จุติใหม่มหาเทพตี้เทียน นิยาย บท 163

ณ กองบัญชาการกองทัพปลดปล่อยประชาชนจีน

กองทัพปลดปล่อยประชาชนเป็นหัวใจหลักของพรรคคอมมิวนิสต์ ซึ่งเป็นรัฐบาลของประเทศจีนในปัจจุบัน

ด้วยกำลังทหารประจำการสองล้านสามแสนคน ทำให้เป็นกองทัพที่ใหญ่ที่สุดในโลก เหนือกว่าสหรัฐอเมริกาที่ได้อันดับสอง ซึ่งมีทหารเพียงหนึ่งล้านสี่แสนคนเท่านั้น

แม้ว่าตามหลักการ จะเป็นประธานาธิบดีที่กุมอำนาจสั่งการกองทัพเอาไว้ แต่แท้จริงแล้วอำนาจส่วนใหญ่ยังอยู่ในมือของพลเอกแต่ละคนที่รักษาการอยู่

ด้วยการวางแผนของต้วนมู่เฉียน ที่ต้องการถ่วงดุลอำนาจระหว่างผู้ฝึกตนกับคนธรรมดา เขาจึงได้แบ่งแยกหน้าที่ของกองทัพและหน่วยรบพิเศษอย่างชัดเจน

ซึ่งถ้าวัดความรุ่งเรืองของประเทศจากอดีตถึงปัจจุบัน การตัดสินใจของต้วนมู่เฉียนนับว่าเป็นสิ่งที่ถูกต้อง สมดุลนั้นเป็นสิ่งจำเป็น หากมีฝ่ายไหนได้เปรียบหรือเสียเปรียบ ประเทศจะเข้าสู่ความวุ่นวายทันที

แต่ทว่า…

ด้วยอายุขัยของต้วนมู่เฉียนที่กำลังจะหมดไป มันเหมือนเป็นลางบอกเหตุว่าสมดุลที่เขาสร้างเอาไว้กำลังจะพังทลายลง

เพราะในตอนนี้พลเอกที่กุมอำนาจทหาร ได้ยื่นมือเข้ามาหาหน่วยรบพิเศษซึ่งเป็นหน่วยงานของผู้ฝึกตนแล้ว

ภายในห้องประชุมขนาดใหญ่ ชายสามคนในชุดเครื่องแบบเต็มยศกำลังนั่งปรึกษาหารือเรื่องแผนการที่เตรียมไว้อย่างเคร่งเครียด

ซึ่งพวกเขา ก็คือพลเอกที่มีตำแหน่งสำคัญของกองทัพปลดปล่อย…

“ สถานการณ์ของพวกคุณเป็นยังไงบ้าง ” ฉางกวนผิงถามด้วยน้ำเสียงจริงจัง เขาเป็นผู้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมคนปัจจุบัน

“ ไม่ค่อยดีนัก…ลูกน้องของฉันถูกเรียกไปสอบหลายคนแล้ว ไอ้สุนัขรับใช้หวังฝูหมิงมันกัดไม่ปล่อยจริงๆ ตอนนี้พวกเราคงต้องหยุดภารกิจทั้งหมดเอาไว้ก่อน ” ฟางฮุยหมิงตอบด้วยสีหน้าไม่สู้ดีนัก

เขาเป็นประธานคณะเสนาธิการทหาร มีหน้าที่จัดการเรื่องบุคลากรทั้งหมดในกองทัพ ซึ่งการตรวจสอบของหวังฝูหมิงได้มุ่งเป้ามาที่เขาเป็นคนแรก

“ เจียงฮุ่ย…คุณจัดการเก็บกวาดเรียบร้อยแล้วใช่ไหม ” ฉางกวนผิงหันไปถามชายอีกคนที่นั่นอยู่ตรงข้าม

“ ไม่ต้องเป็นห่วง…ตั้งแต่ที่หวังฝูหมิงเริ่มลงมือ ฉันก็ส่งคนไปเก็บจ้าวเหวยเฟิงเรียบร้อย ต่อให้พวกมันมีคำรับสารภาพ แต่ถ้าขาดพยานก็ทำอะไรพวกเราไม่ได้ ” เจียงฮุ่ยพูดขึ้นอย่างเย็นชา

เขาเป็นผบ.หน่วยข่าวกรองทางการทหาร เรื่องการส่งคนแฝงตัวเข้าไปลอบสังหารเป้าหมายในคุก เป็นความรับผิดชอบของเขา

“ ถ้าเป็นแบบนั้นก็ดีแล้ว…น่าเสียดายที่เกิดเหตุการณ์แบบนั้นกับตระกูลจ้าว จนทำให้เสียหมากชั้นดีอย่างจ้าวเหวยเฟิงไป ไม่อย่างนั้นแผนของพวกเราคงจะง่ายกว่านี้ ” ฉางกวนผิงถอนหายใจเบาๆ

“ เรื่องตระกูลจ้าว…มันอาจจะไม่ได้แย่อย่างที่พวกคุณคิดนะ ” เจียงฮุ่ยยิ้มออกมาอย่างเฉยชา

“ คุณหมายความว่ายังไง ” ฉางกวนผิงถามขึ้นอย่างสงสัย เสียตัวหมากอย่างตระกูลจ้าวไป มันยังไม่แย่อีกเหรอ

“ ฉันขอถามพวกคุณหน่อย…หากตระกูลจ้าวยังเหมือนเดิม แล้วควบรวมอำนาจของตระกูลหลงได้ พวกคุณคิดว่าเราจะคุมเขาอยู่เหรอ ”

“ บรรพชนตระกูลจ้าวไม่ได้ง่ายอย่างที่พวกคุณคิด…จากการสืบสวนของฉัน สิ่งที่ชายคนนั้นต้องการ คือการขึ้นแทนที่ต้วนมู่เฉียน ”

!!

คำพูดของเจียงฮุ่ย ทำเอาสองคนที่เหลือหันมามองด้วยความตกใจ

“ เหอะ…มันคิดว่าจะทำได้เหรอ ไม่เห็นหัวพวกเราเลยหรือไง ” ฟางฮุยหมิงแค่นเสียงอย่างเย็นชา

ตำแหน่งของต้วนมู่เฉียนในเวลานี้ คือผู้นำสูงสุดของประเทศอย่างแท้จริง หากไม่ใช่เพราะเขาการต้องการรักษาเสถียรภาพเอาไว้ ด้วยอำนาจของเขาสามารถขึ้นเป็นจักรพรรดิได้อย่างไร้ข้อกังขา

ย้อนกลับไปในอดีต สิ่งที่จอมราชันในประวัติศาสตร์ทุกคนขาดไปคืออะไร ไม่ใช่การมีชีวิตที่ยืนยาวหรอกเหรอ

จิ๋นซีฮ่องเต้หลังจากรวมประเทศเป็นหนึ่งแล้วขึ้นสู่จุดสูงสุด หากไม่ใช่ว่าภายหลังหลงมัวเมาต่อความเป็นอมตะ ราชวงศ์ฉินคงไม่ล่มสลาย

จักรพรรดิถังไท่จงเองก็เช่นกัน ในตอนที่เขาเรืองอำนาจอยู่ ไม่มีใครกล้าต่อต้าน ความแข็งแกร่งของประเทศในตอนนั้น สามารถใช้คำว่า หมื่นแคว้นน้อมรับบัญชาได้เลยทีเดียว

แต่สุดท้าย ไม่ว่าจักรพรรดิทุกพระองค์จะปรีชาสามารถแค่ไหน ก็ไม่มีใครอยู่เกินร้อยปี ล้วนต้องยอมสยบให้กับอายุขัยทั้งสิ้น

แต่…ถ้าเป็นต้วนมู่เฉียนล่ะ

ด้วยอายุขัย 500 ปีของเซียน ความฉลาดหลักแหลม ความเฉียบขาด ขุมกำลังพร้อมสนับสนุน และที่สำคัญที่สุดก็คือความแข็งแกร่งของตัวเขาเอง

จักรพรรดิทุกคนล้วนเกรงกลัวการลอบสังหาร แต่สำหรับต้วนมู่เฉียน เขาไม่จำเป็นต้องกังวลแม้แต่น้อย ตลอดเวลาที่ผ่านมา ไม่ใช่ไม่มีใครลอบสังหารเขา ในอดีตมีคนเคยทดลองหลายครั้ง

แต่ทุกครั้ง…กลับไร้ผลโดยสิ้นเชิง

ซึ่งผลที่ตามมา ก็เหมือนกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับตระกูลหลี่ คือผู้ที่เกี่ยวข้องทุกคนถูกลบหายไป ภายในวันเดียว

ไม่มีแม้แต่ซากศพเหลืออยู่…

จะเห็นได้ว่า…สิ่งที่ปฐมจักรพรรดิของราชวงศ์ในตำนานมี ต้วนมู่เฉียนล้วนมีเช่นกัน ส่วนสิ่งที่จักรพรรดิพวกนั้นขาดไป ต้วนมู่เฉียนกลับมีครบ

เรื่องอายุขัย…ต้วนมู่เฉียนมี 500 ปี

เรื่องถูกลอบสังหาร…ต้วนมู่เฉียนไม่เคยกลัว

แม้กระทั่งยุคปัจจุบันที่เทคโนโลยีล้ำหน้าไปไกล มีอาวุธที่น่าหวาดกลัวถูกคิดค้นขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง แต่ของพวกนั้นกลับทำอะไรต้วนมู่เฉียนไม่ได้

สิ่งที่ศัตรูของต้วนมู่เฉียนทำได้เพียงอย่างเดียว…คือการรอ

รอให้เขาสิ้นอายุขัยไปเอง…

ตลอดชีวิตของต้วนมู่เฉียน

มีคนเกลียดเขา

ด่าเขาลับหลัง

หรือสาปแช่งเขาให้ตาย

แต่ภายในใจของทุกคน ล้วนแล้วแต่เคารพนับถือ…ต้วนมู่เฉียน

เพราะหากไม่มีการทุ่มเทและเสียสละของชายคนนี้ ประเทศจีนคงไม่เป็นประเทศมหาอำนาจอย่างในปัจจุบัน

เพราะฉะนั้น หลังจากที่พลเอกทั้งสามได้รู้ถึงความทะเยอทะยาน ของบรรพชนตระกูลจ้าว พวกเขาจึงรู้สึกว่ามันเป็นเรื่องที่ไร้สาระ

อยากเป็นอย่างต้วนมู่เฉียนงั้นเหรอ…คุณคิดว่ามีความสามารถพอหรือ

“ บรรพชนตระกูลจ้าวเสียสติจริงๆ…เราไม่ต้องสนใจเขาหรอก ไหนคุณลองอธิบายมาสิ ว่าสถานการณ์ตอนนี้มันดีกับพวกเรายังไง ” ฉางกวนผิงถามขึ้น

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จุติใหม่มหาเทพตี้เทียน