จุติใหม่มหาเทพตี้เทียน นิยาย บท 157

ภายในห้องรับรองขนาดใหญ่ที่ถูกจัดเตรียมไว้ ตอนนี้จ้าวเทียนกำลังรอผลการเจรจาตกลงจากกงไป๋ฮวา

ที่ใช้คำว่าเจรจาตกลง ก็เพราะจ้าวเทียนมองออก ว่าอีกฝ่ายไม่ได้โกหก เรื่องที่ส่งตัวกงเสี่ยวเหมยกลับมาไม่ได้

หมายความว่าจะต้องรออีกเป็นเดือน กว่าประตูสำนักโบราณจะเปิด ซึ่งในระหว่างนี้ ชีวิตของกงเสี่ยวเหมยย่อมตกอยู่ในมือของฝั่งตรงข้าม

ดังนั้น พวกเขาจึงไม่สามารถบีบบังคับอีกฝ่ายมากเกินไป ส่วนการลงมือของจ้าวเทียนเป็นการแสดงพลังข่มขู่ให้พวกของยายซุนหวาดกลัว จะได้พูดคุยกันได้โดยง่าย

ซึ่งในระหว่างที่รอ…

เขาก็ฝึกฝนไปด้วย เพื่อไม่ให้เสียเวลาไปโดยเปล่าประโยชน์

เพราะพลังของจ้าวเทียนในตอนนี้ มันได้ถึงขีดจำกัดของเซียนขั้นสูงแล้ว การที่เขาจะไปสู่ระดับต่อไป มันต้องใช้การสั่งสมพลังอย่างเป็นธรรมชาติ ไม่สามารถอาศัยทรัพยากรช่วยได้เหมือนเมื่อก่อน

ตลอดเวลาที่ผ่านมา เพราะร่างกายของเขาได้ดูดซึมทั้งโอสถและเลือดมังกรเข้าไป ทำให้พลังเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว แต่เส้นชีพจรจิตวิญญาณและความตระหนักรู้ กลับพัฒนาตามขอบเขตพลังไม่ทัน

ซึ่งมันจะทำให้พื้นฐานของเขาไม่มั่นคง เป็นผลเสียต่อเส้นทางในอนาคต…

‘ เส้นทางฝึกตน…ต้องก้าวไปทีละขั้นอย่างมั่นคง ท่านอาจารย์เองก็คงเล็งเห็นในจุดนี้ เลยไม่ได้ยื่นมือเข้ามายุ่งเกี่ยวมากนัก ’

วิถีเซียนที่เขาฝึกฝนในชาตินี้ แตกต่างจากเส้นทางเดิมในสมัยที่เขาอยู่บนสวรรค์ ดังนั้นเขาต้องบ่มเพาะอย่างระมัดระวัง

ปัจจุบัน เมล็ดพันธุ์สุริยันในร่างของจ้าวเทียนได้เติบโตขึ้นกว่าเดิมเยอะมาก อีกเพียงไม่นานมันก็จะเข้าสู่การกลั่นหลอมตัวเอง เพื่อยกระดับเป็นโลกภายในที่ไม่สมบูรณ์ ซึ่งจะทำให้เขาบรรลุขอบเขตครึ่งก้าวเซียนนภา

หลังจากนั้น เมื่อสั่งสมพลังให้โลกภายในที่ไม่สมบูรณ์มากพอ ตัวเขาจะต้องท้าทายทัณฑ์สายฟ้า และทำลายประตูเซียนเพื่อให้โลกภายในของเขาได้ดูดซึมพลังของสวรรค์

เมื่อถึงเวลานั้น โลกภายในของจ้าวเทียนจึงจะเติบโตขึ้นอย่างสมบูรณ์ และกลายเป็นโลกที่แท้จริง ที่สามารถก่อกำเนิด ฟ้า ดิน มนุษย์ ในตัวของมันเอง

‘ ตอนนี้ฉันอยู่ในขอบเขตเซียนขั้นสูง…แต่เมื่อตอนที่โซเฟียมอบพรศักดิ์สิทธ์ให้ พลังของฉันก็พุ่งขึ้นไปอยู่ในขอบเขตเซียนขั้นสูงสุด ’

‘ ในตอนนั้น…ฉันสามารถต่อสู้กับผู้มีพลังระดับ S ได้สบาย แล้วถ้าฉันบรรลุขอบเขตครึ่งก้าวเซียนนภาล่ะ ’

เมื่อคิดไปถึงตรงนี้ จ้าวเทียนก็ถอนหายใจออกมา เพราะมันคงต้องใช้เวลาอีกซักพักกว่าเขาจะไปถึงขั้นนั้น

‘ จากที่ฉันคาดการณ์เอาไว้…อีกประมาณเจ็ดวัน คงจะไปถึงขอบเขตเซียนขั้นสูงสุด ส่วนขั้นต่อไปนั้น คงต้องใช้เวลาอีกนาน ’

‘ ตอนนี้เลือดมังกรปกติแทบจะไม่มีผลกับฉันแล้ว…ส่วนเลือดแก่นแท้ที่ท่านอาจารย์มอบให้ ฉันจะใช้มันหลังจากที่บรรลุครึ่งก้าวเซียนนภาแล้ว ’

‘ เพื่อใช้…ทะลวงขอบเขตเซียนนภาในคราวเดียว ’

สถานการณ์ของจ้าวเทียนนั้นแตกต่างจากเหยียนซืออู่ เหตุผลที่เมื่อเหยียนซืออู่หลอมรวมเลือดมังกร แล้วบรรลุขอบเขตครึ่งก้าวเซียนภา

ที่เป็นแบบนั้น ก็เพราะเขาสั่งสมการฝึกตนในขอบเขตเซียนขั้นสูงสุดมาหลายปีแล้ว เมื่อได้รับการกระตุ้นจากเลือดมังกรจึงมีความก้าวหน้าอย่างก้าวกระโดด

สามสิบนาทีผ่านไป

กงไป๋ฮวาได้พายายซุนเข้ามาพบจ้าวเทียน ซึ่งตอนนี้สีหน้าของยายซุนไม่ค่อยดีนัก เธอไม่มีความมั่นใจและถือดีแบบในตอนแรก

เมื่อเห็นทุกคนเดินมานั่งเรียบร้อยแล้ว

“ ผู้อาวุโส…พาเธอมาทำไมเหรอ หรือมีปัญหาอะไรเกิดขึ้น ” จ้าวเทียนถามขึ้นด้วยความสงสัย เพราะเขาได้ปล่อยให้ตระกูลกงไปจัดการกันเองแล้ว แค่บอกรายละเอียดให้เขารับรู้ก็พอ

‘ หรือฉันลงมือเบาไป…อีกฝ่ายเลยยังไม่รู้สถานะของตัวเอง ’

“ ยายซุน…มีบางอย่างต้องการจะถามเธอ ” กงไป๋ฮวา พูดขึ้นด้วยรอยยิ้ม

“ ถามผม… ” จ้าวเทียนมองไปที่ยายซุนด้วยความสงสัย ตัวเขาเป็นแค่คนนอก จะมาสนใจเรื่องของเขาทำไม

“ คุณ…เป็นคนของผู้อาวุโสต้วนมู่เหรอ ” ยายซุนถามด้วยสีหน้าจริงจัง

จ้าวเทียนฟังแล้วก็นิ่งเงียบ เขาหันไปมองกงไป๋ฮวาด้วยความสงสัย เพราะเรื่องนี้มีคนรู้ไม่มากนัก

“ ฉันเป็นคนบอกเอง… ” กงไป๋ฮวาตอบเสียงเบา เธอรู้ว่ามันไม่ค่อยดีนัก เพราะเรื่องนี้ไม่สมควรให้คนอื่นรู้

จ้าวเทียนพยักหน้าเหมือนจะเข้าใจบางอย่าง แล้วหยิบตราผู้บัญชาการหน่วยรบพิเศษออกมาให้ยายซุนดู

“ นี่…มันใช่จริงๆ ” ยายซุนที่เห็นตราของจ้าวเทียน ก็มีแววตาเคร่งเครียดสั่นไหว จากนั้นก็ถอนหายใจยาว

“ พายายซุนออกไปพักก่อน…ฉันมีเรื่องต้องคุยต่อ ” กงไป๋ฮวาหันไปบอกผู้คุ้มกันที่รออยู่ด้านข้าง

หลังจากรอให้ยายซุนออกไปแล้ว ในห้องตอนนี้ก็เหลือเพียงจ้าวเทียนกับกงไป๋ฮวาและกงซือลู่เท่านั้น

“ ยายซุนหัวแข็งมาก…เธอยอมตายไม่ยอมผิดกฎ ฉันเลยต้องอ้างชื่อของผู้อาวุโสต้วนมู่ไป เธอถึงจะยอมอ่อนให้ ” กงไป๋ฮวาอธิบายให้จ้าวเทียนฟัง

“ ไม่เป็นไรครับ…ถึงยังไงพอประตูสำนักโบราณเปิด พวกเขาก็รู้อยู่ดี ” จ้าวเทียนตอบแบบไม่ใส่ใจนัก

หน้าที่ของหน่วยพิเศษ ก็คือควบคุมและลงโทษพวกที่มาจากสำนักโบราณอยู่แล้ว อย่างไรอีกฝ่ายก็ต้องรู้เข้าซักวัน

จากนั้นกงไป๋ฮวาก็เล่าเรื่องทุกอย่างให้จ้าวเทียนฟัง

กลายเป็นว่า แท้จริงแล้วหมู่บ้านแห่งนี้คือ ตระกูลสาขาของตระกูลกงแห่งสำนักสุสานโบราณ ตลอดเวลาที่ผ่านมา มีหน้าที่คัดเลือกหญิงสาวที่มีพรสวรรค์ส่งไปที่สำนัก เพื่อช่วยตระกูลกงรักษาอำนาจของผู้นำเอาไว้

เนื่องเพราะสำนักสุสานโบราณรับแต่ศิษย์ผู้หญิงเท่านั้น ภายในสำนักไม่มีผู้ชายอยู่เลย ดังนั้นจึงไม่มีการให้กำเนิดทายาท ทำให้ประชากรของสำนักลดลงเรื่อยๆ

ดังนั้นเพื่อไม่ให้สำนักต้องล่มสลาย ตระกูลกงจึงสร้างสาขาขึ้นบนโลกภายนอก แล้วให้ใช้ชีวิตเหมือนคนปกติ สร้างครอบครัวให้กำเนิดบุตร

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จุติใหม่มหาเทพตี้เทียน