จวนเจ้าเมืองแห่งเมืองหยกเขียว
สถานที่แห่งนี้ตั้งอยู่ตรงจุดศูนย์กลางของเมือง เป็นหมู่ตึกขนาดใหญ่ที่ถูกล้อมรอบไปด้วยกำแพงหนาและเขตอาคมป้องกันระดับสูง
ถึงแม้ตัวเจ้าเมืองจะไร้อำนาจในการบริหารเมืองแห่งนี้ แต่ทางสำนักคุนหลุนก็ให้การดูแลเขาเป็นอย่างดี เพราะอย่างไรเขาก็เป็นตัวแทนของราชวงศ์ฉิน ซึ่งเป็นผู้ปกครองแคว้นทั้งหมด
ตอนนี้กองทัพรักษาเมืองสองหมื่นคนได้ตั้งขบวนทัพป้องกัน สถานที่แห่งนี้เอาไว้อย่างแน่นหนา ส่วนด้านของเจ้าเมืองและครอบครัวนั้นได้ถูกองครักษ์พาไปหลบยังสถานที่ปลอดภัยเรียบร้อย
ตูมมม!
เปรี้ยงง!
ในเมืองหยกเขียวตอนนี้ ได้เกิดเสียงระเบิดดังสนั่น จากการปะทะกันของกองกำลังที่บุกเข้ามากับทหารรักษาเมือง
ถือเป็นโชคดีที่ประชาชนทุกคนปฏิบัติตามคำสั่งของเจ้าหน้าที่อย่างเคร่งครัด พวกเขาพากันเก็บซ่อนตัวอยู่ในบ้านของตน พร้อมทั้งปิดตายทางเข้าออกเอาไว้ ไม่ให้มีผู้ใดเข้ามาได้ เพราะแบบนี้จึงช่วยลดจำนวนผู้เสียชีวิตไปได้มาก
“ หืม…ดูเหมือนพวกแกจะหาทางรับมือได้อย่างรวดเร็วเลยนี่ ” แม่ทัพชราแห่งแคว้นต้าฉินพูดออกมาด้วยท่าทีไม่ใส่ใจนัก
ตอนแรกเขาก็นึกสงสัยอยู่บ้าง ว่าทำไมตลอดทางที่บุกเข้ามา ไม่พบทหารรักษาเมืองแม้แต่คนเดียว ที่แท้อีกฝ่ายก็มาตั้งขบวนทัพรออยู่ตรงนี้หมดแล้ว
หลังจากที่แม่ทัพชราและกองกำลังชุดดำอีกเจ็ดพันคนมาถึง ทหารรักษาเมืองทั้งสองหมื่นคนก็คว้าคันธนูขึ้นมา แล้วง้างสายธนูเล็งเป้าไปที่พวกเขาอย่างพร้อมเพียง
ที่ด้านหน้าของกองทัพรักษาเมือง มีชายฉกรรจ์ผู้หนึ่งสวมชุดแม่ทัพสีเงิน นั่งอยู่บนหลังม้าสีขาวปลอดดูสง่างาม เขามองดูแม่ทัพชราและกองกำลังเจ็ดพันคนด้วยแววตาแปลกๆ
‘ คนพวกนี้…ไม่ได้รู้ตัวเลยว่ากำลังจะเจอกับอะไร ทำให้ฉันรู้สึกสมเพชพวกเขาจริงๆ ’
จากนั้น แม่ทัพเกราะเงินก็ชักดาบออกมาชี้ตรงไปเบื้องหน้าแล้วตะโกนขึ้นเสียงดัง
“ ยิง! ”
ฟุ่บ!ๆๆๆๆๆๆๆ
ลูกธนูหลายหมื่นดอกพุ่งขึ้นไปบนท้องฟ้า แล้วตกลงมาดุจห่าฝนปกคลุมกองกำลังชุดดำของแม่ทัพชราไว้ทั้งหมด
นี่เป็นยุทธวิธีไว้ต่อกรกับกองกำลังผู้ฝึกตนโดยเฉพาะ ในบรรดาลูกธนูสองหมื่นดอก มีบางส่วนได้ถูกยิงออกมาโดยผู้เชี่ยวชาญซึ่งได้แฝงไปด้วยพลังปราณอันแข็งแกร่ง
“ แย่แล้ว…ลูกธนูอุกกาบาต พวกมันมีของแบบนี้ได้อย่างไร ”
แม่ทัพชราร้องออกมาด้วยความตกใจ เขามองเห็นว่าในบรรดาลูกธนูทั้งหมด มีเกือบพันดอกที่มีหัวเป็นโลหะสีดำเต็มไปด้วยรังสีสังหาร
ปกติแล้วลูกธนูอุกกาบาตหนึ่งดอกจะมีมูลค่าเทียบเท่ากับหินวิญญาณระดับต่ำสิบก้อน นับเป็นอาวุธสงครามที่หายากและมีมูลค่าสูงมาก อีกทั้งยังเป็นสิ่งที่ถูกควบคุมการผลิตอย่างเคร่งครัด ไม่มีทางที่คนทั่วไปจะหาซื้อได้
แม้แต่คลังอาวุธแห่งแคว้นต้าฉิน ยังมีลูกธนูนี้เพียงไม่กี่หมื่นดอกเท่านั้น
ด้วยพลังของธนูอุกกาบาต มันรุนแรงยิ่งกว่ากระสุนเจาะเกราะของอาวุธปืนสมัยใหม่เสียอีก ต่อให้เป็นสนามพลังของปรมาจารย์ ก็สามารถทะลวงเข้าไปได้
ทันใดนั้น
ชายหนุ่มผู้เป็นกุนซือของกองทัพโจร หยิบเอากระดองเต่าที่แตกหักขึ้นมาด้วยสีหน้าเคร่งเครียด เขารีบโยนมันขึ้นไปบนฟ้าต้านรับฝนธนูพวกนั้นไว้
แวบบ!
กระดองเต่าเปล่งแสงสว่างอันเจิดจ้าออกมาก่อนจะสลายไป เกิดเป็นม่านพลังขนาดใหญ่ปกคลุมกองกำลังชุดดำทั้งหมด
เปรี้ยงง!ๆๆๆๆๆๆๆ
ครืนนนน!
เมื่อโดนฝนธนูตกเข้าใส่ ม่านพลังก็สั่นกระเพื่อมอย่างแรง โดยเฉพาะเมื่อเป็นลูกธนูสีดำ มันได้ทำให้ม่านพลังเกิดรอยร้าวขึ้นมากมาย แต่ก็ยังคงสามารถฝืนป้องกันเอาไว้ได้
“ ท่านแม่ทัพ…กระดองเต่านั้นเป็นถึงสมบัติเวทย์ระดับหก ที่มีมูลค่าเท่ากับหินวิญญาณระดับกลางหนึ่งร้อยห้าสิบก้อน ฉันจะจดลงบัญชีของคุณก็แล้วกัน ” กุนซีหนุ่มพูดขึ้นด้วยใบหน้าซีดขาว
แม้ว่าตัวเขาจะเป็นถึงปรมาจารย์ขั้นกลาง แต่การที่จะรักษาม่านพลังเอาไว้ได้ ต้องใช้พลังปราณของเขาไปถึงหกส่วนเลยทีเดียว
“ ไม่ต้องห่วง…หากเรายึดเมืองนี้ได้ ฉันจะตอบแทนนายเป็นสองเท่าเลย ” แม่ทัพชราพูดขึ้นด้วยท่าทีผ่อนคลาย
“ ดี…คุณอย่าลืมสิ่งที่พูดก็แล้วกัน ”
แต่ยังไม่ทันที่พวกเขาจะได้พูดคุยกันต่อ ฝนธนูก็ถาโถมเข้าใส่อีกครั้ง และเป็นเช่นเดิมมันมีลูกธนูอุกกาบาตแฝงมาด้วย
“ นี่มันบ้าอะไรกัน…พวกแกไปเอาลูกธนูอุกกาบาตมาจากไหนเยอะแยะ ” แม่ทัพชราพูดขึ้นด้วยความตกใจ
“ ถ้าไม่อยากตาย ก็รีบถ่ายทอดพลังมาให้ฉันเร็ว ” กุนซือหนุ่มพูดขึ้นด้วยความร้อนรน ตอนนี้เขารู้สึกเสียใจขึ้นมาแล้ว ที่ยอมร่วมมือในแผนการครั้งนี้
ด้วยพลังจากปรมาจารย์ทั้งยี่สิบคน ทำให้พวกเขาสามารถต้านทานฝนธนูในรอบที่สองได้ แต่ก็เป็นเหมือนเดิม ยังไม่ทันที่พวกเขาจะได้ดีใจ ฝนธนูรอบที่สามก็ถาโถมลงมาอีกครั้ง
และยังมีครั้งที่สี่ ครั้งที่ห้า ครั้งที่หก…
จนกระทั่งเมื่อฝนธนูรอบที่สิบมาถึง แม่ทัพชราและกองกำลังของเขาก็ทิ้งอาวุธลงด้วยความสิ้นหวัง พวกเขาไม่มีอะไรจะใช้ป้องกันได้อีกแล้ว
ตั้งแต่รอบที่แปด กุนซือหนุ่มเส้นชีพจรแตกตาย เพราะทนรับพลังปราณมหาศาลไม่ไหว ส่วนในรอบที่เก้าพวกเขาทุกคนก็ใช้อาวุธเวท และเคล็ดวิชาช่วยชีวิตไปจนหมด
ไม่ใช่ว่าไม่มีคนคิดหนี ก่อนหน้านี้มีหลายคนแยกตัวกันหลบหนี แต่ก็ถูกลูกธนูอุกกาบาตสังหารจนหมด ตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ที่กองกำลังรักษาเมืองได้ปิดล้อมพวกเขาเอาไว้หมดแล้ว
เมื่อฝนธนูรอบที่สิบมาถึง กองกำลังทั้งเจ็ดพันคนก็ถูกสังหารลงจนหมด ไม่มีผู้ใดรอดชีวิตออกไปได้แม้แต่คนเดียว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จุติใหม่มหาเทพตี้เทียน