จุติใหม่มหาเทพตี้เทียน นิยาย บท 265

ถึงแม้ว่าคังหลินจะเป็นถึงเทพโลกาห้าชั้นฟ้า แต่ร่างจำแลงที่เขาส่งมายังโลกมนุษย์นั้นเป็นเพียงเสี้ยววิญญาณที่สามารถแบ่งปันความทรงร่วมจำกัน ร่างต้นของเขาที่อยู่บนแดนสวรรค์ยังเก็บตัวฝึกวิชาอยู่อย่างปกติ

เท่ากับว่าทั้งร่างจำแลงและร่างต้นของเขา เปรียบเสมือนคนสองคน ที่สามารถคิดและตัดสินใจได้ด้วยตัวเอง

ทุกๆช่วงเวลาหนึ่ง พวกเขาทั้งคู่จะสามารถแบ่งปันประสบการณ์ต่างๆที่ประสบพบเจอให้อีกฝ่ายได้รู้ เพียงแต่มันจะต้องสูญเสียพลังจิตของร่างจำแลงเป็นอย่างมาก ทำให้พวกเขาเลือกที่จะใช้เมื่อจำเป็นเท่านั้น

และในตอนนี้ เมื่อร่างจำแลงตื่นขึ้นมาพบกับความผิดปกติ ที่มีสองสาวนอนกอดอยู่ข้างกาย เขาก็ได้ส่งภาพเหตุการณ์นี้กลับไปหาร่างต้นทันที

ซึ่งมันก็ได้ทำให้ร่างต้นที่กำลังนั่งดื่มชาอยู่ ถึงกับพ่นน้ำชาออกมาด้วยความตกใจ

พรวดด!

!!

“ ไอ้เจ้าบ้านี่…นายจะพ่นน้ำชาใส่หน้าฉันทำไม ” หลิวจงเสียนพูดออกมาเสียงดังด้วยความโมโห จากนั้นก็รีบใช้พลังของตัวเอง กำจัดคราบน้ำชาที่เปื้อนอยู่บนใบหน้าออกไป

วันนี้เขาอุตส่าห์มาเยี่ยมศิษย์น้องรอง เพื่อปรึกษาเกี่ยวกับสถานการณ์ในสำนัก แต่เพิ่งจะคุยกันไปได้นิดเดียวก็เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นซะอย่างนั้น

“ ศิษย์พี่ใหญ่…ต้องขอโทษด้วย คือฉันไม่ได้ตั้งใจ ” คังหลินพูดขึ้นด้วยท่าทีร้อนรน

จากนั้นเขาก็ขอตัวออกไปจัดการธุระส่วนตัวครู่หนึ่ง ท่ามกลางสายตาไม่สบอารมณ์ของศิษย์พี่ใหญ่

‘ ดูเหมือนร่างจำแลงของฉัน…อยากจะตรวจสอบความทรงจำของเหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้นเมื่อคืนนี้ ’

ด้วยขอบเขตเทพโลกาห้าชั้นฟ้าของร่างต้น ย่อมสามารถตรวจสอบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอดีตของร่างจำแลงได้ แม้ว่าอีกฝ่ายจะอยู่ในภาวะเมามายไม่ได้สติก็ตามที

ซึ่งหลังจากใช้เวลาเพียงหนึ่งลมหายใจ เขาก็สามารถรับรู้ถึงสิ่งที่เกิดขึ้นได้ทั้งหมด และรีบส่งข้อมูลนั้นกลับไปทันที

ในเวลาเดียวกันที่จวนเจ้าเมืองตระกูลฉิน

คังหลินที่นอนหลบตาอยู่ก็ลืมตาขึ้นมา ตอนนี้เขาเข้าใจเรื่องราวทั้งหมดแล้ว กลับกลายเป็นว่าเมื่อคืนพวกเขาฉลองกันต่อในห้องจนดึกดื่น

ทั้งเขาและองค์หญิงแคว้นต้าหมิงต่างเมามายกันเต็มที่ จนทั้งตัวเปียกปอนไปด้วยสุรา สุดท้ายพวกเขาก็ล้มฟุบหลับไปบนเตียง

จากนั้น องค์หญิงฉินฟ่านเออร์ก็เป็นคนถอดชุดเปียกๆของพวกเขาออกจนเหลือแต่ชุดชั้นใน แล้วเธอก็ห่มผ้าให้แถมยังถอดเสื้อชั้นนอกตัวเองออก แล้วมุดเข้ามานอนด้วยอีกคน

‘ เอาเถอะ…อย่างน้อยฉันก็ไม่ทำอะไรผิดพลาดไปล่ะนะ เพียงแต่ตอนนี้ฉันจะจัดการกับสถานการณ์ปัจจุบันยังไงดี ’

เขาค่อยๆหันหน้าไปทางซ้ายอย่างช้าๆ ก็พบกับองหญิงจูม่านฉีในสภาพกึ่งเปลือย นอนกอดแขนของเขาอยู่

ใบหน้ายามหลับใหลของเธอที่ปราศจากการปลอมแปลงโฉม นั้นน่ารักสดใสเป็นอย่างมาก เหมือนกับเทพธิดาที่ใสซื่อบริสุทธิ์

ประเด็นสำคัญอยู่ที่ภูเขาสองลูกที่เบียดอยู่กับต้นแขนของเขา ผู้หญิงคนนี้ช่างซ่อนรูปจริงๆ ก่อนหน้านี้เพราะเธอปลอมตัวเป็นชาย จึงใช้ผ้าขาวพันหน้าอกเอาไว้

แต่เมื่อคืนนี้ฉินฟ่านเออร์ได้คลายมันออกแบบหลวมๆ ทำให้ภาพที่ปรากฏในสายตาเขาตอนนี้มันวับๆแวมๆ เหมือนจะเห็นแต่ก็ไม่เห็น กระตุ้นอารมณ์ของเขาเป็นอย่างมาก

‘ บัดซบ…ร่างกายของฉันนี่มัน ’

คังหลินคิดขึ้นด้วยความอับอาย เขาสัมผัสได้ถึงบางส่วนของร่างกายเขาที่ตื่นขึ้นก่อนเจ้าของ จนมองเห็นได้ชัด

นี่เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ โดยที่เขาไม่อาจควบคุมได้ เหตุผลเพราะร่างกายนี้มันไม่ใช่ของเขามาตั้งแต่ต้น

ทั้งยังเป็นร่างกายของชายหนุ่มสุขภาพดี ที่มีอายุเพียงยี่สิบปีเท่านั้น

‘ ฉันต้องรีบออกไปจากตรงนี้ ก่อนที่พวกเธอจะตื่น ’

ในขณะที่เขากำลังค่อยๆขยับแขนของตัวเอง ออกมาอย่างช้าๆนั้นเอง

“ หืม…นายท่าน ชอบแบบนี้เองเหรอ ”

!!

เสียงกระซิบเบาๆ ทำให้คังหลินอ้าปากค้างด้วยความตกใจ

เขาหันกลับไปดูทางด้านขวาของตัวเอง ก็พบว่าฉินฟ่านเออร์กำลังลืมดวงตากลมโต มองดูพื้นที่บางส่วนของเขาด้วยรอยยิ้ม

สมองของคังหลินเหมือนลัดวงจรไปชั่วขณะหนึ่ง ตอนนี้เขารู้สึกอับอายมาก เพราะอีกฝ่ายเป็นคนที่เขาไม่อยากให้เห็นสถานการณ์ของตัวเองในตอนนี้มากที่สุด

แต่ด้วยประสบการณ์มากมายที่ผ่านมา เขาก็พอจะคาดเดาเรื่องราวออกได้ทันที

“ นี่เธอ…ทั้งหมดนี้เป็นฝีมือเธอสินะ ” คังหลินพูดออกมาเบาๆ

“ ชู่วว…พูดเบากว่านี้ นายท่านคงไม่อยากให้เธอตื่นมาพบภาพแบบนี้หรอกนะ ” ฉินฟ่านเออร์ยื่นหน้าไปกระซิบที่ข้างหูคังหลินเบาๆ ทำให้เขาสยิวกายขึ้นด้วยความหวาดเสียว

“ ยัยเจ้าเล่ห์…เธอทำแบบนี้มีจุดประสงค์อะไร ” คังหลินกัดฟันพูดออกมาเบาๆ เขาดึงแขนข้างหนึ่งออกมาจากวงแขนของฉินฟ่านเออร์ แล้วใช้พลังสร้างเขตอาคมเก็บเสียงแบบง่ายๆไว้ เพื่อป้องกันไม่ให้องค์หญิงจูม่านฉีได้ยิน

“ จุดประสงค์ของฉันงั้นเหรอ…ก็คือแต่งงานกับนายท่านยังไงล่ะ” ฉินฟ่านเออร์พูดขึ้นด้วยท่าทีล้อเลียน

“ อย่ามาเล่นตลกกับฉัน…บอกมาความจริงมาซะ ทำไมถึงต้อวดึงจูม่านฉีเข้ามาเกี่ยวด้วย ” คังหลินพูดออกมาด้วยความโมโห เขาสั่งให้พันธสัญญาทาสทำงานทันที

ทันใดนั้น ดวงตาของฉินฟ่านเออร์ก็เปลี่ยนเป็นเลื่อนลอยเหมือนไม่ได้สติ แล้วเริ่มพูดแผนการของตัวเองออกมาอย่างไม่ปิดบัง

“ ตามกฎของราชวงค์ต้าหมิง…องค์หญิงจะสามารถหลับนอนกับบุรุษที่เป็นพระสวามีได้เท่านั้น เมื่อเธอตื่นขึ้นมาแล้วพบว่านอนเปลือยกายอยู่กับนายท่าน ทางเลือกของเธอก็มีเพียงสองทาง หากไม่ฆ่าตัวตายก็ต้องแต่งงานกับนายท่าน ”

“ ฉันต้องการให้จูม่านฉีกลายเป็นผู้หญิงของนายท่าน เพื่อที่พวกเราจะได้รับการสนับสนุนจากเธออย่างเต็มที่ ”

“ จากนั้นเมื่อทั้งฉันและจูม่านฉีแต่งงานกับนายท่าน ฉันก็จะสามารถอาศัยอำนาจของแคว้นต้าหมิงช่วงชิงตำแหน่งรัชทายาทให้น้องชาย ”

คังหลินที่ได้ยินแบบนั้นก็มีสีหน้าเปลี่ยนไปเล็กน้อย แต่หลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งเขาก็ถามต่อ

“ บอกมา…เธอคิดจะใช้ฉันเป็นเครื่องมืองั้นเหรอ ถึงอยากแต่งงานกับฉันนัก คงไม่ได้คิดจะวางแผนควบคุมฉันหรอกนะ ”

“ ไม่ใช่…ฉันคิดใช้ประโยชน์จากนายท่านจริง แต่ไม่เคยคิดจะควบคุมนายท่านเลย นายท่านเป็นผู้ชายที่น่าสนใจที่สุดเท่าที่ฉันเคยพบมา ฉันอยากแต่งงานกับนายท่านด้วยใจจริง ”

เมื่อได้ยินแบบนี้คังหลินก็ถอนหายใจเบาๆ แล้วยกเลิกการใช้งานพันธสัญญาทาสทันที

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จุติใหม่มหาเทพตี้เทียน