การปรากฏตัวของศิษย์พี่รอง สำหรับจ้าวเทียน เขาไม่ได้แปลกใจเท่าไหร่ เพราะได้รู้อยู่ก่อนแล้ว แต่กับคนอื่นๆนั้นไม่ใช่ เพราะพวกเขาไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์วันนั้นด้วย
“ อาจารย์คะ…ผู้ชายคนนี้เป็นใครเหรอ ” โม่ปิงหยูถามเสียงเบา
“ เขาเป็นศิษย์พี่รองของฉันเอง…หนูต้องเรียกเขาว่าอาจารย์ลุงนะ ” จ้าวเทียนตอบด้วยรอยยิ้ม ให้คนอื่นๆได้ยินด้วย
ทำให้ทุกคนรีบกล่าวทักทายแนะนำตัวตามมารยาททันที ซึ่งคังหลินเองก็ยิ้มและชวนพวกเธอพูดคุยอย่างเป็นมิตร
ตลอดเวลาหลินซินเยว่ เพียงแค่นั่งจิบชาอยู่เงียบๆเท่านั้น เธอปล่อยให้ลูกศิษย์ได้ทำความรู้จักกันเอง
“ หืมม…เธอคงเป็นศิษย์น้องสามสินะ เพราะเกิดเรื่องแบบนั้นขึ้น ตลอดเวลาที่ผ่านมาเธอคงจะลำบากมาก หลังจากนี้ถ้ามีอะไรให้ช่วย ก็บอกฉันได้เลยนะ ” คังหลินอุ้มตุ๊กตาหมีขึ้นมาอยู่ตรงหน้า แล้วพูดขึ้นอย่างจริงจัง
“ ขอบคุณค่ะ…ศิษย์พี่รอง ”
หลินซูซินตอบเสียงเบา แม้เธอจะรู้สึกตกใจกับการกระทำและคำพูดของคังหลิน แต่ภายในใจก็รู้สึกอบอุ่น กับความจริงใจที่ได้รับ
ตลอดเวลาที่ผ่านมา เธอรู้สึกกังวลมาตลอดเกี่ยวกับท่าทีของศิษย์พี่อีกสองคนที่ไม่เคยพบหน้า เพราะพวกเขามีต้นกำเนิดบนแดนสวรรค์อันสูงส่ง แต่ตัวเธอเกิดบนโลกวัตถุระดับต่ำ ซึ่งมันแตกต่างกันมาก
แม้แต่พวกที่มาจากโลกทิพย์ ก็ยังดูถูกคนบนโลกมนุษย์ ไม่ต้องพูดถึงแดนสวรรค์ที่อยู่สูงกว่าโลกทิพย์ไปอีกขั้น อีกทั้งตอนนี้เธอยังต้องมาอยู่ในร่างตุ๊กตาหมีอีก หากอีกฝ่ายจะนึกดูถูกเธอก็คงไม่แปลก
ดังนั้นตั้งแต่ตอนที่ศิษย์พี่รองปรากฏตัว เธอก็ทำเพียงแค่ทักทายเท่านั้น ไม่กล้าพูดคุยอะไรมากมาย แต่ไม่คิดเลยว่าอีกฝ่ายจะเป็นคนเข้าหาเธอก่อน อีกทั้งยังเรียกเธอเป็นศิษย์น้องอย่างจริงใจ
เรื่องนี้ทำให้หลินซูซินรู้สึกโล่งใจ และมีความสุขมาก
หลังจากที่เห็นทุกคนทำความรู้จักกันพอประมาณแล้ว หลินซินเยว่ก็เรียกสาวๆเข้าไปคุย ถามไถ่เรื่องต่างๆในช่วงระหว่างที่เธอไม่อยู่ โดยเฉพาะเรื่องเกี่ยวกับการทะลวงขอบเขตของหลินซูซิน เพราะมันเป็นเรื่องที่เธอให้ความสนใจมาโดยตลอด
ตอนนี้ เหลือเพียงจ้าวเทียนกับคังหลิน ที่ยืนมองหน้ากันอยู่สองคน ด้วยตัวเขาเองก็ไม่รู้จะทำตัวอย่างไรกับอีกฝ่ายดี เพราะถ้านับกันจริงๆนี่เหมือนเป็นการพบกันครั้งแรก
วูป!
เห็นเพียงคังหลินก้าวมาข้างหน้าสั้นๆ ร่างของเขาก็มาปรากฎตัวต่อหน้าจ้าวเทียนทันที
หมับ!
“ ยินดีที่ได้พบนะศิษย์น้อง…ท่านอาจารย์ได้เล่าเรื่องของนายให้ฉันกับศิษย์พี่ใหญ่ฟังหมดแล้ว สำหรับฉัน นี่น่าจะเป็นการพบกันครั้งแรก แต่สำหรับนายคงไม่ใช่สินะ ”
“ เพราะฉะนั้นหลังจากนี้…นายก็ทำตัวเป็นกันเองกับฉันได้เลย พวกมารยาทไร้สาระนั่นไม่จำเป็น เรามาสนิทสนมกันเหมือนชีวิตก่อนหน้าของนายก็แล้วกัน ” คังหลินพูดขึ้นด้วยรอยยิ้ม
เขาโอบไหล่จ้าวเทียนราวกับเป็นพี่น้องที่รู้จักกันมานาน จากนั้นเขาก็ฉวยจังหวะที่ทุกคนไม่ทันสังเกต ใช้พลังสร้างกำแพงปิดกั้นเสียงเอาไว้ แล้วแอบกระซิบบอกจ้าวเทียน
“ นายอย่าลืมพาฉันไปเที่ยวผับ กับไนท์คลับด้วยนะ ”
“ ห๊ะ… ” จ้าวเทียนรู้สึกพูดไม่ออก ศิษย์พี่รองไปรู้เรื่องพวกนี้มาจากไหน
“ ท่านอาจารย์เป็นคนเล่าให้ฉันฟังเอง…เธอบอกว่ามันเป็นสถานที่ที่เหมาะกับลูกผู้ชายอย่างฉันมาก ”
“ เอ่อ…ศิษย์พี่แน่ใจเหรอว่าท่านอาจารย์พูดแบบนั้น ” จ้าวเทียนถามแบบเหลือเชื่อ อาจารย์ของเขาจะไปรู้จักสถานที่แบบนั้นได้อย่างไรกัน
ตลอดเวลาที่ผ่านมา ท่านอาจารย์เป็นคนเรียบร้อยและเข้มงวดมาก เธอใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการฝึกวิชา แทบไม่ได้ไปงานสังสรรค์ที่ไหนเลย
จ้าวเทียนยังไม่เคยเห็นท่านอาจารย์ดื่มเหล้าเลยด้วยซ้ำ…
หรือว่า…บางที
สายตาของจ้าวเทียนมองไปยังหลินซิงเสวียน ที่กำลังคุยเล่นกับโม่ปิงหยูอยู่
‘ คงเป็นหลินซิงเสวียนที่ไปเล่าให้ท่านอาจารย์ฟัง…แต่เธอเพิ่งจะอายุสิบสองปีเท่านั้น ไปรู้เรื่องพวกนี้มาจากไหน ’
“ ว่ายังไงศิษย์น้อง…หรือสถานที่พวกนี้มันไม่ดีเหรอ นายบอกฉันได้เลยนะ ” คังหลินถามขึ้นด้วยความสงสัย ที่เขาลงมาบนโลก ก็เพราะอยากมาเที่ยวเล่นหาเรื่องสนุกทำ
เมื่อเห็นอีกฝ่ายถามมาแบบนั้น จ้าวเทียนจึงได้เล่ารายละเอียดของผับกับไนต์คลับให้ฟัง ซึ่งทำให้คังหลินดวงตาเปล่งประกายทันที
“ นี่มันน่าสนใจมากเลยนะ…มันก็คล้ายกับตำหนักเสวียนกงบนแดนสวรรค์ใช่ไหม ” คังหลินพูดขึ้นด้วยรอยยิ้ม
( ตำหนักเสวียนกง เป็นสถานที่จัดงานรื่นเริงบนแดนสวรรค์ มีการแสดงดนตรีของเทพธิดาผู้งดงาม ให้แขกที่มาดื่มกินได้ชื่นชม )
“ ก็คล้ายๆแบบนั้นแหละครับ…แต่คงต้องรออีกหลายวันหน่อยนะครับ ผมยังมีภารกิจในช่วงสามถึงสี่วันนี้ ” จ้าวเทียนยังต้องเข้าร่วมงานคัดเลือกผู้บัญชาการซินหลงในอีกสองวัน เขากำลังคิดว่า หลังจากเสร็จงานจะพาทุกคนไปเลี้ยงฉลองพร้อมกันก็คงดี
“ ได้เลยฉันรอได้อยู่แล้ว…แต่จะว่าไป ถ้ารู้มาก่อนว่าบนโลกมีสถานที่แบบนี้ ฉันน่าจะสร้างร่างจำแลงแบบท่านอาจารย์ จะได้ดื่มกินได้เต็มที่ ฉันอยากเที่ยวสนุกสนานกับศิษย์พี่ศิษย์น้องมานานแล้ว ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จุติใหม่มหาเทพตี้เทียน