จุติใหม่มหาเทพตี้เทียน นิยาย บท 127

ก่อนที่จางว่านฉีจะเดินทางมาที่สามเหลี่ยมทองคำ เขาได้ตรวจสอบข้อมูลของทรงยุทธเรียบร้อยแล้ว

เมื่อสามปีก่อนอีกฝ่ายได้เข้าไปพัวพันกับคดีทุจริตคอรัปชั่น เรือดำน้ำและอาวุธสงครามกับผู้มีอำนาจระดับสูงในประเทศจีน จนเกินเป็นข่าวใหญ่สั่นสะเทือนทวีปเอเชีย

หลังจากรัฐบาลชุดเก่าของประเทศจีนถูกปลด และคนที่เกี่ยวข้องทั้งหมดถูกสั่งประหาร ทำให้ทรงยุทธโดนผลกระทบไปด้วย เขาสูญเสียอำนาจทั้งหมดและถูกออกหมายจับ จนต้องหนีมากบดานอยู่ที่สามเหลี่ยมทองคำ

และผู้ที่เป็นต้นเหตุของเรื่องทั้งหมด ก็คือผู้นำคนปัจจุบันของประเทศจีนในเวลานี้ สามารถคาดเดาได้เลยว่า กองกำลังติดอาวุธขนาดใหญ่ที่จะลักลอบเข้าไปในประเทศจีนมีวัตถุประสงค์อะไร

“ เรื่องนี้…ขอเวลาฉันคิดหน่อยได้ไหม ” จางว่านฉีพูดขึ้นด้วยความกังวล ด้วยเส้นสายของตระกูลจางในตอนนี้ การจะลักลอบนำกองกำลังเข้าประเทศไม่ใช่ปัญหา แต่ถ้าหากถูกจับได้ขึ้นมาจุดจบของมันจะเลวร้ายยิ่งกว่าถูกจ้าวเทียนจัดการซะอีก

“ ฉันเกรงว่าคุณจางจะไม่มีเวลาให้คิดแล้วนะ…จากที่ฉันได้ยินมา ตระกูลของพวกคุณอยู่ในสถานการณ์ที่กำลังจะถูกทำลายอยู่แล้ว การร่วมมือกับพวกเรามันจะช่วยเหลือพวกคุณได้แน่นอน ”

“ กองกำลังของพวกเราจะกำจัดศัตรูทั้งหมดของพวกคุณให้แบบฟรีๆ…จากนั้นก็จะมอบผลประโยชน์ทั้งหมดในเมืองเทียนจินให้กับตระกูลจาง ”

“ ตระกูลของคุณจะกลับมาทรงอำนาจอีกครั้ง…พวกคุณจะยิ่งใหญ่มากกว่าในอดีตหลายเท่า เพียงแค่ยอมเสี่ยงกับเรื่องเล็กน้อยนี่เท่านั้น ”

“คุณแค่อำนวยความสะดวกเรื่องสถานที่ให้พวกเราก็พอ…ส่วนเรื่องหลังจากนั้นก็ไม่เกี่ยวกับคุณแล้ว ” ทรงนัสพูดอธิบายอย่างช้าๆ ดวงตาของเขาเปล่งแสงสีเขียวจางออกมา ทำให้สีหน้าของพวกจางว่านฉีตกอยู่ในภวังค์

“ ได้…ผมยอมร่วมมือ ” จางว่านฉีพูดด้วยแววตาเหม่อลอย

กึก!

หัวหน้าบอดี้การ์ดที่นั่งอยู่ด้านหลังสะท้านขึ้นสุดตัว

เขารีบหยิกไปที่ต้นขาตัวเองอย่างแรง จนสติกลับคืนมาครู่หนึ่ง แล้วรีบมาเขย่าตัวของจางว่านฉี เพื่อปลุกให้ฟื้นสติ

“ ท่านผู้นำ…ตั้งสติไว้นะครับ คุณกำลังโดนล้างสมองอยู่ ”

เฮือก!

“ นี่ฉัน…เกิดอะไรขึ้น ” จางว่านฉีพึมพำออกมาด้วยความสับสน เมื่อกี้เขาพูดอะไรออกไป

“ เมื่อกี้…พวกเขาใช้มนต์สะกดใส่คุณ ” หัวหน้าบอดี้การ์ดพูดขึ้นด้วยท่าทีร้อนรน

แม้ว่าตัวเขาจะไม่ได้ฝึกฝนขั้นสูงเหมือนคนอื่น แต่เพราะผ่านการต่อสู้เสี่ยงชีวิตมาหลายสิบครั้ง จิตใจของเขาจึงแข็งแกร่งกว่าคนอื่น

ตั้งแต่ที่ตระกูลได้รับเอาเด็กกำพร้าอย่างเขามาดูแลตั้งแต่เกิด ตัวเขาเองจึงจงรักภักดีต่อตระกูลจางเป็นอย่างมาก

‘ โทษทัณฑ์ของการทรยศประเทศชาติ มีเพียงความตายเท่านั้น…ฉันไม่มีทางให้พวกมันทำสำเร็จแน่ ’

“ พวกเราปกป้องท่านผู้นำ! ” หัวหน้าบอดี้การ์ดออกคำสั่งเสียงดัง

ควับ!

พวกบอดี้การ์ดทุกคนชักปืนออกมาเล็งใส่ทรงนัสทันที นี่คืออาวุธชนิดพิเศษที่เอาไว้ต่อสู้กับพวกผู้ฝึกตนโดยเฉพาะ

“ พวกแก…เก็บอาวุธเดี๋ยวนี้ ” จางว่านฉีที่รู้สึกตัวแล้ว ก็รีบพูดขึ้นอย่างรวดเร็ว ฝ่ายตรงข้ามน่ากลัวเกินไป จะให้เกิดการต่อสู้ไม่ได้เด็ดขาด

“ หืม…ลูกน้องของคุณจาง ช่างจงรักภักดีซะจริงๆเลยนะ แต่กล้าชี้อาวุธมาทางฉันแบบนี้ มันเหมือนไม่ให้เกียรติกันเลยนี่ ” ทรงนัสพูดเสียงเฉยชา ประกายแสงสีเขียวในดวงตาเขาเข้มขึ้นเรื่อยๆ

“ ผมต้องขออภัยด้วยจริงๆ…สำหรับการกระทำของพวกเขาผมจะชดใช้เงินให้ 10ล้านก็แล้วกัน แต่เรื่องที่คุณเสนอมา ผมขอกลับไปปรึกษากับทางตระกูลก่อนได้ไหม ” จางว่านฉีพูดขึ้นอย่างสุภาพ

‘ เงื่อนไขของอีกฝ่าย ยอมทำตามไม่ได้เด็ดขาด…ฉันต้องรีบหาข้ออ้างออกไปจากสถานที่นี้ให้เร็วที่สุด ’

เครี้ยกๆ

เสียงหัวเราะที่ดูชั่วร้ายดังขึ้น ดึงดูดความสนใจของทุกคนทันที

“ ไม่จำเป็น…ต้องกลับไปปรึกษาใครหรอก ” ทรงยุทธพูดเสียงเย็นชา

เขาอ้าปากกว้างขึ้นอย่างช้าๆ

ซวบ!

เงาสีดำพุ่งออกมาจากปากเขาเหมือนสายฟ้าแลบ แล้วหนีบหัวของบอดี้การ์ดคนหนึ่งเอาไว้

โพละ!

เสียงที่เหมือนกับแตงโมระเบิดดังขึ้น หัวของบอดีการ์ดคนนั้นระเบิดออกมา โดยที่ยังไม่ทันแม้แต่จะเปล่งเสียงร้อง

ตอนนี้ทุกคนที่อยู่รอบๆค่อยๆเห็นได้ชัด สิ่งที่พุ่งออกมาจากปากของทรงยุทธ คือหัวของตะขาบสีดำขนาดใหญ่ ยาวเกือบสี่เมตร

กร๊วบๆ

มันกลืนกินสมองและเลือดเนื้อเข้าไปอย่างหิวกระหาย

“ อ้ากก…ปีศาจ ” “ ยิงเลย…ฆ่ามันเดี๋ยวนี้ ”

ปัง!ๆๆๆๆๆ

พวกบอดี้การ์ดที่เหลือสาดกระสุนใส่ทรงยุทธอย่างบ้าคลั่ง พวกเขาต้องการแก้แค้นให้สหายที่ถูกกินไป

วูป!

เห็นเพียงรอยสักที่อยู่บนร่างของทรงยุทธเปล่งแสงออกมา กระสุนปืนพวกนั้นก็สะท้อนกลับไปใส่เจ้าของ

เพียงเสี้ยววินาที…เรื่องทุกอย่างก็จบลง

กร๊วบๆๆๆ

จางว่านฉี นั่งมองลูกน้องของตัวเองถูกกินไปทีละคนด้วยใบหน้าสิ้นหวัง

“ เรื่องแบบนี้…ทำไมถึงกลายเป็นแบบนี้ ” เขาพึมพำออกมาด้วยแววตาว่างเปล่า

ครืนนน!

ทุกครั้งที่มารตะขาบได้กลืนกินมนุษย์เข้าไป ร่างของทรงยุทธก็ฟื้นฟูขึ้นอย่างรวดเร็ว จนกระทั่งเมื่อมันกินเสร็จและหดตัวกลับไปอยู่ที่เดิม

เขาก็กลับมาอยู่ในสภาพที่สมบูรณ์ที่สุด…

ร่างของชายวัยกลางคนที่ดูท้วมเล็กน้อย โครงหน้ารูปสี่เหลี่ยมและแววตาที่ดูจริงจัง นี่เป็นสิ่งที่จางว่านฉีคุ้นเคยเมื่อสามปีก่อน

เหมือนกับว่าสภาพที่เห็นในตอนแรก เป็นเพราะขาดสารอาหารจนหิวโซเท่านั้น

“ ให้ผมจัดการพวกที่เหลือเลยดีไหมครับ…แต่หากฆ่าพวกเขาทิ้งหมด แผนการของเราอาจจะล่าช้าได้ ” ทรงนัสถามขึ้นอย่างนอบน้อม

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จุติใหม่มหาเทพตี้เทียน