จุติใหม่มหาเทพตี้เทียน นิยาย บท 136

คำพูดของอ๋าวเฟิงทำให้อ๋าวเถียนแค่นเสียงในลำคอ แล้วส่งสายตาดุดันกลับไป

ถ้าไม่ใช่เพราะหลงกลอีกฝ่ายจนสูญเสียเลือดแก่นแท้ไปมากมาย มังกรผู้สูงส่งอย่างเขานะเหรอ จะใช้วิธีน่าขายหน้าแบบนี้

“ คารวะ ผู้อาวุโสอ๋าวเฟิง ” จ้าวเทียนกล่าวทักทายอย่างมีมารยาท

อย่างไรตอนนี้อ๋าวเฟิงก็กลายเป็นสหายกับท่านอาจารย์แล้ว อีกทั้งยังเป็นผู้อาวุโสที่อยู่มาตั้งไม่รู้กี่ล้านปี เขาย่อมต้องให้ความเคารพ

“ ฉันกำลังคิดว่าอีกสองสามวัน…จะไปหาเธอซักหน่อย ไม่คิดเลยว่าจะเจอเธอที่นี่เสียก่อน ” อ๋าวเฟิงบอกจ้าวเทียนด้วยรอยยิ้ม

“ ผู้อาวุโสมีธุระอะไรกับผมเหรอครับ”

“ ฉันมีของบางอย่างที่ต้องมอบให้เธอ…แต่ตอนนี้มันยังไม่เสร็จเรียบร้อย เดี๋ยวอีกสามวันเธอก็รู้เอง ” อ๋าวเฟิงพูดจบ เขาก็เดินเข้าไปหาอ๋าวเถียนด้วยท่าทีเอาเรื่อง

“ ฉันไม่คิดเลยนะ…ว่าคนนิสัยอย่างแกจะกล้าใช้วิธีนี้ ”

“ นั่นไม่ใช่เพราะแกกับยัยผู้หญิงคนนั้นเหรอไง…ที่บีบให้ฉันต้องทำแบบนี้ ” อ๋าวเถียนตอบกลับด้วยเสียงเย็นชา

“ เหอะ…ฉันก็ให้โอกาสแกกลับตัวแล้ว แต่แกเลือกหนทางแห่งหายนะเองจะโทษใครล่ะ แต่ก็ช่างเถอะ ฉันรับปากจะคุ้มครองแกอีก 5 ปีเอง ปลดพันธนาการสายโลหิตลูกน้องของจ้าวเทียนซะ ” อ๋าวเฟิงยื่นข้อเสนอให้อย่างใจกว้าง

“ แกคิดว่าหลังจากเหตุการณ์นั้น…ฉันยังจะกล้าเชื่อใจแกอีกเหรอ ตอนนี้ฉันได้เลือกเด็กหนุ่มคนนี้เป็นผู้สืบสายโลหิตแท้จริงแล้ว ชีวิตของเขาจะเชื่อมต่อกับฉัน ”

“ หากเกิดอะไรขึ้นกับฉัน ชีวิตของไอ้หนุ่มนี่ก็ไม่รอดเหมือนกัน แค่เพียงความคิดเดียวของฉัน ก็สามารถสั่งให้เลือดมังกรในร่างกายของเขา เผาผลาญตัวเองจนหมด ”

พอฟังมาถึงตอนนี้ จ้าวเทียนเองก็พอจะเข้าใจแล้ว ยิ่งรวมกับท่าทีของร่างแยกมังกรสี่คนที่ออกไปก่อน ทำให้รู้เลยว่าอีกฝ่ายกำลังใช้ประโยชน์จากสถานะผู้ถูกเลือกของเขาอยู่

‘ ที่แท้…การปรากฎตัวของอ๋าวเถียนตั้งแต่แรก ก็เพื่อหลอกล่อให้ฉันเข้ามาในมิติปิดกั้น แล้วก็มอบพลังผู้สืบทอดให้เฉินจิ้ง พร้อมทั้งสาธิตกระบวนท่าอันแข็งแกร่งให้ดู เพื่อไม่ให้ฉันปฏิเสธและเกิดความรู้สึกว่าเป็นหนี้บุญคุณ ’

‘ เชื่อได้เลยว่า…ตอนนี้พวกร่างแยกมังกรคนอื่นๆคงมองว่า ฉันกับอ๋าวเถียนกลายเป็นพวกเดียวกันไปแล้ว และในเมื่อฉันเป็นผู้ถูกเลือกของอ๋าวเฟิง หลังจากนี้หากใครคิดจะหาเรื่องกับอ๋าวเถียนก็ต้องถามอ๋าวเฟิงก่อน ’

เมื่อเห็นสีหน้าของจ้าวเทียนดูไม่ค่อยดีนัก อ๋าวเถียนก็รู้สึกกังวลขึ้นมา เขากลัวว่าจ้าวเทียนจะไม่สนใจพวกพ้องแล้วร่วมมือกับอ๋าวเฟิงจัดการเขา

“ เด็กน้อย…ฉันรู้ว่าแกไม่พอใจที่ถูกใช้เป็นเครื่องมือ แต่แกอย่าลืมว่าคนที่ได้ผลประโยชน์ที่สุดก็คือพวกแกนะ ที่ได้สายเลือดที่แข็งแกร่งกับร่างครึ่งมังกรในตำนานไป ”

“ ทั้งสองอย่างที่ฉันมอบให้ในวันนี้…คิดว่ามันเป็นของที่จะได้มาง่ายๆงั้นเหรอ ต่อให้แกใช้เวลาไปอีกกี่ล้านปี ก็ไม่แน่ว่าจะพบบรรพชนมังกรตัวอื่นที่ยังไม่เลือกผู้สืบทอด แต่ต่อให้เจอมังกรตัวนั้นก็ไม่มีทางเลือกลูกน้องของแกแน่นอน ”

เสียงของอ๋าวเถียนมีเจตนาโอ้อวดเล็กน้อย ทำให้จ้าวเทียนไม่ค่อยอยากจะเชื่อนัก เขาจึงหันไปหาอ๋าวเฟิง ซึ่งอีกฝ่ายก็พูดรับรองออกมา

“ ที่อ๋าวเถียนพูดเป็นความจริง…แม้แต่ในบรรดาพวกฉันเอง ตลอดหลายล้านปีที่ผ่านมา ก็ยังไม่มีใครเลือกผู้สืบทอดเลย ”

“ ด้วยอายุขัยที่ยาวนานของพวกเรา เลยไม่รีบร้อน รอจนกว่าจะพบกับมังกรที่มีคุณสมบัติสูงส่งจริงๆ ถึงจะมอบการยอมรับจากบรรพชนให้ ”

“ ในเมื่อเป็นแบบนั้น…ฉันก็ไม่ติดใจเรื่องที่ถูกใช้เป็นเครื่องมือ แต่เรื่องของเฉินจิ้งต้องตกลงกันให้ชัดเจน ว่าคุณจะไม่เข้ามาควบคุมเขาอีก แล้วเมื่อครบ 5 ปี คุณต้องปล่อยเขาเป็นอิสระ ” จ้าวเทียนพูดด้วยใบหน้าจริงจัง

“ ฉันรับปาก…ไม่ต้องเป็นห่วง อีก 5 ปีให้หลัง ฉันก็จะออกจากจักรวาลแห่งนี้แล้ว ลูกน้องของแกได้อิสระแน่นอน ” อ๋าวเถียนรับปากอย่างหนักแน่น แต่ในใจลอบคิดแผนการเอาไว้แล้ว

‘ ฉันปลดปล่อยมันแน่…แต่คงต้องให้มันทำงานชิ้นหนึ่งก่อน ของทุกอย่างย่อมมีราคา แกคิดว่าอยู่ดีๆจะมีสมบัติล้ำค่าตกใส่หัวง่ายๆงั้นเหรอ ’

“ ไม่เป็นไรหรอกจ้าวเทียน…เดี๋ยวฉันจับตาดูอ๋าวเถียนเอง เขาไม่กล้าเล่นตุกติกหรอก จะว่าไปเรื่องนี้ต้นเหตุก็มาจากฉันเหมือนกัน ” อ๋าวเฟิงพูดขึ้นสีหน้าจริงจัง

ที่จริงแล้วสภาพอ่อนแอของอ๋าวเถียนในตอนนี้ คือสิ่งที่เขาต้องการให้เป็น อีกฝ่ายจะได้เลิกก่อปัญหาเสียที เพราะสมัยก่อนชอบไปหาเรื่องร่างแยกคนอื่นไว้เยอะ

ตอนนี้คงทำตัวสงบเสงี่ยมเพราะกลัวโดนแก้แค้นแน่นอน…

ครืนนน!

หมอกสีดำลอยออกมาจากร่างของเฉินจิ้ง ทำให้เขาคืนสภาพเดิมในพริบตา ตอนนี้ลักษณะของเฉินจิ้งเหมือนคนปกติทุกอย่าง จ้าวเทียนคิดว่าเฉินจิ้งคงเป็นแบบโม่ซินหยานที่ควบคุมการแปลงร่างได้

“ ฉันปรับปรุงสายเลือดให้เขาแล้ว…ทำให้เปลี่ยนกลับเป็นร่างมนุษย์ได้ และเพราะพลังมืดที่ฉันดึงมาจากจักรวาล ทำให้ตอนนี้พลังในร่างของเขาเพิ่มขึ้นเป็นขอบเขตเซียนระดับสูงเรียบร้อย ”

“ แต่ถ้าแก…คืนเลือดแก่นแท้ให้ฉันซักห้าขวด ฉันสามารถเพิ่มพลังให้เขาเป็นครึ่งก้าวเซียนนภาได้นะ สนใจไหม ” อ๋าวเถียนถามด้วยรอยยิ้มจริงใจ

“ เอ่อ…ไม่เป็นไร เท่านี้ก็พอแล้ว ” จ้าวเทียนตอบเสียงอ่อน

“ สี่ขวดก็ได้…ฉันจะมอบเกล็ดมังกรจากร่างแท้จริงให้แกเลยสิบชิ้น มันหลุดออกมาตอนฉันลอกคราบเมื่อล้านปีก่อน แม้จะเป็นเกล็ดที่เสื่อมสภาพ แต่แกสามารถนำมันไปสร้างชุดเกราะระดับศักดิ์สิทธิ์ได้เลยนะ ”

“ ฉัน…มีเพียงขวดเดียว ” จ้าวเทียนเริ่มถูกล่อลวงทีละน้อย เกล็ดสิบชิ้นนั่นสร้างชุดเกราะได้ถึง2ชุดเลย มันมีมูลค่าสูงมากแม้บนแดนสวรรค์ก็ตาม

“ พอแล้ว!...เลือดของแกอยู่ที่อาจารย์ของจ้าวเทียนนู้น แกมาขอจากเขามันจะมีประโยชน์อะไร ” อ๋าวเฟิงพูดขึ้นด้วยความรำคาญ

เขารู้ดีว่าถ้าอีกฝ่ายได้เลือดคืนไป 4-5 ขวด อย่างน้อยก็จะฟื้นพลังคืนมาครึ่งหนึ่ง ทำให้ไม่ต้องอยู่อันดับสุดท้ายในร่างแยกทั้งเก้าอีกต่อไป

“ อาจารย์ของจ้าวเทียน…หรือว่าแกหมายถึงผู้หญิงคนนั้น บัดซบ! ฉันก็นึกว่าแกได้เลือดมังกรส่วนใหญ่ไป แล้วแบ่งให้จ้าวเทียนซะอีก ”

เมื่อนึกไปถึงตอนมี่โดนหลินซินเยว่ รีดเลือดแก่นแท้ออกมาจากตัวอย่างโหดร้าย ใบหน้าของอ๋าวเถียนก็ซีดขาวด้วยความหวาดกลัว

‘ ยัยผู้หญิงคนนั้น…ทุกครั้งที่ใช้มีดสั้นกรีดเส้นเลือดฉัน ปากก็พูดไปด้วยว่าเลือดของฉันเอาไปใช้ประโยชน์อะไรบ้าง มีสรรพคุณยังไง อธิบายซะจนฉันรู้สึกว่าตัวเองกลายเป็นสมุนไพรต้นหนึ่ง ’

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จุติใหม่มหาเทพตี้เทียน