จุติใหม่มหาเทพตี้เทียน นิยาย บท 146

ในระบบสุริยะของเรานั้น ประกอบไปด้วยดวงอาทิตย์หนึ่งดวง และดาวเคราะห์แปดดวง ซึ่งโลกของพวกเราเป็นดาวดวงเดียวในระบบสุริยะ ที่ถูกค้นพบว่ามีสิ่งมีชีวิตทรงสติปัญญาอย่างมนุษย์อาศัยอยู่

เหตุผลที่เป็นแบบนั้น ก็เพราะว่าโลกมีแกนแม่เหล็กเหลวที่ยังไม่แข็งตัว ทำให้มันมีแรงเหวี่ยงอยู่ภายในสูงมาก จนเกิดเป็นสนามแม่เหล็กล้อมโลก

จากนั้นชั้นบรรยากาศก็ส่งออกซิเจนและไนโตรเจนขึ้นไป กลายเป็นชั้นโอโซนห่อหุ้มเป็นฉนวนโลก คอยป้องกันรังสีที่เป็นอันตรายต่างๆจากภายนอก

สุดท้ายแล้วสิ่งมีชีวิตต่างๆจึงถือกำเนิดขึ้นมา และสามารถอาศัยอยู่บนโลกได้ ซึ่งมันมีโอกาสน้อยมาก ที่ดาวเคราะห์ดวงอื่นจะเป็นเหมือนกับโลกของเรา

แต่ภายในจักรวาลอันกว้างใหญ่นั้น ประกอบไปด้วยกาแล็กซี่นับล้าน แม้แต่ในกาแล็กซีทางช้างเผือกที่พวกเราอยู่ ก็ยังมีดวงอาทิตย์จำนวนนับไม่ถ้วน ที่มีระบบสุริยะเป็นของตัวเอง

ดังนั้นย่อมมีความเป็นไปได้ ที่มนุษย์โลกจะไม่ใช่สิ่งมีชีวิตทรงสติปัญญาเพียงหนึ่งเดียวในจักรวาลอันกว้างใหญ่

ในยุคปัจจุบันรัฐบาลแต่ละประเทศ ก็ได้จัดตั้งหน่วยงานเพื่อตรวจสอบเกี่ยวกับเรื่องสิ่งมีชีวิตจากต่างดาวโดยเฉพาะ องค์กรที่มีชื่อเสียงที่สุดอยู่ในสหรัฐอเมริกา หรือที่ทุกคนรู้จักกันในนาม แอเรีย51

ยานบินล่องหนที่พวกองค์กรชีลด์นำมาใช้ ได้ถูก NASA ค้นพบเมื่อ 10 ปีก่อน แล้วถูกเก็บกู้โดยแอเรีย51 หลังจากใช้เวลานานเกือบ 10 ปี จึงสามารถซ่อมแซมจนกลับมาใช้งานได้อีกครั้ง

หากถามถึงจำนวนเงินที่สูญเสียไปกับเรื่องนี้ มันแทบจะเท่ากับงบประมาณทั้งปีของประเทศขนาดเล็กได้เลย ดังนั้นมันจึงถูกเก็บไว้เป็นความลับ และถือเป็นสมบัติของประเทศ

ในภารกิจครั้งนี้ เพราะเป้าหมายเป็นถึงผู้มีพลังพิเศษระดับสูงของประเทศจีน ทั้งยังมีความสามารถในการตรวจสอบอาณาเขตรอบตัวได้ ทำให้การซุ่มโจมตีลอบสังหารเป็นไปได้ยากมาก

ดังนั้นผู้บัญชาการซีลด์อย่างริคจอห์นสัน จึงใช้อำนาจของตนยื่นเรื่องขออนุญาตกับทางประธานาธิบดีเป็นกรณีพิเศษ

โดยที่เขาไม่รู้เลยว่า…นั่นคือการตัดสินใจที่ผิดพลาดที่สุดในชีวิตของเขา

ภายในห้องโดยสารของยานบินล่องหน

บนพื้นที่ขนาดสามสิบตารางเมตร จ้าวเทียนกับโม่ซินหยานกำลังยืนฟังข้อมูลต่างๆเกี่ยวกับยานบินลำนี้ด้วยท่าทีสนใจ

ส่วนผู้ที่เป็นคนเปิดเผยข้อมูลทุกอย่างนั้นก็คือเจ้าหน้าที่ระดับสูงของซีลด์ ที่เป็นผู้รับผิดชอบภารกิจครั้งนี้ร่วมกับฮอว์กอาย

เมื่ออยู่ต่อหน้าจ้าวเทียน ที่สามารถตรวจสอบจิตวิญญาณได้ กับโม่ซินหยานที่สามารถใช้พิษหลอนประสาท มันก็เป็นเรื่องง่ายนิดเดียวที่จะรีดข้อมูลมาจากอีกฝ่าย

“ ไม่นึกเลย…ว่าเหตุการณ์ในวันนี้จะมีองค์กรชีลด์ เป็นผู้ชักใยอยู่เบื้องหลัง ” จ้าวเทียนถอนหายใจเบาๆ

สายตาของเขามองไปยังพวกฮอว์กอาย ที่นอนหลับตาอยู่บนพื้นด้วยใบหน้าซีดขาว นอกจากคนที่มีหน้าที่ขับยานบินแล้ว คนที่เหลือก็ถูกจัดการให้หมดสติทั้งหมด

คนพวกนี้ถูกพิษของโม่ซินหยานเข้าไป กว่าจะฟื้นก็คงอีกสองสามวัน ทีแรกคนพวกนี้ไม่ยอมเปิดประตูให้จ้าวเทียนเข้ามาด้านใน

แต่เมื่อเจอกับเปลวเพลิงสีทองของจ้าวเทียน ที่สามารถเผาทำลายยานลำนี้ได้อย่างง่ายดาย สุดท้ายพวกเขาจึงเลือกยอมแพ้

ซึ่งจ้าวเทียนก็รับปากว่าจะไม่สังหารคนที่อยู่ด้านใน เขาเพียงแค่ให้อีกฝ่ายเจ็บตัวซักเล็กน้อยเพื่อรีดข้อมูลเท่านั้น

“ เราจะกลับไปที่งานแสดงเครื่องประดับ…หรือไปช่วยไป๋ซู่เจินดีล่ะ ” โม่ซินหยานถามขึ้นอย่างเป็นกังวล

ที่จริงเธออยากไปช่วยลูกสาวที่อยู่ในงานจัดแสดงมากกว่า แต่ทางฝั่งของไป๋ซู่เจินก็น่าเป็นห่วงเช่นกัน

!!

ทันใดนั้น จ้าวเทียนที่ยืนนิ่งมาครู่หนึ่ง ก็มีสีหน้าแปลกไปเล็กน้อย จากนั้นเขาก็พูดขึ้นด้วยรอยยิ้ม

“ ไม่ต้องเป็นห่วงไป๋ซู่เจินแล้วล่ะ…เธอเอาชนะคู่ต่อสู้ได้แล้ว ตอนนี้กำลังบินไปที่ฐานบัญชาการเมืองปักกิ่ง ”

จากนั้น จ้าวเทียนก็เล่าสิ่งที่สัมผัสวิญญาณของเขาตรวจพบให้โม่ซินหยานฟัง ซึ่งเธอก็มีท่าทางตกใจมาก

เมื่อรู้ว่าไป๋ซู่เจินคืนร่างเป็นงูยักษ์ยาวเกือบพันเมตร จัดการศัตรูจนอีกฝ่ายรีบหนีไปด้วยความหวาดกลัว มันแตกต่างจากสถานการณ์ในตอนแรกที่จ้าวเทียนบอกเธอลิบลับ

“ เอาอย่างนี้แล้วกัน…เดี๋ยวผมจะไปช่วยไป๋ซู่เจินจัดการศัตรูที่ฐานบัญชาการเอง ส่วนพี่ก็พาคนพวกนี้กลับไปที่งานแสดงเครื่องประดับ แล้วส่งตัวพวกเขาให้เจ้าหน้าที่ของเราคุมตัวเอาไว้ ”

“ ระวังอย่าให้มีคนพบเห็นยานบินลำนี้เด็ดขาด…ฉันไม่อยากให้มีพาดหัวข่าวว่า พบยานบินมนุษย์ต่างดาวบุกโลก ” จ้าวเทียนพูดล้อเล่นแบบขำๆ

“ ไม่ต้องห่วง…เชื่อมือพี่ได้เลย แล้วทางครอบครัวของลุงซุยที่อยู่บนเรือดำน้ำล่ะ” โม่ซินหยานถามต่อ

“ พี่ติดต่อให้คนของเราส่งเรือมารับ…ผมต้องการยึดเอาเรือดำน้ำไปด้วย มันน่าจะมีประโยชน์กับกองกำลังของพวกเราแน่นอน ”

“ ยังมีอีกเรื่อง…พี่ต้องจัดทีมคุ้มกันใหม่ ไว้คอยอารักขาครอบครัวของลุงซุย เอาเป็นปรมาจารย์ทั้งสี่คนเลยก็แล้วกัน ผมไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นอีก ” จ้าวเทียนพูดด้วยสีหน้าจริงจัง

“ รับทราบค่ะ…ฉันจะคัดเลือกทีมคุ้มกันอย่างดี ” โม่ซินหยานรับคำอย่างจริงจัง

ถึงแม้ว่าจ้าวเทียนจะดูแลเธอและลูกเป็นอย่างดี เหมือนเป็นคนในครอบครัว แต่แท้จริงแล้วตัวเธอมีฐานะเป็นลูกน้องของจ้าวเทียน เมื่อได้รับคำสั่งมาก็ต้องปฏิบัติอย่างแข็งขัน

ผ่านไปสิบนาที จ้าวเทียนมองยานบินที่ล่องหนหายไปในท้องฟ้าอย่างทอดถอนใจ

‘ ขนาดฉันที่เห็นมันหายไปต่อหน้าต่อตา…แต่พอลองใช้สัมผัสวิญญาณดู กลับไม่พบตัวตนของมันแม้แต่น้อย ’

‘ ไม่รู้ว่ามันจะสามารถตบตาขอบเขตเทพโลกาได้หรือเปล่า…คงต้องรอให้ท่านอาจารย์ทดสอบดู ’

ในขณะที่จ้าวเทียน กำลังบินไปช่วยไป๋ซูาเจินจัดการกับศัตรูนั้นเอง เขาก็พลันคิดเรื่องดีๆบางอย่างได้ มุมปากเขายกขึ้นเป็นรอยยิ้มที่ดูเจ้าเล่ห์

จากนั้นก็หยิบโทรศัพท์ดาวเทียมออกมา…

ณ สนามบินนานาชาติ สหรัฐอเมริกา

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จุติใหม่มหาเทพตี้เทียน