จุติใหม่มหาเทพตี้เทียน นิยาย บท 126

ณ บริษัทจ้าวหนิงจิวเวลรี่

เย็นวันนี้ได้มีแขกคนสำคัญเข้าพบท่านประธาน ทำให้พวกพนักงานที่กำลังทำโอทีอยู่ต้องกลับก่อนเวลา แม้แต่ตรงหน้าห้องประชุมขนาดใหญ่ ยังมีชายผู้คุ้มกันชาวต่างชาติเกือบ 20 คนยืนเฝ้าอยู่อย่างระมัดระวัง

ตอนนี้ที่ยังนั่งอยู่ในห้องประชุมมีเพียงสี่คนเท่านั้น คือจ้าวเทียน ลี่เหยาเหยา หวังซินหยาง และคนสุดท้ายคือตัวแทนจากศาสนจักรแห่งแสง ออโรร่า

“ ไม่นึกเลยว่าจะมีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้น…ทางฉันเองก็ไม่รู้มาก่อนจึงตอบรับสัญญากับบริษัทของตระกูลจางไป ” ออโรร่าพูดขึ้นด้วยสีหน้าลำบากใจ

เธอมาถึงที่เมืองเทียนจินตั้งแต่เมื่อ 1 ชั่วโมงก่อน จากนั้นก็เดินทางมาพบพวกจ้าวเทียนที่บริษัททันที ซึ่งจ้าวเทียนเองก็ให้การต้อนรับเป็นอย่างดี และยังเล่าเรื่องสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในปัจจุบันให้ฟัง

“ ไม่เป็นไรหรอก…ฉันคิดว่าบางทีพวกเราอาจจะสามารถใช้ประโยชน์ได้มากกว่า ใช่ไหมซินหยาง ” จ้าวเทียนพูดขึ้นด้วยรอยยิ้ม

“ ใช่แล้วครับ…ถ้าได้ความช่วยเหลือจากคุณออโรร่า พวกเราจะสามารถเล่นงานอีกฝ่ายได้เต็มที่ ผมคาดว่าจำนวนเงินที่อีกฝ่ายใช้ไปกับการเชิญคุณออโรร่ามาคงไม่ใช่น้อยๆเลยทีเดียว ”

สิ่งที่หวังซินหยางพูดออกมาทำให้ออโรร่านึกแปลกใจเล็กน้อยในตอนแรก ก่อนที่แววตาของเธอจะเปลี่ยนไปเหมือนคิดอะไรได้ แล้วหัวเราะออกมาเบาๆ

“ คิก คิก ฉันเริ่มรู้สึกสงสารพวกเขาซะแล้วสิ…ที่เลือกเป็นศัตรูกับพวกคุณ ”

“ พวกมันสมควรโดนแล้วล่ะ…จริงสิ ที่เธอเข้ามาประเทศจีนตอนนี้คงเป็นเพราะเรื่องสร้างสำนักงานสาขาใหม่ใช่ไหม ” จ้าวเทียนตัดสินใจถามออกมา ในเมื่อได้มาพบกันแล้ว งั้นก็พูดคุยให้ชัดเจนไปเลยก็แล้วกัน

“ ใช่แล้วล่ะ…ทางคุณมีปัญหาอะไรเกิดขึ้นรึเปล่า ” ท่าทางของจ้าวเทียนทำให้ออโรร่าเกิดสงสัยขึ้นมา

“ ก่อนอื่น…ฉันอยากรู้ว่าทางศาสนจักรแห่งแสง มีมาตรการยังไงกับพวกปีศาจที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับโลกแห่งมารที่อยู่ในประเทศจีนตอนนี้ ” จ้าวเทียนถามกลับไปอย่างจริงจัง

“ เรื่องนี้…หากเป็นตามกฎเดิมในอดีต ผู้ที่ฝักใฝ่ด้านมืดหรือมีการกระทำชั่วร้ายต้องถูกกำจัด ซึ่งปีศาจทุกตัวถูกจัดอยู่ในผู้ที่ฝักใฝ่ด้านมืดอยู่แล้ว”

“ แต่ในยุคปัจจุบัน…พวกเราไม่เข้มงวดขนาดนั้นอีกต่อไปแล้ว ถ้าปีศาจพวกนี้สามารถพิสูจน์ได้ว่าตนเองไม่ได้มีการกระทำที่ชั่วร้าย หรือเป็นสาวกของโลกแห่งมาร ”

“ ทางศาสนจักรแห่งแสงของเรา จะนำตัวไปขังไว้ในสถานที่กักกันเท่านั้น ถ้าพวกเขามีความประพฤติที่ดี ประมาณ 5-10 ปี เราจะปล่อยตัวออกมาเอง ” ออโรร่าอธิบายให้ฟังอย่างละเอียด

เธอเข้าใจดีว่าในประเทศจีน มีปีศาจอาศัยอยู่ร่วมกับคนธรรมดามากมาย ซึ่งบางส่วนยังคอยช่วยเหลือมนุษย์อีกด้วย

“ ฉันคิดว่า…วิธีของเธอมันสุดโต่งไปหน่อยนะ ” จ้าวเทียนถอนหายใจออกมา จากนั้นเขาก็เล่าเรื่องกฎหมายควบคุมและการลงทะเบียนปีศาจในประเทศจีนให้ออโรร่าฟัง

โชคดีที่เขาคิดวิธีแก้ปัญหาเอาไว้แล้ว ไม่อย่างนั้นคงได้เกิดสงครามกลางเมืองขึ้นแน่ๆ เพราะไม่มีปีศาจดีๆตนไหนอยากจะโดนจับขังเป็นเวลาเกือบ 10 ปี

อีกทั้งวิธีของจ้าวเทียนยังสามารถใช้พวกปีศาจให้คอยจับตาดูพวกเดียวกันเอง ถ้ามีเบาะแสของโลกแห่งมาร จ้าวเทียนก็จะได้รับรายงานอย่างรวดเร็ว ทำให้การปฏิบัติงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น

หลังจากใช้เวลาตกลงกันเกือบหนึ่งชั่วโมง ปัญหาหลายอย่างก็ได้รับการแก้ไขในที่สุด ถือเป็นโชคดีที่ออโรร่าได้รับมอบอำนาจการตัดสินใจทั้งหมดในประเทศจีน

เธอเลยสามารถตัดสินใจเองได้เลย…

ไม่อย่างนั้นถ้าเอาเรื่องนี้เข้าที่ประชุม ก็คงต้องโดนเสียงคัดค้านจากพวกหัวโบราณแน่นอน เพราะความเชื่อที่ว่าปีศาจคือความชั่วร้าย มันฝังอยู่ในสมองของพวกคนเก่าแก่ในศาสนจักรแล้ว

“ ฉันขอเวลาประมาณครึ่งเดือน…ระบบงานที่วางเอาไว้น่าจะใช้การได้ หลังจากนี้เป็นต้นไปหน่วยงานที่ฉันตั้งขึ้นจะเป็นคนประสานงานกับพวกเธอเอง ” จ้าวเทียนพูดขึ้นด้วยความมั่นใจ

“ ตกลงตามนี้…หลังจากนี้ก็ฝากตัวด้วยนะ ท่านผู้บัญชาการจ้าว” ออโรร่าพูดล้อเลียนจ้าวเทียนแบบขำๆ

ตอนนี้ถือว่าภารกิจของเธอที่ประเทศจีนเสร็จสิ้นไปครึ่งหนึ่งแล้ว หลังจากนี้ก็เหลือแค่เรื่องจัดตั้งฐานบัญชาการ กับกำหนดอาณาเขตความรับผิดชอบเท่านั้น

“ จริงสิ…ตอนนี้อาจารย์ของเธอติดภารกิจอะไรอยู่หรือเปล่า พอดีว่ามีคนจากสำนักของฉันต้องการพบเธอ ”

สิ่งที่จ้าวเทียนบอกทำให้แววตาของออโรร่าเปลี่ยนไปทันที

จากนั้นเธอมองไปที่ลี่เหยาเหยากับหวังซินหยาง เหมือนกับระวังอะไรบางอย่าง แล้วถามขึ้นด้วยท่าทางไม่แน่ใจนัก

“ สำนักของคุณ…หรือว่าจะเป็น ”

“ สำนักดาราสวรรค์ ” จ้าวเทียนพูดเสียงดังชัดเจน

“ เธอไม่ต้องกังวล…คนที่อยู่ในห้องตอนนี้ไว้ใจได้” จ้าวเทียนพูดสีหน้าจริงจัง เขาได้กางเขตอาคมปิดกั้นห้องนี้เอาไว้แล้ว จะไม่มีใครจากด้านนอกสามารถสอดแนมได้

หลังจากออโรร่าของตัวไปติดต่อกับโซเฟียประมาณสิบห้านาที เธอก็ให้คำตอบกลับมาว่าโซเฟียจะเดินทางมาถึงในวันพรุ่งนี้

ทำให้จ้าวเทียนเองก็รู้สึกโล่งใจไปส่วนหนึ่ง ที่อีกฝ่ายไม่ได้มีท่าทีต่อต้านอย่างที่คิด ตอนแรกเขาคิดว่าโซเฟียอาจจะหาทางถ่วงเวลาบ้าง แต่สุดท้ายอีกฝ่ายกลับนัดเวลาเป็นพรุ่งนี้ซะอย่างนั้น