังหารที่เป็นครึ่งมังกรก็เป็นได้
ตอนนี้มีเพียงศิษย์พี่หญิงคนเดียวเท่านั้นที่ยังไม่พบวิธีการใช้เลือดมังกร เพราะตัวของเธอเป็นนักรบวิญญาณ ทำให้ไม่มีร่างกายที่แท้จริง
ในขณะที่จ้าวเทียนกำลังคิดถึงประสิทธิภาพของเลือดมังกรนั้น เขาไม่ได้รู้เลยว่ากำลังจะมีคนต้องโชคร้ายเพราะเลือดมังกรที่เขานำกลับมา
ณ มิติลับหลังตู้หนังสือ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จุติใหม่มหาเทพตี้เทียน