ท่ามกลางความพ่ายแพ้อย่างยับเยินของฝ่ายฉางกวนผิง การมาถึงของต้วนมู่เฉียนก็ได้จุดประกายความหวังให้พวกเขาอีกครั้ง
“ ผู้อาวุโส…คุณต้องจัดการพวกเขานะ หน่วยจู่โจม หน่วยสวาท และยังมีเฮลิคอปเตอร์อีกสิบลำ ทั้งหมดนี้เป็นสมบัติของประเทศเรา แต่กลับถูกจ้าวเทียนทำลายหมดแล้ว ”
“ แม้แต่ตัวฉันเองที่ออกปฏิบัติหน้าที่ อีกฝ่ายก็ยังไม่เห็นอยู่ในสายตา การที่เขาทำแบบนี้ถือว่าเป็นกบฏชัดๆ ” ฉางกวนผิงรีบพูดขึ้นอย่างรวดเร็ว
เมื่อพวกเฉินจิ้งได้ยินแบบนั้นก็ของขึ้นทันที แต่ก่อนที่พวกเขาจะได้พูดอะไรออกไป ก็โดนจ้าวเทียนยกมือห้ามไว้ก่อน
ต้วนมู่เฉียนที่เห็นแบบนั้นก็พยักหน้าอย่างชื่นชม จากนั้นแววตาของเขาก็เปลี่ยนเป็นเย็นชา แล้วมองมายังฉางกวนผิงที่กำลังพูดแก้ตัวอยู่
“ เจียงฮุ่ย…นายล่ะ มีอะไรจะพูดไหม ” ต้วนมู่เฉียนถามออกมาด้วยสีหน้าเรียบเฉย
“ ผม…ผมยอมรับผิดทุกอย่างครับ เรื่องในวันนี้เป็นพวกผมที่เริ่มก่อนเอง ” เจียงฮุ่ยก้มหัวขอโทษแล้วพูดขึ้นเสียงดัง แววตาของเขาสั่นไหวด้วยความหวาดกลัว ตัวเขาทำงานด้านข่าวกรอง ย่อมมีความคิดที่ฉับไว แตกต่างจากฉางกวนผิง
‘ มันจบแล้ว…การที่ต้วนมู่เฉียนปรากฎตัวออกมาทันทีหลังจากทุกอย่างจบลง ย่อมแสดงว่าเขารู้เห็นทุกอย่างตั้งแต่แรก ’
‘ ต่อให้ฉันดิ้นรนแก้ตัวยังไงก็ไร้ประโยชน์…มีแต่ต้องแสดงความรับผิดชอบอย่างตรงไปตรงมา จึงจะสามารถลดโทษทัณฑ์ของตัวเองได้ ’
“ เจียงฮุ่ย…แกพูดบ้าอะไร พวกมันต่างหากที่ผิด พวกมันจับลูกชายฉันไว้เป็นตัวประกัน และยังรวมถึงตำรวจพวกนั้นอีก ” ฉางกวนผิงพูดขึ้นเสียง เขาผลักอกเจียงฮุ่ยด้วยความโมโห
ผลั่ก!
เจียงฮุ่ยถูกผลักเซไปด้านข้างจนเกือบล้ม แต่เขาก็ไม่ตอบโต้ ยังคงยืนนิ่งอยู่ในท่าก้มหัวขอโทษเหมือนเดิม
ต้วนมู่เฉียนที่เห็นแบบนั้นก็ถอนหายใจยาว แล้วพูดขึ้น
“ ฉางกวนผิง…นายทำงานให้ฉันมากี่ปีแล้ว ”
“ นี่…ถ้านับตั้งแต่ขึ้นเป็นพลเอกก็สิบสี่ปีครับ ” ฉางกวนผิงตอบออกมาด้วยความสับสน ทำไมอีกฝ่ายถึงถามมาแบบนี้
“ สิบสี่ปีแล้วเหรอ…ฉันจำได้ว่านายกับเจียงฮุ่ยได้รับการแต่งตั้งพร้อมกัน พวกนายในตอนนั้นยึดมั่นในอุดมการณ์ ทำทุกอย่างเพื่อส่วนรวมและประเทศ พวกนายสองคนเป็นผู้ที่โดดเด่นที่สุดในรุ่นเดียวกัน ”
“ เพราะเหตุนี้…ฉันถึงแต่ตั้งพวกนายขึ้นมาดำรงตำแหน่งสูงสุดของกองทัพ ” ต้วนมู่เฉียนพูดออกมาด้วยสีหน้าจริงจัง
เจียงฮุ่ยที่ได้ยินแบบนั้น ยิ่งก้มหัวต่ำกว่าเดิม แผ่นหลังของเขาสั่นสะท้านขึ้นเล็กน้อย
ส่วนฉางกวนผิงกลับแสดงออกต่างไปจากเจียงฮุ่ย เขายืดตัวขึ้นแล้วยิ้มออกมาอย่างถือดี คิดว่าที่ต้วนมู่เฉียนพูดมาเป็นคำชม
“ ตอนนั้นต้องขอบคุณผู้อาวุโสจริงๆ…ที่มอบโอกาสให้ผม ดังนั้นตลอดเวลาที่ผ่านมาเพื่อไม่ให้ผู้อาวุโสผิดหวัง ผมจึงตั้งใจทำงานรับใช้ประเทศอย่างสุดกำลังเลยนะครับ ” ฉางกวนผิงพูดขึ้นด้วยรอยยิ้ม
“ ฝูหมิง…เอาเอกสารพวกนั้นให้ฉางกวนผิงดูซิ ” ต้วนมู่เฉียนพูดออกมาเบาๆ หวังฝูหมิงที่ยืนอยู่ด้านข้าง ก็ส่งเอกสารปึกหนึ่งให้ฉางกวนผิงทันที
“ ผู้อาวุโส…คุณควรจะลงโทษพวกจ้าวเทียนก่อนนะ แล้วถึงมาคุยเรื่องงานกัน ” ฉางกวนผิงพูดออกมาด้วยสีหน้าไม่พอใจเล็กน้อย ก่อนที่จะหยิบเอกสารพวกนั้นมาอ่านดู
ผ่านไปเพียงครู่เดียว
ทุกครั้งที่พลิกเปิดเอกสารไปหน้าถัดไป สีหน้าของฉางกวนผิงก็ซีดลงเรื่อยๆ มือของเขาสั่นเทาอย่างเห็นได้ชัด
ฟุ่บ!
เอกสารปึกนั้นหลุดมือร่วงลงบนพื้นจนหมด
“ คุณรู้… ”
“ ใช่…แผนการของพวกนาย ฉันรู้ทุกอย่าง แต่ที่ฉันยังไม่ทำอะไร ก็เพราะต้องการจะให้โอกาสสำนึกตัว เพราะฉันเสียดายความสามารถของพวกนาย ”
“ ตอนที่ฉันให้ฝูหมิงตรวจสอบพวกนาย…นั่นเป็นการเตือนครั้งที่หนึ่ง หลังจากนั้นการแต่งตั้งจ้าวเทียนขึ้นเป็นผู้บัญชาการหน่วยเซียนเทียน นั่นถือเป็นคำเตือนครั้งที่สอง ”
“ แต่ฉันไม่นึกเลยว่า…สุดท้ายนายก็ยังไม่รู้สำนึกเหมือนเดิม ” ต้วนมู่เฉียนพูดออกมาด้วยน้ำเสียงเย็นชา
“ ผู้อาวุโส…ได้โปรดขอโอกาสให้ผมอีกครั้ง ” ฉางกวนผิงก้มหัวขอร้องอย่างจริงจัง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จุติใหม่มหาเทพตี้เทียน