จุติใหม่มหาเทพตี้เทียน นิยาย บท 119

ภายในสถานที่ทดสอบของนิกายจูเซียน

บานประตูสีทองค่อยๆสลายเป็นละอองแสงอย่างช้าๆ ร่างของเหยียนซืออู่ก็ปรากฏแทนตำแหน่งของประตูบานนั้น ตามตัวของเขามีบาดแผลเลือดออกอยู่เล็กน้อย

“ เสียใจด้วย…เธอไม่ผ่านการทดสอบ ”

!!

คำพูดหยวนตี้สร้างความตกใจให้พวกจ้าวเทียนทุกคน ฝีมือของเหยียนซืออู่นั้นทุกคนต่างก็รู้ดี ทั้งยังมีเคล็ดวิชาเทวะอีกด้วย แล้วจะไม่ผ่านการทดสอบได้อย่างไร

“ ท่านตา…เกิดอะไรขึ้น ” จ้าวเทียนถามขึ้นด้วยความสงสัย

เหยียนซืออู่หันไปมองหยวนตี้เล็กน้อย เมื่ออีกฝ่ายพยักหน้าอนุญาตเขาจึงเล่าออกมา

“ ตาพ่ายแพ้ต่อจิตมารของตัวเอง…ในการทดสอบด่านที่สี่” เหยียนซืออู่พูดออกมาด้วยความผิดหวัง

หลังจากนั้นเขาก็อธิบายรายละเอียดการทดสอบให้ทุกคนฟัง ซึ่งในสองด่านแรก ก็เหมือนกับที่จ้าวเทียนเจอมา เขาสามารถผ่านมาได้อย่างไม่ยากเย็น

ส่วนด่านที่สามจะเป็นการทดสอบด้านไหวพริบการตัดสินใจ ด้วยการจำลองสถานการณ์ในอดีต ทำให้ต้องใช้เวลานาน แต่เหยียนซืออู่ก็สามารถผ่านมันมาได้

แต่ในด่านที่สี่นั้น เป็นการต่อสู้กับจิตมารของตัวเอง ซึ่งบททดสอบได้แปลงกายเป็นลูกสาวของเขาเอง ทำให้ต้องพ่ายแพ้ในที่สุด

ในช่วงชีวิตของเหยียนซืออู่ที่ผ่านมานั้น เขารู้สึกผิดต่อลูกสาวที่สุด ตั้งแต่ภรรยาของเขาตายไป ลูกสาวก็เป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจมาโดยตลอด

แต่ภายหลังเขากลับวุ่นวายอยู่แต่สำนัก จนละเลยลูกสาวไป สุดท้ายแล้วก็เกิดเหตุเมื่อ 8 ปีก่อนขึ้น ทำให้ตอนนี้เขาไม่อาจรู้ได้เลยว่าลูกสาวยังมีชีวิตอยู่หรือไม่ ในใจของเขาเองก็กังวลกับเรื่องนี้ทุกเวลา

ในการต่อสู้กับจิตมารที่พลังเท่าเทียมกันทุกอย่าง การลังเลเพียงเสี้ยววินาทีก็สามารถตัดสินผลแพ้ชนะได้เลย

เมื่อได้ยินรายละเอียดการทดสอบ จ้าวเทียนก็มีแววตาจริงจังขึ้น ในใจเขาครุ่นคิดถึงเหตุการณ์ในอดีต

‘ ฉันจำได้ว่าในชาติที่แล้วตอนจะบรรลุขอบเขตเทพโลกา ก็ต้องกำจัดจิตมารของตัวเอง การทดสอบนี้จัดว่ายากเป็นอย่างมาก ’

‘ ไม่แน่ว่า…ตอนจะบรรลุขอบเขตเซียนทิพย์ก็คงเหมือนกัน คงต้องเตรียมตัวเอาไว้ตั้งแต่เนิ่นๆจะดีกว่า ’

ผ่านไปไม่นาน

พวกจ้าวเทียนก็บอกลาหยวนตี้ แล้วออกมาจากคลังสมบัติลับ วันนี้การเดินทางมาที่นี่ของพวกเขาถือว่าได้ผลตอบรับดีมาก ทั้งอาวุธ สมุนไพร และคัมภีร์จำนวนมาก อีกทั้งยังได้ข้อมูลที่สำคัญมาอีกด้วย

ในขณะที่จ้าวเทียวก้าวเท้าออกมาจากมิติลับนั้น โทรศัพท์ของเขาก็ส่งสัญญาณแจ้งเตือนมาไม่หยุด

หืม

‘ เกิดอะไรขึ้น…ใครโทรมาหลายสายขนาดนี้ ’

“ (11) สายไม่ได้รับ เฉินจิ้ง ”

!!

จ้าวเทียนรีบโทรกลับไปทันที หลังจากคุยไปประมาณสิบนาที ทำให้เขาพอจะเข้าใจปัญหาที่เกิดขึ้นในที่สุด

‘ ข้อมูลลับของหน่วยรบพิเศษผิดพลาดไปเยอะมาก…ฉันไม่คิดว่าปีศาจสาวพวกนั้นจะสร้างขุมกำลังขึ้นมาได้ใหญ่โตขนาดนี้ ’

‘ โชคดีที่ศิษย์พี่หญิงได้จัดการปัญหาเบื้องต้นให้แล้ว กลับไปฉันต้องเอาเรื่องนี้เข้าที่ประชุมกับผู้อาวุโสต้วนมู่อีกครั้ง ’

“ พวกเรา…กลับกันเถอะ ” จ้าวเทียนหันไปบอกกับทุกคน

ย้อนกลับไปประมาณ 1 ชั่วโมงก่อน

ณ ทะเลสาบมรกต เหนือขึ้นไปบนท้องฟ้าเกือบหมื่นเมตร ชายชราชุดขาวยืนอยู่บนก้อนเมฆอย่างใช้ความคิด ด้านหน้าเขามีแผนผังแปดทิศหมุนทวนเข็มอย่างรวดเร็ว

ชายชราผู้นี้ก็คือ เทพมังกรอ๋าวเฟิง เขาได้มาถึงสถานที่แห่งนี้นานแล้ว แต่เหตุผลที่ยังไม่ได้ลงไปเพราะ เขาสัมผัสได้ว่ามียอดฝีมือระดับสูงสุดถึงสามคนเฝ้าอยู่ แม้ว่าเขาจะมั่นใจในฝีมือของตัวเองว่าสามารถเอาชนะพวกนั้นได้

แต่เขาก็ไม่ต้องการเปิดเผยพลังของตัวเอง อีกอย่างการเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องบุญคุณความแค้นของมนุษย์มันผิดหลักการของเขา

‘ ตอนนี้ยอดฝีมือสามคนนั้นออกไปแล้ว…เหลือแต่ตัวผู้ที่รู้ศาสตร์ทำนายเพียงคนเดียว แม้ว่าอีกฝ่ายจะใช้อำพรางสวรรค์ทำให้ฉันไม่รู้ตัวตน แต่การบอกสถานที่ให้ฉันรู้นั้นถือว่าพลาดมหันต์ ’

‘ ในอาณาเขตร้อยกิโลเมตรรอบพื้นที่ตรงนี้…ไม่มีใครซ่อนตัวจากฉันได้เด็ดขาด ’

!!

ตรงนั้น!

เพียงพริบตาเดียว ร่างของอ๋าวเฟิงก็มาปรากฏตัวอยู่ในห้องทำงานของจ้าวเทียน โดยที่พวกบอดี้การ์ดที่ยืนอยู่ด้านนอกไม่ได้รู้สึกตัวแม้แต่น้อย

หลังจากที่หลินซูซินพาไป๋ซู่เจินและซูต๋าจี่ออกไปแล้ว ในทะเลสาบมรกตตอนนี้ ก็เหลือเพียงโม่ซินหยานที่มีพลังต่อสู้ทัดเทียมกับขอบเขตเซียน

แต่เนื่องจากเธอถูกจัดเป็นมนุษย์กลายพันธุ์ ไม่ได้ฝึกฝนสัมผัสวิญญาณมาก่อน จึงไม่รู้ถึงตัวตนของอ๋าวเฟิง

ภาพที่อ๋าวเฟิงมองเห็นในตอนนี้คือมีช่องว่างมิติที่ถูกบิดเบือนอยู่ตรงด้านหลังชั้นหนังสือขนาดใหญ่ นอกจากนี้ยังสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายที่คุ้นเคยอีกด้วย

‘ ที่แท้ก็หลบอยู่ตรงนี้เอง…อีกฝ่ายน่าจะรู้ตัวแล้ว แต่ก็แค่นั้นแหละ ’

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จุติใหม่มหาเทพตี้เทียน