จุติใหม่มหาเทพตี้เทียน นิยาย บท 257

เมื่อต้องเผชิญหน้ากับบุคคลผู้เป็นตำนานอย่างเทพกระบี่ ภายในใจของเซียนขั้นสูงสุดและเซียนขั้นสูงทั้งสามสิบคนเริ่มรู้สึกกดดันขึ้นมา

พวกเขาแตกต่างจากผู้นำสมาพันธ์ทั้งสามที่มีขั้นฝึกตนสูงส่ง ย่อมต้องระมัดระวังตัวเองเป็นอย่างดี ในอดีตเทพกระบี่เคยใช้ขอบเขตเซียนขั้นสูงสุดเอาชนะเจ้าสำนักง้อไบ๊และช้วนจินก่ารุ่นก่อนได้

แล้วในตอนนี้ ที่เทพกระบี่บรรลุครึ่งก้าวเซียนนภาล่ะ ความแข็งแกร่งของเขาจะเพิ่มสูงถึงขนาดไหน ไม่มีใครอยากใช้ชีวิตตัวเองเป็นหนูทดลองให้คนอื่นหรอกนะ

“ หน่วยล่าสังหาร…ใช้ค่ายกลประสานตรึงเทพกระบี่เอาไว้ ส่วนผู้อาวุโสคุมกฎทั้งสิบคน ร่วมมือกับฉันสังหารจ้าวเทียน ” นักพรตฮวยเหล็งออกคำสั่งผ่านช่องทางพิเศษให้มีแต่ฝ่ายเขาที่ได้ยิน

!!

“ รับคำสั่ง! ”

แววตาของเซียนขั้นสูงสามสิบคนเปลี่ยนเป็นดุดัน พวกเขาไม่สามารถขัดคำสั่งได้ ไม่อย่างนั้นคงมีจุดจบเลวร้ายยิ่งกว่าตายแน่นอน

ทางฝ่ายจ้าวเทียนและเทพกระบี่ เมื่อพวกเขาสัมผัสได้ถึงจิตสังหารและบรรยากาศที่เปลี่ยนไป ก็รู้ได้ในทันทีว่าอีกฝ่ายเตรียมพร้อมจะลงมือแล้ว

“ สหายน้อย…ฉันได้ยินมาว่านายฝึกวิชาเก้ากระบี่เดียวดายสำเร็จแล้วใช่ไหม ช่วยแสดงมันให้ฉันดูหน่อยสิ ” เทพกระบี่พูดขึ้นด้วยรอยยิ้ม จากนั้นก็เรียกกระบี่เหล็กดำออกมาถือไว้ในมือ

“ ไม่มีปัญหา…ฉันเองก็กำลังอยากได้รับคำชี้แนะจากคุณอยู่พอดี ” จ้าวเทียนตอบรับทันที เขาดูออกว่าฝ่ายตรงข้ามกำลังคิดจะแยกพวกเขาออกจากกัน แล้วค่อยร่วมมือกันจัดการไปทีละคน

‘ ถ้าเดาไม่ผิด…เป้าหมายแรกคเป็นตัวฉันเอง แต่น่าเสียดายที่พวกแกคงไม่มีทางทำได้สำเร็จ ’

ทันใดนั้น

“ ลงมือ! ”

สิ้นเสียงอาณาเขตไท่จี๋ก็ได้ปกคลุมท้องฟ้า สัญลักษณ์หยินหยางขนาดใหญ่ซ้อนทับตรงจุดที่จ้าวเทียนอยู่

ด้วยการประสานของกฎหยินหยางต้นกำเนิดแห่งจักรวาล มันได้แบ่งแยกจ้าวเทียนและเทพกระบี่ออกจากกัน เหมือนอยู่คนละมิติ

แวบ!

หน่วยล่าสังหารทั้งยี่สิบคนที่คอยท่าอยู่แล้ว ได้สลายร่างกลายเป็นหมอกดำปิดล้อมเทพกระบี่ไว้ด้วยค่ายกลประสาน

ความรวดเร็วของพวกเขานั้น เหนือกว่าเซียนขั้นสูงสุดทั้งสิบคนมาก เพราะได้รับการฝึกฝนมาอย่างเข้มงวดตั้งแต่จำความได้

ก่อนที่ผู้อาวุโสคุมกฎซึ่งเป็นเซียนขั้นสูงสุดทั้งสิบคนจะได้ โจมตีเข้าใส่จ้าวเทียน หน่วยล่าสังหารก็ได้ประชิดตัวเทพกระบี่แล้ว

“ เงาทมิฬสังหาร! ”

หมอกดำได้เปลี่ยนเป็นเคียวมัจจุราช ฟาดฟันเข้าใส่ตำแหน่งที่เทพกระบี่อยู่ทั่วทิศทาง จนแทบจะไม่มีช่องว่างให้หลบหนี

ชั่วขณะนั้น เหมือนกับเวลาได้หยุดลง

ฉัวะ!ๆๆๆๆๆๆๆ

ร่างของเทพกระบี่ถูกฟันเข้าใส่อย่างถี่รัวจนสลายไป เพราะมันเป็นเพียงภาพติดตาเท่านั้น…

!!

ทั้งเทพกระบี่และจ้าวเทียนไม่ได้อยู่ตรงนั้นแล้ว พวกเขาเคลื่อนไหวก่อนศัตรูเสียอีก เสี้ยววินาทีที่นักพรตฮวยเหล็งตะโกนออกมา

ร่างของเทพกระบี่และจ้าวเทียน ก็ได้ไปปรากฏขึ้นตรงหน้าสามผู้นำแห่งสมาพันธ์บู๊ลิ้มแล้ว ทั้งคู่คิดตรงกันโดยไม่จำเป็นต้องนัดหมาย

จับโจรต้องจับหัวหน้า…หากแม่ทัพตาย พวกทหารก็พ่ายแพ้ไปเอง

“ เก้ากระบี่เดียวดาย เคล็ดทำลายกระบี่! ”

“ เก้ากระบี่เดียวดาย เคล็ดทำลายกระบี่! ”

ทั้งจ้าวเทียนและเทพกระบี่โจมตีออกไปพร้อมกัน ด้วยสำนึกกระบี่ของเคล็ดวิชาเก้ากระบี่เดียวดาย และเจตน์แห่งกระบี่ ทำให้ความรุนแรงเพิ่มขึ้นอีกสามเท่า

เปรี้ยง!ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

เงากระบี่ดุจอัสนีบาตรเกรี้ยวกราดดุดันนับร้อย ทะลวงไปยังสามผู้นำสมาพันธ์อย่างรุนแรง มันแยกการโจมตีเข้าใส่ทุกทิศทางในแง่มุมที่พิศดาร

ครืนนนน! เพล้งง!

อานุภาพของมัน ทำให้มิติฉีกขาดพังทลายเป็นทางยาว เกิดเป็นรอยแยกสีดำดูดกลืนทุกอย่างที่อยู่ใกล้ๆ

“ บัดซบ! ช่วยกันป้องกันเร็ว ” นักพรตฮวยเหล็งตะโกนขึ้นอย่างร้อนใจ เหตุการณ์ทั้งหมดเพิ่งจะผ่านไปวินาทีเดียวเท่านั้น

ในตอนที่ภาพติดตาของเทพกระบี่และจ้าวเทียนสลายไป การโจมตีของทั้งสองคนก็มาถึงพวกเขาแล้ว

“ เคล็ดกระบี่ไท่เก๊ก! ”

“ เจ็ดดาวพิฆาต! ”

“ เคล็ดกระบี่อิงฟ้า! ”

ชั่วพริบตารังสีกระบี่สีทอง ได้แปรเปลี่ยนพญาหงส์เข้าสกัดเงากระบี่สังหาร นี่คือเคล็ดวิชากระบี่อิงฟ้าของเจ้าสำนักง้อไบ๊

แม้จะใช้ออกไปทีหลัง แต่กลับสำแดงอานุภาพออกมาก่อน…

แต่ทว่า

มันยังไม่เพียงพอ

เปรี้ยง!ๆๆๆๆๆ บูมมมมม!

หลังจากพญาหงส์สลายไป สัญลักษณ์หยินหยางขนาดใหญ่และแผนภูมิเจ็ดดาวก็ปรากฏขึ้นทับซ้อนกัน จนสามารถต้านทานเอาไว้ได้อย่างหวุดหวิด

แม้จะตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบตั้งแต่แรก แต่ความแข็งแกร่งของสามผู้นำก็เป็นของจริง ตำแหน่งห้ายอดฝีมือแห่งยุค ไม่ใช่ได้มาเพราะโชคช่วย

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จุติใหม่มหาเทพตี้เทียน