บนจอภาพขนาดใหญ่ ที่ตั้งอยู่ตรงกลางห้องประชุมสังเกตการณ์ หลังจากที่ปรมาจารย์ตระกูลจ้าวทั้งสามคนเปิดเผยตัว การต่อสู้ก็เริ่มขึ้นทันที
ถึงแม้หลงซานถงจะเป็นปรมาจารย์ขั้นสูงสุด แต่การประสานงานของปรมาจารย์ระดับกลางถึงห้าคน เขาก็ทำได้เพียงแค่ยื้อเวลาเอาไว้เท่านั้น ส่วนกองกำลังทั้งเก้าสิบหกคนที่มาพร้อมเขา กำลังตกอยู่ในสถานการณ์เสียเปรียบอย่างเห็นได้ชัด
เก้าสิบหก ต่อ ร้อยเก้าสิบหก ฝ่ายตรงข้ามมีมากกว่าพวกเขาถึงสองเท่า ทั้งอีกฝ่ายยังเป็นผู้เชี่ยวชาญทุกคนพร้อมกับอาวุธและชุดเกราะรบที่ดีกว่า
แม้จะใช้กระสุนชนิดเดียวกัน แต่ปืนที่นักวิจัยของตระกูลหลี่สร้างขึ้นมา สามารถยิงได้ถึงสามนัดต่อวินาที รวมกับชุดเกราะรบชนิดพิเศษ ที่มีระบบกระตุ้นการทำงานของกล้ามเนื้อ เพิ่มความคล่องตัวขึ้นเกือบหนึ่งเท่า
ทำให้กองกำลังของฝ่ายหลงซานถง ถูกจัดการจนหมดสภาพไปทีละคนอย่างรวดเร็ว…
จำนวนผู้ที่ยังต่อสู้ได้บนจอภาพ หลังเริ่มการแข่งขัน 40 นาที
ฝ่ายหลงซานถง (197)
ฝ่ายหลงเป่ยหู่ (239)
ทุกคนที่กำลังนั่งชมการต่อสู้อยู่ในห้องประชุม ต่างก็พอจะคาดเดาผลการต่อสู้ได้แล้ว ความสามารถของทั้งสองฝ่ายนั้นแตกต่างกันเกินไป
แต่ทว่า…
“ แล้วพวกคุณล่ะ…กล้าเดิมพันกับฉันไหม ”
คำพูดของจ้าวเทียนทำให้ทุกคนรู้สึกแปลกใจ พวกเขารู้สึกว่าชายหนุ่มคนนี้เป็นคนอารมณ์ร้อนและหลงตัวเองจนเกินไป ไม่ยอมรับความความจริงที่เกิดขึ้น
ผู้มีอำนาจระดับสูงหลายคน ถอนหายใจและส่ายหน้าด้วยความผิดหวัง สำหรับพวกเขา การกระทำของจ้าวเทียนดูเหมือนเด็กน้อยไม่มีผิด ไม่คิดเลยว่าผู้อาวุโสต้วนมู่จะแต่งตั้งคนแบบนี้ขึ้นมาเป็นพลเอก
‘ บางที…ผู้อาวุโสคงต้วนมู่คงจะแก่แล้วจริงๆ การคัดเลือกคนของเขาจึงไม่เฉียบคมเหมือนก่อน ’
นี่คือสิ่งที่ผู้มีอำนาจระดับสูงทุกคนคิดเหมือนกัน ยิ่งเมื่อพวกเขาแอบมองไปยังผู้อาวุโสต้วนมู่ ว่าอีกฝ่ายจะมีท่าทีอย่างไรต่อการแสดงออกของจ้าวเทียน
สิ่งที่พวกเขาเห็น ก็ยิ่งตอกย้ำความคิดของพวกเขา เพราะสิ่งที่ผู้อาวุโสต้วนมู่ทำก็คือนั่งจิบชาพูดคุยกับท่านผู้นำ โดยไม่สนใจเหตุการณ์ทางด้านนี้แม้แต่น้อย เหมือนเป็นการสื่อความนัย ว่าให้จ้าวเทียนสามารถทำอะไรก็ได้ตามสบาย
“ จ้าวเทียน…คุณเอาจริงเหรอ ” ฉางกวนผิงพูดขึ้นด้วยรอยยิ้ม
เขาไม่นึกว่าอยู่ดีๆจะมีส้มหล่นใส่แบบนี้ การต่อสู้มันรู้ผลแน่นอนอยู่แล้ว สิ่งที่จ้าวเทียนแสดงออกมา มันก็เป็นเพียงการดิ้นรนของเด็กน้อยที่ไม่ยอมแพ้เท่านั้น
‘ ฉันไม่คิดเลยว่าแกจะรนหาที่ตายแบบนี้…เสียทีที่ฉันแอบกังวลของเรื่องแกอยู่ตั้งนาน แต่แบบนี้ก็ดีเหมือนกัน ฉันจะได้ทำให้แกอับอายต่อหน้าทุกคน ’
“ ฉันได้ยินว่า…คุณมีศูนย์วิจัยอาวุธอยู่ที่เมืองซานตง สนใจจะใช้มันเดิมพันไหม ” จ้าวเทียนพูดขึ้นอย่างเฉยชา
“ นี่…คุณ ” ฉางกวนผิงมีสีหน้าตกใจทันที ศูนย์วิจัยแห่งนี้เป็นเหมือนชีวิตของกองทัพของเขา อาวุธล้ำยุคทุกอย่างถูกค้นคว้าขึ้นที่นั่น และหากได้พวกนักวิจัยจากตระกูลหลี่มาช่วยเสริม คงจะสามารถพัฒนาปืนลำแสงให้เหนือกว่าเดิมได้แน่นอน
ศูนย์วิจัยที่ซานตง ถือได้ว่าเป็นหัวใจหลักของแผนการพวกเขาเลยทีเดียว…
“ ว่ายังไง…ทุกคนกำลังรอการตัดสินใจของคุณอยู่นะ ” จ้าวเทียนพูดเร่งขึ้น ซึ่งเขาก็ไม่ได้โกหก เพราะพวกระดับสูงที่อยู่รอบๆ กำลังมองมาที่พวกเขาจริงๆ
“ นั่น…มันเป็นสมบัติของประเทศ ฉันไม่มีอำนาจที่จะนำมันมาวางเดิมพันได้ ” ฉางกวนผิงพูดอ้างขึ้นด้วยความกังวล เรื่องนี้มันสำคัญมาก ต่อให้มั่นใจแค่ไหนเขาก็ไม่กล้าตัดสินใจ
“ ฉันอนุญาต! ”
“ ฉันก็อนุญาต !”
!!
คำพูดของต้วนมู่เฉียน และท่านผู้นำ ทำให้ทุกคนหันไปมองด้วยความตกใจ โดยเฉพาะฉางกวนผิง เขารู้สึกหัวเราะก็ไม่ได้ร้องไห้ก็ไม่ออก สีหน้าของเขาดูตลกมาก
‘ อนุญาตบ้านคุณสิ…ทั้งหมดนั่นมันเป็นของฉัน ไม่ใช่ของพวกคุณนี่ ’
“ ตอนนี้คุณมีอำนาจตัดสินใจแล้ว…ว่ายังไง กล้าเดิมพันไหม ส่วนนี่ก็เป็นสิ่งที่ฉันใช้เดิมพัน คุณเอาไปดูแล้วรีบตัดสินใจเถอะ ” จ้าวเทียนพูดขึ้นด้วยสีหน้าไร้อารมณ์ เขาส่งกระดาษแผ่นหนึ่งให้ฉางกวนผิง
!!
‘ นี่มัน…ยานบินล่องหนของสหรัฐอเมริกา ’
สิ่งที่อยู่บนประดาษแผ่นนั้นคือรูปและรายละเอียดคร่าวๆของยานบินล่องหนที่จ้าวเทียนยึดมา โดยที่ด้านล่างยังมีระบุไว้ด้วยว่า ยืมใช้ได้เพียงหนึ่งปีเท่านั้น แล้วต้องคืน
แต่ด้วยเวลาถึงหนึ่งปี มันก็คุ้มจนไม่รู้จะคุ้มยังไงแล้ว สำหรับความทะเยอทะยานของฉางกวนผิง ทำให้เขาเลิกลังเลทันที
“ ตกลง…ฉันจะเดิมพันกับคุณ ” ฉางกวนผิงตอบด้วยสีหน้ามั่นใจ
เมื่อได้ยินแบบนั้นจ้าวเทียนก็ยิ้มออกมาอย่างเย็นชา เขากลับไปนั่งดูภาพบนหน้าจอขนาดใหญ่ตรงกลาง
‘ อีกสิบห้านาที… ’
ห่างจากที่จ้าวเทียนนั่งอยู่ประมาณยี่สิบเมตร
ตรงที่นั่งโซนที่สองของเหล่ากองกำลังลับทั้งสี่ เมื่อพวกเขามองเห็นสิ่งที่จ้าวเทียนทำ ก็มีปฏิกิริยาตอบสนองแตกต่างกันไป แต่โดยรวมเกิน 80% อยู่ข้างจ้าวเทียน
เหตุผลที่เป็นเช่นนี้ เพราะพวกเขาคือผู้ฝึกยุทธ…
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จุติใหม่มหาเทพตี้เทียน