ก่อนที่จางว่านฉีจะเดินทางมาที่สามเหลี่ยมทองคำ เขาได้ตรวจสอบข้อมูลของทรงยุทธเรียบร้อยแล้ว
เมื่อสามปีก่อนอีกฝ่ายได้เข้าไปพัวพันกับคดีทุจริตคอรัปชั่น เรือดำน้ำและอาวุธสงครามกับผู้มีอำนาจระดับสูงในประเทศจีน จนเกินเป็นข่าวใหญ่สั่นสะเทือนทวีปเอเชีย
หลังจากรัฐบาลชุดเก่าของประเทศจีนถูกปลด และคนที่เกี่ยวข้องทั้งหมดถูกสั่งประหาร ทำให้ทรงยุทธโดนผลกระทบไปด้วย เขาสูญเสียอำนาจทั้งหมดและถูกออกหมายจับ จนต้องหนีมากบดานอยู่ที่สามเหลี่ยมทองคำ
และผู้ที่เป็นต้นเหตุของเรื่องทั้งหมด ก็คือผู้นำคนปัจจุบันของประเทศจีนในเวลานี้ สามารถคาดเดาได้เลยว่า กองกำลังติดอาวุธขนาดใหญ่ที่จะลักลอบเข้าไปในประเทศจีนมีวัตถุประสงค์อะไร
“ เรื่องนี้…ขอเวลาฉันคิดหน่อยได้ไหม ” จางว่านฉีพูดขึ้นด้วยความกังวล ด้วยเส้นสายของตระกูลจางในตอนนี้ การจะลักลอบนำกองกำลังเข้าประเทศไม่ใช่ปัญหา แต่ถ้าหากถูกจับได้ขึ้นมาจุดจบของมันจะเลวร้ายยิ่งกว่าถูกจ้าวเทียนจัดการซะอีก
“ ฉันเกรงว่าคุณจางจะไม่มีเวลาให้คิดแล้วนะ…จากที่ฉันได้ยินมา ตระกูลของพวกคุณอยู่ในสถานการณ์ที่กำลังจะถูกทำลายอยู่แล้ว การร่วมมือกับพวกเรามันจะช่วยเหลือพวกคุณได้แน่นอน ”
“ กองกำลังของพวกเราจะกำจัดศัตรูทั้งหมดของพวกคุณให้แบบฟรีๆ…จากนั้นก็จะมอบผลประโยชน์ทั้งหมดในเมืองเทียนจินให้กับตระกูลจาง ”
“ ตระกูลของคุณจะกลับมาทรงอำนาจอีกครั้ง…พวกคุณจะยิ่งใหญ่มากกว่าในอดีตหลายเท่า เพียงแค่ยอมเสี่ยงกับเรื่องเล็กน้อยนี่เท่านั้น ”
“คุณแค่อำนวยความสะดวกเรื่องสถานที่ให้พวกเราก็พอ…ส่วนเรื่องหลังจากนั้นก็ไม่เกี่ยวกับคุณแล้ว ” ทรงนัสพูดอธิบายอย่างช้าๆ ดวงตาของเขาเปล่งแสงสีเขียวจางออกมา ทำให้สีหน้าของพวกจางว่านฉีตกอยู่ในภวังค์
“ ได้…ผมยอมร่วมมือ ” จางว่านฉีพูดด้วยแววตาเหม่อลอย
กึก!
หัวหน้าบอดี้การ์ดที่นั่งอยู่ด้านหลังสะท้านขึ้นสุดตัว
เขารีบหยิกไปที่ต้นขาตัวเองอย่างแรง จนสติกลับคืนมาครู่หนึ่ง แล้วรีบมาเขย่าตัวของจางว่านฉี เพื่อปลุกให้ฟื้นสติ
“ ท่านผู้นำ…ตั้งสติไว้นะครับ คุณกำลังโดนล้างสมองอยู่ ”
เฮือก!
“ นี่ฉัน…เกิดอะไรขึ้น ” จางว่านฉีพึมพำออกมาด้วยความสับสน เมื่อกี้เขาพูดอะไรออกไป
“ เมื่อกี้…พวกเขาใช้มนต์สะกดใส่คุณ ” หัวหน้าบอดี้การ์ดพูดขึ้นด้วยท่าทีร้อนรน
แม้ว่าตัวเขาจะไม่ได้ฝึกฝนขั้นสูงเหมือนคนอื่น แต่เพราะผ่านการต่อสู้เสี่ยงชีวิตมาหลายสิบครั้ง จิตใจของเขาจึงแข็งแกร่งกว่าคนอื่น
ตั้งแต่ที่ตระกูลได้รับเอาเด็กกำพร้าอย่างเขามาดูแลตั้งแต่เกิด ตัวเขาเองจึงจงรักภักดีต่อตระกูลจางเป็นอย่างมาก
‘ โทษทัณฑ์ของการทรยศประเทศชาติ มีเพียงความตายเท่านั้น…ฉันไม่มีทางให้พวกมันทำสำเร็จแน่ ’
“ พวกเราปกป้องท่านผู้นำ! ” หัวหน้าบอดี้การ์ดออกคำสั่งเสียงดัง
ควับ!
พวกบอดี้การ์ดทุกคนชักปืนออกมาเล็งใส่ทรงนัสทันที นี่คืออาวุธชนิดพิเศษที่เอาไว้ต่อสู้กับพวกผู้ฝึกตนโดยเฉพาะ
“ พวกแก…เก็บอาวุธเดี๋ยวนี้ ” จางว่านฉีที่รู้สึกตัวแล้ว ก็รีบพูดขึ้นอย่างรวดเร็ว ฝ่ายตรงข้ามน่ากลัวเกินไป จะให้เกิดการต่อสู้ไม่ได้เด็ดขาด
“ หืม…ลูกน้องของคุณจาง ช่างจงรักภักดีซะจริงๆเลยนะ แต่กล้าชี้อาวุธมาทางฉันแบบนี้ มันเหมือนไม่ให้เกียรติกันเลยนี่ ” ทรงนัสพูดเสียงเฉยชา ประกายแสงสีเขียวในดวงตาเขาเข้มขึ้นเรื่อยๆ
“ ผมต้องขออภัยด้วยจริงๆ…สำหรับการกระทำของพวกเขาผมจะชดใช้เงินให้ 10ล้านก็แล้วกัน แต่เรื่องที่คุณเสนอมา ผมขอกลับไปปรึกษากับทางตระกูลก่อนได้ไหม ” จางว่านฉีพูดขึ้นอย่างสุภาพ
‘ เงื่อนไขของอีกฝ่าย ยอมทำตามไม่ได้เด็ดขาด…ฉันต้องรีบหาข้ออ้างออกไปจากสถานที่นี้ให้เร็วที่สุด ’
เครี้ยกๆ
เสียงหัวเราะที่ดูชั่วร้ายดังขึ้น ดึงดูดความสนใจของทุกคนทันที
“ ไม่จำเป็น…ต้องกลับไปปรึกษาใครหรอก ” ทรงยุทธพูดเสียงเย็นชา
เขาอ้าปากกว้างขึ้นอย่างช้าๆ
ซวบ!
เงาสีดำพุ่งออกมาจากปากเขาเหมือนสายฟ้าแลบ แล้วหนีบหัวของบอดี้การ์ดคนหนึ่งเอาไว้
โพละ!
เสียงที่เหมือนกับแตงโมระเบิดดังขึ้น หัวของบอดีการ์ดคนนั้นระเบิดออกมา โดยที่ยังไม่ทันแม้แต่จะเปล่งเสียงร้อง
ตอนนี้ทุกคนที่อยู่รอบๆค่อยๆเห็นได้ชัด สิ่งที่พุ่งออกมาจากปากของทรงยุทธ คือหัวของตะขาบสีดำขนาดใหญ่ ยาวเกือบสี่เมตร
กร๊วบๆ
มันกลืนกินสมองและเลือดเนื้อเข้าไปอย่างหิวกระหาย
“ อ้ากก…ปีศาจ ” “ ยิงเลย…ฆ่ามันเดี๋ยวนี้ ”
ปัง!ๆๆๆๆๆ
พวกบอดี้การ์ดที่เหลือสาดกระสุนใส่ทรงยุทธอย่างบ้าคลั่ง พวกเขาต้องการแก้แค้นให้สหายที่ถูกกินไป
วูป!
เห็นเพียงรอยสักที่อยู่บนร่างของทรงยุทธเปล่งแสงออกมา กระสุนปืนพวกนั้นก็สะท้อนกลับไปใส่เจ้าของ
เพียงเสี้ยววินาที…เรื่องทุกอย่างก็จบลง
กร๊วบๆๆๆ
จางว่านฉี นั่งมองลูกน้องของตัวเองถูกกินไปทีละคนด้วยใบหน้าสิ้นหวัง
“ เรื่องแบบนี้…ทำไมถึงกลายเป็นแบบนี้ ” เขาพึมพำออกมาด้วยแววตาว่างเปล่า
ครืนนน!
ทุกครั้งที่มารตะขาบได้กลืนกินมนุษย์เข้าไป ร่างของทรงยุทธก็ฟื้นฟูขึ้นอย่างรวดเร็ว จนกระทั่งเมื่อมันกินเสร็จและหดตัวกลับไปอยู่ที่เดิม
เขาก็กลับมาอยู่ในสภาพที่สมบูรณ์ที่สุด…
ร่างของชายวัยกลางคนที่ดูท้วมเล็กน้อย โครงหน้ารูปสี่เหลี่ยมและแววตาที่ดูจริงจัง นี่เป็นสิ่งที่จางว่านฉีคุ้นเคยเมื่อสามปีก่อน
เหมือนกับว่าสภาพที่เห็นในตอนแรก เป็นเพราะขาดสารอาหารจนหิวโซเท่านั้น
“ ให้ผมจัดการพวกที่เหลือเลยดีไหมครับ…แต่หากฆ่าพวกเขาทิ้งหมด แผนการของเราอาจจะล่าช้าได้ ” ทรงนัสถามขึ้นอย่างนอบน้อม
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จุติใหม่มหาเทพตี้เทียน