สองชั่วโมงผ่านไป หลังจากการนัดหมายผ่านทางโทรศัพท์
เหล่าปีศาจสาวตอนนี้อยู่ในสภาพตรึงเครียดเป็นอย่างมาก พวกเธอไม่รู้ว่าอีกฝ่ายเป็นผู้นำตระกูลหลินตัวจริงหรือไม่ แต่ก็ไม่กล้าประมาทแน่นอน เพราะอย่างน้อยที่อีกฝ่ายสามารถสั่งการหน่วยรบพิเศษได้ ย่อมไม่ใช่คนธรรมดา
ครืนนน!
ตอนนี้ภายในคลับเต็มไปด้วยใยแมงมุมโปร่งใสที่โจวซือซือวางกับดักเอาไว้ ต่อให้ใช้คำพูดสวยหรูว่ามาเจรจาข้อตกลง
แต่หากฝ่ายไหนกุมความได้เปรียบในตอนแรกเอาไว้ได้ ก็ย่อมสามารถเป็นฝ่ายกำหนดและเรียกร้องเงื่อนไขที่ต้องการ
“ พี่ซือซือ…ฉันตามคนของเราจากสาขาอื่นมาหมดแล้ว ตอนนี้พวกเธอรอคำสั่งจากเราอยู่ ตรงตึกสองหลัง ที่อยู่ฝั่งตรงข้าม” จือรั่วพูดขึ้นด้วยสีหน้าจริงจัง เธอได้วางกำลังปิดล้อมบริเวณรอบๆเอาไว้หมดแล้ว
หากเกิดการต่อสู้ขึ้น พวกเธอก็จะจับคนธรรมดาที่เดินถนนอยู่ด้านล่างเป็นตัวประกันไว้ต่อรอง
“ ลั่วลั่วส่งคนที่ต่อสู้ไม่ได้ออกไปแล้วใช่ไหม…เด็กๆพวกนั้นเป็นกำลังในอนาคตของพวกเรา อย่าให้พวกเธอโดนลูกหลงไปด้วยนะ ” โจวซือซือถามขึ้นด้วยสีหน้ากังวล เธอเป็นผู้นำของทั้งหมด จะต้องคิดเผื่อทางถอยเอาไว้ด้วย
“ ฉันจัดการเรียบร้อยแล้ว…ตอนนี้คนที่ยังอยู่มีแต่ขอบเขตผู้เชี่ยวชาญขึ้นไปทั้งนั้น ด้วยกำลังของเราในตอนนี้ ต่อให้ต้องสู้กันจริงๆก็ไม่แน่ว่าจะเสียเปรียบ ” ลั่วลั่วพูดขึ้นด้วยความมั่นใจ
ก๊อกๆ
“ พี่สาวใหญ่…ตัวแทนสมาคมมาขอพบค่ะ ”
เมื่อประตูเปิดออก หญิงงามสองคนก็เดินเข้ามาอย่างมีมารยาท พวกเธอเป็นตัวแทนของสมาคมที่ถูกก่อตั้งขึ้นเพื่อดูแลปีศาจสาวในประเทศจีนโดยเฉพาะ พวกโจวซือซือเองก็เป็นหนึ่งในระดับผู้บริหารของสมาคมนี้เช่นกัน
“ สวัสดีค่ะพี่ซือซือ…ฉันพาเด็กๆในสมาคมมารอรับคำสั่งจากคุณแล้ว ”
“ ดีมาก…แล้วท่านประธานว่าอย่างไรบ้าง เธอจะออกหน้าช่วยพวกเราไหม ” โจวซือซือถามขึ้นอย่างมีความหวัง
‘ ท่านประธานเป็นถึงปีศาจในตำนานที่มีอายุเกิน 2000 ปี…ถ้าเธอยอมลงมือเองเชื่อว่ารัฐบาลก็ต้องยอมไว้หน้าบ้าง ’
คำถามของเธอทำให้อีกฝ่ายหน้าเจื่อนลงเล็กน้อย แล้วเงียบเสียงไป
“ งั้นเหรอ…เธอยังลืมผู้ชายคนนั้นไม่ได้สินะ ” โจวซือซือพูดขึ้นด้วยสีหน้าผิดหวัง เธอเคยได้ยินข่าวมาว่าคนรักของท่านประธานคือผู้นำระดับสูงของประเทศ แต่อีกฝ่ายกลับทอดทิ้งเธอไป
แต่ถึงแม้จะเป็นแบบนั้น ท่านประธานก็ยังคอยช่วยเหลือผู้ชายคนนั้นแบบลับๆมาโดยตลอด ในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง
ตอนที่ทหารญี่ปุ่นบุกเข้ามา สมาคมของพวกเธอเองก็เข้าร่วมต่อสู้ด้วย เพื่อปกป้องประชาชนในประเทศจากปีศาจต่างชาติ…
แต่เมื่อถึงเวลานี้ ที่ต้องต่อสู้กับรัฐบาล ท่านประธานคงจะลำบากใจมาก เพราะอีกฝ่ายเป็นคนรักเก่า
“ จือรั่ว…ตอนนี้คนของพวกเรามีเท่าไหร่ ”
“ รวมคนจากสาขาอื่นแล้วก็มี 150 คนพอดีค่ะ…เป็นระดับปรมาจารย์ 10 คนระดับผู้เชี่ยวชาญ 140 คน ฉันคิดว่าพวกเราต้องทำสำเร็จอย่างแน่นอน ” จือรั่วตอบด้วยความมั่นใจ
ด้วยกองกำลังขนาดนี้ ต่อให้เปิดศึกกับ 4 ตระกูลใหญ่ในปัจจุบันก็ยังได้ อย่าว่าแต่ตระกูลหลินที่ตกต่ำในรอบ 12 ปีที่ผ่านมาเลย
“ ดี…งั้นมาดูกัน ว่าอีกฝ่ายจะกล้ามาไหม ”
บนท้องฟ้าในขณะเดียวกัน
สาวงามสองคนกำลังยืนอยู่กลางอากาศ พวกเธอก้มมองสถานบริการแห่งหนึ่ง ที่ถูกตกแต่งอย่างหรูหรามีระดับ
“ ต๋าจี่…เขตแดนลวงตาของเธอ ก้าวหน้าไปอีกขั้นแล้วนะ ” ไป๋ซู่เจินพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงชื่นชม
“ จริงด้วยพี่ซู่เจิน…แม้แต่ฉันเองก็ยังแปลกใจ คงเป็นเพราะเลือดมังกรขวดนั้นแน่เลย ” ซูต๋าจี่ตอบด้วยท่าทางตื่นเต้น หางจิ้งจอกทั้งเก้าของเธอปัดป่ายไปมา
เวลานี้เธออยู่ในร่างที่แท้จริงของเซียนจิ้งจอก เพราะต้องใช้พลังมหาศาลสร้างอาณาเขตลวงตาขึ้นมาหลอกสายตาฝ่ายตรงข้าม
เวลานี้พื้นที่ทั้งหมดรอบๆตึกแห่งนั้น อยู่ในความควบคุมของเธอหมดแล้ว คนที่เดินอยู่ตามถนน ก็เป็นเพียงภาพมายาที่เธอสร้างขึ้นหลอกสายตาฝ่ายตรงข้ามเท่านั้น ส่วนประชาชนจริงๆ ได้ถูกหน่วยสวาทกันออกไปหมดแล้ว
“ จะว่าไป…ฉันก็รู้สึกสงสารเด็กๆพวกนั้น เหมือนกันนะ ”ไป๋ซู่เจินพูดเสียงอ่อน แม้ว่าอีกฝ่ายจะเดินในวิถีที่แตกต่างจากเธอ แต่โดยเนื้อแท้แล้วก็เป็นเผ่าพันธุ์เดียวกัน เมื่อคิดว่าจะต้องลงมือกับพวกพ้อง ก็ทำให้เธอรู้สึกเศร้าขึ้นมา
สำหรับการฝึกฝนของปีศาจสาวแบบพวกเธอนั้นจะมีอยู่สองแนวทาง คือบำเพ็ญเพียรโดยการดูดซับพลังของตะวันและจันทรา กับฝึกเคล็ดวิชาเพื่อดึงดูดพลังหยางของเพศตรงข้าม
ตัวไป่ซูเจินนั้นฝึกฝนแบบวิธีแรก ทำให้พลังในร่างของเธอบริสุทธิ์และแข็งแกร่งแทบไม่ต่างจากขอบเขตเซียนของมนุษย์ แต่มันก็ต้องแลกมาด้วยระยะเวลาฝึกฝนที่ยาวนาน
ส่วนวิธีที่สองแม้ว่าจะดูชั่วร้ายไปหน่อย แต่ถ้าสามารถควบคุมตัวเอง ไม่ดูดกลืนอีกฝ่ายจนถึงแก่ชีวิต ก็นับเป็นหนทางฝึกฝนที่รวดเร็วและปลอดภัยมาก
เพราะพลังหยางของผู้ชายสามารถฟื้นตัวได้เองเมื่อผ่านไปช่วงระยะเวลาหนึ่ง ทำให้ปีศาจสาวส่วนใหญ่ต่างก็เลือกฝึกวิธีที่สอง
“ ยัยตุ๊กตา คงไม่ทำอะไรรุนแรงหรอกมั้ง…เธอรับปากพวกเราแล้วว่าจะหาวิธีช่วยเหลือปีศาจสาวพวกนี้ ”
เมื่อพูดจบ ซูต๋าจี่ก็เปิดวิทยุสื่อสารแล้วพูดออกไปด้วย น้ำเสียงจริงจัง
“ ฉันควบคุมพื้นที่บริเวณรอบๆไว้แล้ว…เธอเข้าไปได้เลย ”
ผ่านไปไม่นานก็มีเสียงเด็กสาว ตอบกลับมา
“ ตกลง…ขอบคุณมาก ”
หลังจากที่ซูต๋าจี่เก็บวิทยุสื่อสารกลับไป เธอก็ถามไป๋ซู่เจินด้วยความสงสัย
“ พี่ซู่เจินรู้ไหม…ทำไมยัยตุ๊กตาหมีถึงมั่นใจว่าอีกฝ่ายจะหลบหนีทันทีที่พบหน้าเธอล่ะ แถมยังไม่ต้องการความช่วยเหลือจากพวกเราอีก ฝ่ายนั้นมีเซียนปีศาจถึงสามตนเลยนะ ”
“ เรื่องนี้ฉันเองก็ไม่แน่ใจ…แต่คงจะมีเรื่องบางอย่างเกิดขึ้น ช่วงที่พวกเราถูกขังไว้ในถ้ำผนึกมารแน่นอน ” ไป๋ซู่เจินตอบด้วยท่าทีครุ่นคิด
‘ หลินซูซิน…เธอคงจะ ไม่ได้ไปทำอะไรไม่ดีไว้ใช่ไหม ’
ด้านหน้าคลับของโจวซือซือ ตอนนี้มีรถลีมูซีนสีดำคันหนึ่งขับเข้ามาจอดอย่างช้าๆ จากนั้นบอดี้การ์ดคนหนึ่งก็วิ่งลงมาเปิดประตูหลังให้เจ้านาย
หลินซิงเสวียนก้าวลงมาพร้อมกับตุ๊กตาหมีในอ้อมกอด ตอนนี้พื้นที่ทั้งหมดอยู่ในความควบคุมของพวกเธอแล้ว ทำให้ฝ่ายตรงข้ามไม่รู้ว่าเธอได้มาถึงแล้ว
หลังจากสั่งให้พวกบอดี้การ์ดยืนรออยู่ด้านนอก เธอก็เปิดประตูเข้าไปด้านใน
ภายในห้องประชุมใหญ่
พวกโจวซือซือกำลังนั่งรอการมาถึงของผู้นำตระกูลหลิน ด้วยท่าทางกังวล ยิ่งอีกฝ่ายมาช้าเท่าไหร่ ก็แสดงว่ายิ่งอันตรายขึ้นเท่านั้น เพราะฝ่ายตรงข้ามอาจจะรวบรวมกองกำลังขนาดใหญ่อยู่ เพื่อจับกุมพวกเธอในคราวเดียว
“ ตอนนี้…หน่วยรบพิเศษพวกนั้นเป็นยังไงบ้าง ” โจวซือซือถามขึ้น เธอกลัวว่าอีกฝ่ายจะลอบเข้ามาช่วยเหลือคนแบบไม่ทันตั้งตัว
“ พี่สาวไม่ต้องเป็นห่วง…ฉันจับพวกเขาแยกขังไว้อีกห้องแล้ว พร้อมทั้งจัดคนเฝ้าไว้จนกว่าเราจะตกลงกับอีกฝ่ายเสร็จ ” ลั่วลั่วพูดขึ้นอย่างจริงจัง เธอสั่งคนเอาไว้แล้วว่าห้ามแตะต้องชายหนุ่มพวกนั้นเด็ดขาด
“ ดีมาก ”
ทันใดนั้นเอง
“ กรี๊ดดด!...หนีเร็ว ” “ เป็นมันเอง…ฉันจำได้ พวกเรารีบหนี ”
“ อสูรร้าย…มันกลับมาแล้ว ”
!!
เสียงความวุ่นวายที่เกิดขึ้นด้านนอก ดึงดูดความสนใจของทุกคนห้องทันที แต่ยังไม่ทันที่พวกเธอจะได้ทำอะไร
ประตูห้องก็ถูกผลักเปิดเข้ามาอย่างแรง…
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จุติใหม่มหาเทพตี้เทียน