จุติใหม่มหาเทพตี้เทียน นิยาย บท 112

ในช่วงเวลาเดียวกันกับที่พวกจ้าวเทียนออกไปหาสมบัติที่เทือกเขาคุนหลุน เฉินจิ้งเองก็ออกปฏิบัติภารกิจสำคัญเช่นกัน ตอนนี้เขานั่งอยู่ในร้านกาแฟแห่งหนึ่งกับหวังซินหยาง

ที่จริงแล้ว เรื่องในวันนี้ไม่ได้เกี่ยวข้องกับหวังซินหยางแม้แต่น้อย ตัวเขาแค่มาฝึกวิชากับหลินซูซินตามปกติ แต่เฉินจิ้งเป็นฝ่ายขอร้องแกมบังคับลากเอาตัวเขามาช่วยทำภารกิจด้วย

อาจจะเพราะมีอายุเท่ากัน และต่างก็เคารพยกย่องจ้าวเทียนเหมือนกัน ทำให้ทั้งคู่สนิทสนมกันอย่างรวดเร็ว

ตอนนี้เฉินจิ้งกำลังคุยโทรศัพท์ด้วยสีหน้าเคร่งเครียด

“ บอสครับ…คุณแน่ใจเหรอว่ามันคือที่นี่ ผมคิดว่ามันคงต้องมีอะไรผิดพลาดแน่นอน ” เฉินจิ้งพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงไม่แน่ใจ

“ พิกัดที่ฉันให้ไปนั้นถูกต้องแล้ว…เรื่องนี้สำคัญมาก นายระวังอย่าให้มีข้อผิดพลาดล่ะ”

เสียงจ้าวเทียนที่ดังออกมาจากโทรศัพท์นั้นมีความมั่นใจเป็นอย่างมาก

“ แต่บอสครับ…ปีศาจที่ไหนจะมาเปิดกิจการอยู่ใจกลางเมืองแบบนี้ แถมยังเป็นร้านแบบนั้นอีก ” เฉินจิ้งพยายามถามย้ำอีกครั้ง

“ จากข้อมูลลับของรัฐบาล…ในปัจจุบันนี้มีพวกปีศาจใช้ชีวิตปะปนอยู่กับพวกเรามากมาย เพราะผู้อาวุโสต้วนมู่เห็นว่าพวกเขาเองก็ถือเป็นประชาชนของประเทศเหมือนกัน”

“ อีกทั้งไม่ได้สร้างความเดือดร้อนหรือทำผิดกฎหมาย ก็เลยยอมให้พวกเขาสามารถประกอบอาชีพทำมาหากินได้โดยอิสระ เพราะฉะนั้นนายไม่ต้องแปลกใจกับสิ่งที่เห็นหรอก ”

เสียงจ้าวเทียนอธิบายออกมาอย่างใจเย็น

ในช่วงสองวันที่ผ่านมา จ้าวเทียนได้ตรวจสอบเอกสารข้อมูลลับต่างๆเกี่ยวกับผู้ฝึกตนและผู้มีพลังพิเศษที่อาศัยอยู่ในประเทศจีน เพื่อวางแผนปฏิบัติงานให้หน่วยงานใหม่ที่กำลังจะถูกจัดตั้งขึ้น

หลังจากที่อ่านรายงานทั้งหมดแล้ว เขาก็พบว่าในประเทศจีนมีปีศาจแฝงตัวอยู่มากมายและส่วนใหญ่ยังมีกิจการใหญ่โต จนสร้างตระกูลของตัวเองขึ้นมาได้อีก

พวกปีศาจเมื่อฝึกฝนจนถึงระดับแปลงกายเป็นมนุษย์ได้นั้น จะสามารถแต่งงานมีลูกกับคนปกติได้ แม้ว่าอัตราการกำเนิดของเด็กพวกนี้จะน้อยมาก แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มี

ทำให้ในปัจจุบัน มีหลายครอบครัวที่มีพ่อหรือแม่เป็นปีศาจ แล้วให้กำเนิดลูกหลานที่มีสายเลือดพิเศษออกมา คนพวกนี้จะมีความสามารถเหนือมนุษย์โดยที่ไม่ต้องฝึกฝน หรือที่พวกอเมริกาเรียกกันว่า ผู้มีพลังพิเศษ

ภารกิจของจ้าวเทียน ที่ต้วนมู่เฉียนมอบหมายให้ก็คือควบคุมดูแลบุคคลเหล่านี้ ไม่ให้ถูกพวกศาสนจักรแห่งแสงเหมารวมว่าเป็นพวกมารจากนอกโลกแล้วถูกกำจัด

เพราะโดยพื้นฐานแล้ว พวกเขาถือกำเนิดและเติบโตในประเทศจีนอย่างแท้จริง และทำอาชีพสุจริตเสียภาษีให้รัฐบาล เหมือนกับคนอื่นๆ ตราบใดที่พวกเขาไม่ได้ทำผิดกฎหมาย ประเทศก็ต้องให้ความคุ้มครองพวกเขาเช่นกัน

ตามข้อมูลที่ต้วนมู่เฉียนมอบให้ ทำให้จ้าวเทียนเห็นว่าพวกศาสนจักรแห่งแสงปฏิบัติภารกิจแบบสุดโต่งเกินไป พวกเขาถือว่าผู้ที่มีสายเลือดของปีศาจและมารเป็นพวกชั่วร้าย ต้องถูกกำจัดทั้งหมด โดยไม่สนว่าอีกฝ่ายจะดีหรือเลว

ในยุคกลางของยุโรปที่มีการล่าแม่มด ไม่รู้ว่ามีผู้มีพลังพิเศษกี่คนที่โดนลูกหลงถูกเผาจนตายทั้งเป็น ถือเป็นช่วงเวลาที่มืดมนของยุคสมัยนั้นอย่างแท้จริง

เพราะเหตุนี้ในตอนที่ศาสนจักรแห่งแสงต้องการจะขยายอำนาจเข้ามาในประเทศจีน ต้วนมู่เฉียนจึงต่อต้านอย่างรุนแรง เขาไม่ต้องการเห็นประเทศจีนต้องตกอยู่ในยุคมืดแบบนั้น

ซึ่งจ้าวเทียนเองก็มีความคิดเหมือนกับต้วนมู่เฉียน เพราะในขุมกำลังของเขาเองก็มีปีศาจอาศัยอยู่ด้วยเช่นกัน

สุดท้ายแล้วเพื่อที่จะแก้ไขปัญหาเรื่องนี้ จ้าวเทียนจึงเรียกประชุมเจ้าหน้าที่ระดับสูงในรัฐบาล แล้วออกกฎหมายเกี่ยวกับการอยู่ร่วมกันของปีศาจและมนุษย์

โดยที่ปีศาจทุกตนที่ถือกำเนิดในประเทศจีน จะต้องถูกตรวจสอบอย่างเข้มงวดและลงทะเบียนเป็นประชาชนจีนอย่างถูกต้องตามกฎหมาย หากเกิดปัญหาขึ้นก็สามารถแสดงบัตรประชาชนพิเศษให้ศาสนจักรแห่งแสงดูได้

เท่านี้ก็จะสามารถแก้ปัญหาที่จะตามมาได้หลายข้อ อีกทั้งยังเป็นการแบ่งแยกอย่างชัดเจนว่าผู้ที่ไม่ได้ลงทะเบียน ก็คือไส้ศึกจากโลกแห่งมารที่ลักลอบเข้ามา

วันนี้จ้าวเทียนได้สั่งให้หน่วยรบพิเศษทั้ง 200 คนที่ได้รับมอบมา ออกทำภารกิจค้นหาตัวปีศาจทั้งหมด แล้วพากลับมาลงทะเบียนที่ฐานบัญชาการของเขาตรงทะเลสาบมรกต

เฉินจิ้งและพวกหัวหน้าหน่วยในขุมกำลังของจ้าวเทียนเองก็ได้รับมอบหมายภารกิจแบบเดียวกัน จ้าวเทียนได้มอบตราประจำตำแหน่งหน่วยรบพิเศษให้พวกเขาไว้แล้ว

หลังจากที่ได้ยินคำยืนยันจากจ้าวเทียน เฉินจิ้งก็ถอนหายใจออกมาเบาๆ

“ ตกลงครับบอส…ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของผมเอง ” เขาพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงจริงจัง ตัวเขาเองก็ไม่อยากสร้างความผิดหวังให้จ้าวเทียนเช่นกัน

‘ ฉันคือลูกน้องคนสนิทของบอส…ไม่มีทางปล่อยให้พวกที่มาใหม่แย่งตำแหน่งนี้ไปแน่ ’

หลังจากที่วางสายโทรศัพท์ไป เฉิ้นจิ้งก็หยิบหมวกกับแว่นกันแดดขึ้นมาใส่ด้วยท่าทีจริงจัง

“ ไปกันเถอะซินหยาง…พวกเราต้องทำภารกิจของบอสให้สำเร็จ ”

“ เอ่อ…อาจิ้ง ฉันคงไปกับนายไม่ได้หรอก ถ้าแฟนฉันรู้เข้าต้องตายแน่ๆ ” หวังซินหยางพูดขึ้นด้วยสีหน้ากังวลและขยับตัวออกจากเฉินจิ้งอย่างช้าๆ เขาไม่น่าหลวมตัวตามอีกฝ่ายมาเลย

หมับ!

เฉินจิ้งได้คว้าแขนของหวังซินหยางเอาไว้ด้วยรอยยิ้ม แล้วพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงจริงใจ

“ เพื่อนรัก…นายคงไม่ทิ้งฉันให้เข้าไปคนเดียวใช่ไหม ”

!!

‘ เพื่อนรักบ้านนายสิ…เราเพิ่งเจอกันได้ไม่กี่วันเองนะ ’

หวังซินหยางอยากจะเอาไม้ตีหัวชายหนุ่มที่อยู่ตรงหน้ามาก ในทีแรกที่อีกฝ่ายมาชวนเขาก็ไม่ได้บอกรายละเอียดว่าจะไปที่ไหน ทำให้เขาเผลอตกปากรับคำไป

“ เดี๋ยว…นายก็รู้นี่ว่ามันไม่ค่อยเหมาะ ฉันมีแฟนแล้วนะจะเข้าไปสถานที่แบบนั้นได้ยังไง ” หวังซินหยางพยายามฝืนตัวเอาไว้ แต่ก็สู้แรงของเฉินจิ้งไม่ไหว ถูกลากออกจากร้านกาแฟไปอย่างไม่เต็มใจนัก

แม้ว่าตอนนี้หวังซินหยางจะกลายเป็นผู้ฝึกตนสายนักรบวิญญาณ แต่เขาก็มีความแข็งแกร่งของร่างกายไม่ต่างจากคนธรรมดาเท่าไหร่ อีกทั้งนักรบวิญญาณของเขาก็ไม่เหมาะจะใช้ในที่สาธารณะแบบนี้

ส่วนเฉินจิ้งในตอนนี้นั้นอยู่ในขอบเขตผู้เชี่ยวชาญระดับสูงแล้ว เพราะจ้าวเทียนได้แบ่งเลือดมังกรให้เขาเล็กน้อย

ด้วยเคล็ดวิชาแปดประตูเทวะ ทำให้ร่างกายของเฉินจิ้งเหนือกว่ามนุษย์ธรรมดาไปมาก จนสามารถทนรับพลังอันมหาศาลของเลือดมังกรได้

เมื่อมองไปยังอาคารฝั่งตรงข้ามแล้ว หวังซินหยางก็รู้สึกหมดคำจะพูด

“ เหนียงจื่อ เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ คลับแอนด์สปา! ”

ต่อให้ไม่เคยเที่ยวสถานที่แบบนี้ก็ตามที แต่ก็ดูออกว่ามันคือ อาบอบนวด ทั้งยังเป็นร้านใหญ่ใจกลางเมืองอีกต่างหาก หวังซินหยางรีบสวมแว่นกันแดดกับหมวกที่เฉินจิ้งเตรียมไว้ให้ทันที

‘ ขออย่าให้แฟนฉันรู้เลย… ’

ผ่านไปไม่นานตรงหน้าทางเข้า เฉินจิ้งเดินนำหวังซินหยางเข้าไปอย่างลับๆล่อๆ ตอนนี้เขาเครียดมาก ใช้ชีวิตมาจนป่านนี้ นี่เป็นครั้งแรกที่เขาเข้ามาในอาบอบนวด หากถูกคนรู้จักพบเห็นเข้าจะทำอย่างไร

สายตาของเขากวาดไปรอบด้านไม่หยุด ในขณะเดียวกันก็ต้องคอยระวังสหายที่อยู่ด้านหลังจะหลบหนีด้วย

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จุติใหม่มหาเทพตี้เทียน