เวลาแปดโมงครึ่ง กองกำลังทุกภาคส่วนเข้าประจำตำแหน่งเรียบร้อย หากมองลงมาจากมุมสูง จะสามารถเห็นทหารนับหมื่น เข้าแถวตอนเรียงลำดับตามกองกำลังที่สังกัดอยู่อย่างเป็นระเบียบ
พิธีในวันนี้ไม่มีถ่ายทอดออกไปตามสื่อต่างๆ เพราะทุกคนที่ได้เข้าร่วมเป็นผู้เกี่ยวข้องกับผู้ฝึกตนทั้งสิ้น ซึ่งการมีอยู่ของพวกเขาเป็นความลับระดับสูงของประเทศ
บนตึกสูงที่อยู่ตรงกลาง เป็นสถานที่สังเกตการณ์ของผู้มีอำนาจระดับสูงของประเทศ ซึ่งแน่นอนว่าเก้าอี้ตัวที่อยู่บนสุดต้องเป็นของท่านผู้นำ
ซึ่งกุมอำนาจสูงสุดของประเทศจีนในปัจจุบัน…
แต่น่าแปลก…ตอนนี้สายตาของทุกคนกลับไม่ได้มองไปยังท่านผู้นำที่นั่งอยู่ แต่กลับจับจ้องไปยังชายคนหนึ่งที่ยืนอยู่ด้านหลังแทน
บุรุษผู้เป็นตำนานของประเทศจีน…ต้วนมู่เฉียน
เหตุผลที่ทุกคนมองไปทางเขา เพราะวันนี้มีบางอย่างแปลกไป หน้าตาของเขาดูหนุ่มขึ้น ออร่าที่เขาปลดปล่อยออกมาก็แข็งแกร่งกว่าเดิมมาก
ที่ด้านหลังของท่านผู้นำ นอกจากต้วนมู่เฉียนแล้ว ยังมีเก้าอี้อีกสี่ตัวตั้งเอาไว้ มันเป็นของผู้ดำรงตำแหน่งผู้คุมกฎ ได้แก่บรรพชนเซียนของตระกูลใหญ่ทั้งสี่
ซึ่งตอนนี้มีคนนั่งอยู่แล้วสองคน ได้แก่ หวังฝูหมิงและหลงมู่เฉิน ส่วนเก้าอี้อีกสองตัวที่ยังว่าง เป็นของบรรพชนเซียนตระกูลจ้าวและตระกูลหลิน
เรื่องที่ต้วนมู่เฉียนแต่งตั้งตระกูลหลินขึ้นมาแทนตระกูลหลี่ไม่ใช่ความลับ ผู้มีอำนาจทุกคนล้วนรู้ดี และไม่มีใครกล้าคัดค้าน
เพราะเดิมทีตำแหน่งนี้ควรจะเป็นของตระกูลหลินอยู่แล้ว
บนที่นั่งแถวรองลงมา ถูกจัดไว้สำหรับผู้ดำรงตำแหน่งพลเอกแห่งกองทัพ ซึ่งตอนนี้ก็ได้มีคนนั่งประจำอยู่แล้วหกคน ผู้ที่นั่งตำแหน่งทางด้านขวาสุดก็คือฉางกวนผิง เขาเสมือนเป็นหัวหน้าของทุกคน
“ นี่มันเกิดอะไรขึ้น…ทำไมต้วนมู่เฉียนถึงเปลี่ยนไปแบบนี้ เขาควรอ่อนแอลงไม่ใช่เหรอ แต่ทำไมฉันถึงรู้สึกว่าเขาดูหนุ่มขึ้น ” ฟางฮุยหมิงพูดขึ้นด้วยสีหน้ากังวล
ที่ข้างหูของเขามีไมโครโฟนตัวเล็กติดอยู่ นี่เป็นเทคโนโลยีใหม่ของกองทัพ ป้องกันการแอบดักฟังของผู้ฝึกตนได้
“ คงเป็นการดิ้นรนก่อนตายของเขา…พวกเราไม่ต้องสนใจ ฉันตรวจสอบมาแล้ว ตลอดสองพันปีที่ผ่านมา เซียนทุกคนมีอายุขัยเพียงห้าร้อยปีเท่านั้น ไม่มีใครหนีความจริงข้อนี้ได้ ”
เจียงฮุ่ยพูดขึ้นอย่างมั่นใจ เขาเป็น ผบ.หน่วยข่าวกรองทหาร ข้อมูลลับทุกอย่างย่อมเคยผ่านตามาแล้ว
“ เรื่องนั้นช่างมัน…ว่าแต่ พวกนายให้คนจัดการตามที่ฉันบอกแล้วใช่ไหม ” ฉางกวนผิงพูดขึ้นด้วยรอยยิ้ม
“ คุณไม่ต้องห่วง…ที่นี่เป็นถิ่นของฉัน รับรองไม่มีปัญหา คนของฉันได้ดัดแปลงเก้าอี้ตัวนั้นแล้ว เมื่อไอ้เด็กนั่นนั่งลงมันต้องโชว์ความทุเรศแน่นอน ต่อให้เป็นเซียนก็ดูไม่ออก ” ฟางฮุยหมิงพูดขึ้นด้วยรอยยิ้ม
“ ดีมาก…ฉันต้องการให้มันอับอายต่อหน้าทุกคน หลังจากนี้พวกเราจะได้ข่มมันได้ง่ายๆ ” ฉางกวนผิงพยักหน้าด้วยความพอใจ
เก้าอี้ตัวที่ถูกดัดแปลงเป็นของจ้าวเทียน ซึ่งอยู่ด้านซ้ายสุด ในวันนี้พิธีการอย่างแรกคือการแต่งตั้งตำแหน่งพลเอกคนที่เจ็ดอย่างเป็นทางการ
ซึ่งเมื่อใดก็ตามที่จ้าวเทียนนั่งลงไปบนเก้าอี้ตัวนั้น มันจะสลายตัวกลายเป็นฝุ่นทันที นี่เป็นการแสดงให้ทุกคนเห็นว่าตำแหน่งของเขาไม่เป็นที่ยอมรับ
ต่อให้ภายหลังจะเปลี่ยนเอาตัวใหม่มา แต่ทหารที่อยู่ด้านล่างทุกคนก็เห็นเหตุการณ์นั้นไปแล้ว ความเชื่อมั่นของพวกเขาต่อจ้าวเทียนย่อมลดลง
“ ถ้าต้วนมู่เฉียนต้องการเอาเรื่องขึ้นมา…ฉันก็เตรียมแพะรับบาปไว้แล้ว พวกเราไม่ได้รับผลกระทบแน่นอน ” ฟางฮุยหมิงพูดเสริมขึ้น
ในขณะเดียวกัน..
ก็ได้เกิดความวุ่นวายขึ้นตรงพื้นที่ทางเดิน
“ ขอโทษนะครับ…สถานที่ตรงนี้ห้ามบุคคลภายนอกเข้า ” เหล่าทหารคุ้มกันรีบวิ่งไปยืนออกันที่ทางเข้าทันที
“ หนูก็บอกคุณไปแล้วไง…ว่าที่นั่งของหนูอยู่บนนั้น ” หลินซิงเสวียนพูดขึ้นด้วยความโมโห ในมือของเธอมีตุ๊กตาหมีสีน้ำตาลผูกโบว์สีแดงน่ารัก
“ นี่ไม่ใช่สถานที่ที่จะขึ้นไปเล่นได้นะ…พ่อแม่ของเธออยู่ที่ไหน รีบไปหาพวกเขาซะ พื้นที่บนนั้นเป็นของท่านผู้นำและเหล่าผู้อาวุโส ถอยไปเดี๋ยวนี้อย่าให้ฉันต้องใช้กำลัง ” หัวหน้าทีมคุ้มกันพูดขึ้นอย่างหงุดหงิด
แต่เขาก็ไม่กล้าใช้ความรุนแรง เพราะบางทีเด็กสาวคนนี้ อาจจะเป็นลูกสาวของผู้มีอำนาจที่นั่งอยู่ด้านบนก็เป็นได้ ตัวเขาเป็นเพียงหัวหน้าทหารคุ้มกันประจำฐานแห่งนี้เท่านั้น จะไปสู้กับคนพวกนั้นได้อย่างไร
“ ฮึมมม… ” หลินซิงเสวียนพ่นลมออกมาทางจมูกด้วยความหงุดหงิด มองไปยังตุ๊กตาหมีที่อยู่ในมือเหมือนต้องการความช่วยเหลือ
“ ตัวตนของฉัน เปิดเผยไม่ได้
เธอโทรหาต้วนมู่เฉียนให้เขาสั่งการอีกที ”
หลินซูซินสื่อสารทางจิตกลับมาอย่างอ่อนใจ นี่เป็นเรื่องที่น่ารำคาญมาก ตั้งแต่ที่อยู่ในร่างนี้ เธอก็ทำอะไรไม่สะดวกมาตลอด
“ เกิดอะไรขึ้น! ”
!!
เสียงที่ดังขึ้นทำให้ทุกคนหันไปมองทันที
“ พวกคุณถอยไป! เธอมากับฉัน ” จ้าวเทียนมองทหารพวกนั้นด้วยแววตาเย็นชา ออร่ากดดันที่เขาแผ่ออกมาทำให้ทุกคนต้องก้มหน้าลงด้วยความเกรงกลัว
“ คุณ…คุณคือ ” หัวหน้าทีมคุ้มกันมีสีหน้าตกใจ ทำไมชายหนุ่มคนนี้ถึงให้ความรู้สึกเหมือนเจอพวกผู้อาวุโสเลย
แต่เมื่อเขามองเห็นชุดเครื่องแบบของจ้าวเทียน ก็ตัวสั่นสะท้านทันที
“ พลเอก… ”
“ ยังไม่รีบถอยไปอีก! ” จ้าวเทียนพูดขึ้นอีกครั้ง
ความกดดันที่เขาแผ่ออกมาเพิ่มขึ้นอีกหลายส่วน ทำให้ทหารคุ้มกันทุกคนสะดุ้งขึ้นพร้อมกัน พวกเขาตบเท้าเข้าหากันแล้วรีบทำความเคารพ
“ ครับผม! ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จุติใหม่มหาเทพตี้เทียน