หลังจากเปิดศึกได้สิบนาที การต่อสู้ของเหล่าปรมาจารย์ก็ทวีความดุเดือดขึ้นทุกครั้ง สนามรบของพวกเขาจำเป็นต้องแยกออกจากคนอื่น เพื่อป้องกันความเสียที่เกิดขึ้นโดยไม่จำเป็น
เปรี้ยง ตูมมมม!
เงาร่างสองสายได้ปะทะและแยกออกอย่างรวดเร็ว ดาบใหญ่สองคมของแม่ทัพฉินโฮว่หมิงฟันเข้าใส่จ้าวเทียนอย่างถี่รัว กระแสปราณอันน่าหวาดกลัวระเบิดออกไปรอบด้าน
เปรี้ยงๆๆๆ บูมมม!
กระบี่ในมือของจ้าวเทียนวาดเป็นวงโคจรอย่างสวยงาม ปัดป้องการโจมตีทุกอย่างในคราวเดียว ความตระหนักรู้ในศาสตร์กระบี่ของเขาเพิ่มพูนขึ้นอย่างต่อเนื่อง
บนพื้นดินด้านล่าง มีซากศพปรมาจารย์ขั้นต่ำของกองกำลังเงาปีศาจสองคนกองอยู่ พวกเขาถูกฟันขาดเป็นชิ้นๆเพราะประเมินตัวเองสูงเกินไป
คิดหลบเร้นเข้าหาจ้าวเทียนจากด้านหลัง สุดท้ายจึงถูกสังหารในพริบตา จนทำให้พวกที่เหลือไม่กล้าทดลองอีก
สำหรับจ้าวเทียนในตอนนี้ การสังหารปรมาจารย์ขั้นต่ำลำบากเพียงยกมือเท่านั้น แม้แต่ปรมาจารย์ขั้นกลางอย่างแม่ทัพฉินโฮว่หมิง หากไม่ใช่เพราะมีผู้อาวุโสฉินซู่โหวคอยช่วยประสาน ก็คงถูกจ้าวเทียนสังหารทิ้งไปแล้ว
ตอนนี้ปรมาจารย์ขั้นต่ำที่เหลืออีกสี่คน จึงทำได้แค่ใช้กระบวนท่าโจมตีจากระยะไกล เข้าก่อกวนจ้าวเทียนเท่านั้น
“ บัดซบ…ฉันไม่เชื่อว่าพวกเราจะฆ่าแกคนเดียวไม่ได้ ” ฉินโฮว่หมิงตะโกนออกมาด้วยความเดือดดาล
“ เคล็ดอสูรสงคราม!! ”
ครืนนน!
ปราณสีแดงอันดุดันและจิตสังหารอันเกรี้ยวกราด ระเบิดออกมาจากร่างของเขา กล้ามเนื้อขยายตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว
อ้ากก!
เมื่อดวงตาของแม่ทัพฉินโฮว่หมิงเปลี่ยนเป็นสีแดงฉาน ร่างจำแลงอสูรหมาป่าสวมเกราะก็ปรากฏขึ้นด้านหลัง
นี่คือเคล็ดวิชาเดียวกับที่แม่ทัพตาเดียวเคยใช้ มันถูกถ่ายทอดให้กับแม่ทัพระดับสูงในแคว้นต้าฉินทุกคน
เคล็ดวิชานี้เป็นเสมือนไม้ตายสุดท้าย ที่จะถูกใช้ในยามวินาทีเป็นตายเท่านั้น เนื่องจากเป็นการเผาผลาญปราณโลหิตของตนเอง ทำให้อายุขัยสั้นลง
โฮกกก
“ เจ็ดดาบตระกูลฉิน! ”
เมื่อดาบใหญ่ของแม่ทัพฉินโฮว่หมิงฟันออกมา ปราณดาบสีแดงเจ็ดสายระเบิดเข้าใส่จ้าวเทียนพร้อมกัน
ตอนนี้แหละ!
ปรมาจารย์ทั้งสี่คนที่รออยู่ ก็ได้เลือกจังหวะนี้ลงมือพร้อมกันทันที พวกเขาทะยานร่างเข้าใส่จ้าวเทียนจากสี่ทิศทาง
“ ฆ่ามัน! ”
“ อ่อนหัด! ” จ้าวเทียนพูดเสียงเบา เขาถีบตัวพุ่งไปด้านหน้า พร้อมกับกระบี่ในมือที่ถูกวาดออกไป
“ วงจรกระบี่! ”
เปรี้ยงงงๆๆๆ ตูมมมม
การโจมตีทุกอย่างเหมือนจมหายไปในม่านพลังไร้รูป ที่เกิดจากวิถีกระบี่ของจ้าวเทียน พวกมันไม่อาจฝ่าเข้ามาถึงตัวเขาได้แม้แต่น้อย
ทันใดนั้น
ผู้อาวุโสฉินซู่โหว ก็ทะยานร่างเข้าใส่จ้าวเทียนจากมุมอับสายตา แววตาของเขาทอประกายเจิดจ้า จิตสังหารระเบิดออกมาในพริบตาเดียว
“ เงามัจจุราชล่าโลหิต! ”
บูมมมม!
กลิ่นคาวเลือดฟุ้งกระจาย หมอกสีแดงปกคลุมรัศมีสิบเมตรรอบด้าน จากนั้นมันก็เปลี่ยนเป็นเคียวขนาดยักษ์ตวัดเข้าใส่ลำคอของจ้าวเทียนอย่างรวดเร็ว
!!
‘ มาได้ดี…แต่ถ้าจะฆ่าฉัน มันยังไม่พอ ’
ช่วงเสี้ยววินาทีนั้น นัยน์ตาของจ้าวเทียนก็หดเล็กลง หมัดซ้ายของเขากำแน่น แล้วเหวี่ยงออกไปด้านหลังโดยไม่หันไปมอง
เปรี้ยง!
ชั่วขณะหนึ่ง ภาพในสายตาทุกคนที่จับตามองอยู่เหมือนช้าลง สามารถมองเห็นหมัดของจ้าวเทียนประทะเข้ากับเคียวยักษ์สีแดงอย่างช้าๆ
ครืนนน!
คลื่นพลังจากการปะทะที่ระเบิดออกมา ได้ทำลายทั้งเคียวยักษ์และหมอกสีแดงสลายไปพร้อมกัน โดยที่หมัดของจ้าวเทียนเกิดบาดแผลตื้นเพียงแค่รอยเล็กๆเท่านั้น
ความแข็งแกร่งของร่างกายเขาตอนนี้ ต่อให้ไม่มีพลังเซียนก็สามารถใช้มือเปล่าปะทะกับอาวุธกึ่งเทพได้โดยไม่ตกเป็นรอง
แต่ทว่า
นี่กลับเป็นเพียงแผนการที่ผู้อาวุโสฉินซู่โหววางไว้แต่แรก เขาได้เตรียมกระบวนท่าสังหารที่แท้จริงเอาไว้แล้ว
ในตอนที่หมัดของจ้าวเทียนปะทะกับเคียวยักษ์สีแดง เขาก็ซัดตะปูสีดำฉาบพิษร้ายสามอันออกไปในพริบตา ขอแค่มันสัมผัสถูกผิวหนังก็จะสามารถคร่าชีวิตปรมาจารย์ได้ทันที
“ ตะปูพิษศพทมิฬ! ”
เฟี้ยวๆๆๆ
ฉึก!ๆๆ
ตะปูทั้งสามเล่มพุ่งเข้าใส่ไหล่ซ้ายของจ้าวเทียน และจมลึกลงไปเพียงเล็กน้อย ก่อนจะดีดกลับออกมา และตกลงบนพื้นด้านล่าง
“ ฮ่า ฮา…ในที่สุดฉันก็ฆ่าแกได้ นี่คืออาวุธลับสังหารที่ฉันซื้อมาจากสำนักเซียน ด้วยหินวิญญาณระดับกลางถึงห้าร้อยก้อน ”
“ ตอนแรก…ฉันคิดว่าจะเก็บไว้ใช้ กับไอ้แก่ไม่ยอมตายของตระกูลฉิน แต่ใช้กับแกตอนนี้มันก็ดีกว่าแน่นอน เพราะแกมันเป็นตัวอันตรายเกินไป สมควรตายยิ่งกว่าไอ้แก่นั่นเสียอีก ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จุติใหม่มหาเทพตี้เทียน