ถึงแม้ว่าคังหลินจะเป็นถึงเทพโลกาห้าชั้นฟ้า แต่ร่างจำแลงที่เขาส่งมายังโลกมนุษย์นั้นเป็นเพียงเสี้ยววิญญาณที่สามารถแบ่งปันความทรงร่วมจำกัน ร่างต้นของเขาที่อยู่บนแดนสวรรค์ยังเก็บตัวฝึกวิชาอยู่อย่างปกติ
เท่ากับว่าทั้งร่างจำแลงและร่างต้นของเขา เปรียบเสมือนคนสองคน ที่สามารถคิดและตัดสินใจได้ด้วยตัวเอง
ทุกๆช่วงเวลาหนึ่ง พวกเขาทั้งคู่จะสามารถแบ่งปันประสบการณ์ต่างๆที่ประสบพบเจอให้อีกฝ่ายได้รู้ เพียงแต่มันจะต้องสูญเสียพลังจิตของร่างจำแลงเป็นอย่างมาก ทำให้พวกเขาเลือกที่จะใช้เมื่อจำเป็นเท่านั้น
และในตอนนี้ เมื่อร่างจำแลงตื่นขึ้นมาพบกับความผิดปกติ ที่มีสองสาวนอนกอดอยู่ข้างกาย เขาก็ได้ส่งภาพเหตุการณ์นี้กลับไปหาร่างต้นทันที
ซึ่งมันก็ได้ทำให้ร่างต้นที่กำลังนั่งดื่มชาอยู่ ถึงกับพ่นน้ำชาออกมาด้วยความตกใจ
พรวดด!
!!
“ ไอ้เจ้าบ้านี่…นายจะพ่นน้ำชาใส่หน้าฉันทำไม ” หลิวจงเสียนพูดออกมาเสียงดังด้วยความโมโห จากนั้นก็รีบใช้พลังของตัวเอง กำจัดคราบน้ำชาที่เปื้อนอยู่บนใบหน้าออกไป
วันนี้เขาอุตส่าห์มาเยี่ยมศิษย์น้องรอง เพื่อปรึกษาเกี่ยวกับสถานการณ์ในสำนัก แต่เพิ่งจะคุยกันไปได้นิดเดียวก็เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นซะอย่างนั้น
“ ศิษย์พี่ใหญ่…ต้องขอโทษด้วย คือฉันไม่ได้ตั้งใจ ” คังหลินพูดขึ้นด้วยท่าทีร้อนรน
จากนั้นเขาก็ขอตัวออกไปจัดการธุระส่วนตัวครู่หนึ่ง ท่ามกลางสายตาไม่สบอารมณ์ของศิษย์พี่ใหญ่
‘ ดูเหมือนร่างจำแลงของฉัน…อยากจะตรวจสอบความทรงจำของเหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้นเมื่อคืนนี้ ’
ด้วยขอบเขตเทพโลกาห้าชั้นฟ้าของร่างต้น ย่อมสามารถตรวจสอบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอดีตของร่างจำแลงได้ แม้ว่าอีกฝ่ายจะอยู่ในภาวะเมามายไม่ได้สติก็ตามที
ซึ่งหลังจากใช้เวลาเพียงหนึ่งลมหายใจ เขาก็สามารถรับรู้ถึงสิ่งที่เกิดขึ้นได้ทั้งหมด และรีบส่งข้อมูลนั้นกลับไปทันที
ในเวลาเดียวกันที่จวนเจ้าเมืองตระกูลฉิน
คังหลินที่นอนหลบตาอยู่ก็ลืมตาขึ้นมา ตอนนี้เขาเข้าใจเรื่องราวทั้งหมดแล้ว กลับกลายเป็นว่าเมื่อคืนพวกเขาฉลองกันต่อในห้องจนดึกดื่น
ทั้งเขาและองค์หญิงแคว้นต้าหมิงต่างเมามายกันเต็มที่ จนทั้งตัวเปียกปอนไปด้วยสุรา สุดท้ายพวกเขาก็ล้มฟุบหลับไปบนเตียง
จากนั้น องค์หญิงฉินฟ่านเออร์ก็เป็นคนถอดชุดเปียกๆของพวกเขาออกจนเหลือแต่ชุดชั้นใน แล้วเธอก็ห่มผ้าให้แถมยังถอดเสื้อชั้นนอกตัวเองออก แล้วมุดเข้ามานอนด้วยอีกคน
‘ เอาเถอะ…อย่างน้อยฉันก็ไม่ทำอะไรผิดพลาดไปล่ะนะ เพียงแต่ตอนนี้ฉันจะจัดการกับสถานการณ์ปัจจุบันยังไงดี ’
เขาค่อยๆหันหน้าไปทางซ้ายอย่างช้าๆ ก็พบกับองหญิงจูม่านฉีในสภาพกึ่งเปลือย นอนกอดแขนของเขาอยู่
ใบหน้ายามหลับใหลของเธอที่ปราศจากการปลอมแปลงโฉม นั้นน่ารักสดใสเป็นอย่างมาก เหมือนกับเทพธิดาที่ใสซื่อบริสุทธิ์
ประเด็นสำคัญอยู่ที่ภูเขาสองลูกที่เบียดอยู่กับต้นแขนของเขา ผู้หญิงคนนี้ช่างซ่อนรูปจริงๆ ก่อนหน้านี้เพราะเธอปลอมตัวเป็นชาย จึงใช้ผ้าขาวพันหน้าอกเอาไว้
แต่เมื่อคืนนี้ฉินฟ่านเออร์ได้คลายมันออกแบบหลวมๆ ทำให้ภาพที่ปรากฏในสายตาเขาตอนนี้มันวับๆแวมๆ เหมือนจะเห็นแต่ก็ไม่เห็น กระตุ้นอารมณ์ของเขาเป็นอย่างมาก
‘ บัดซบ…ร่างกายของฉันนี่มัน ’
คังหลินคิดขึ้นด้วยความอับอาย เขาสัมผัสได้ถึงบางส่วนของร่างกายเขาที่ตื่นขึ้นก่อนเจ้าของ จนมองเห็นได้ชัด
นี่เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ โดยที่เขาไม่อาจควบคุมได้ เหตุผลเพราะร่างกายนี้มันไม่ใช่ของเขามาตั้งแต่ต้น
ทั้งยังเป็นร่างกายของชายหนุ่มสุขภาพดี ที่มีอายุเพียงยี่สิบปีเท่านั้น
‘ ฉันต้องรีบออกไปจากตรงนี้ ก่อนที่พวกเธอจะตื่น ’
ในขณะที่เขากำลังค่อยๆขยับแขนของตัวเอง ออกมาอย่างช้าๆนั้นเอง
“ หืม…นายท่าน ชอบแบบนี้เองเหรอ ”
!!
เสียงกระซิบเบาๆ ทำให้คังหลินอ้าปากค้างด้วยความตกใจ
เขาหันกลับไปดูทางด้านขวาของตัวเอง ก็พบว่าฉินฟ่านเออร์กำลังลืมดวงตากลมโต มองดูพื้นที่บางส่วนของเขาด้วยรอยยิ้ม
สมองของคังหลินเหมือนลัดวงจรไปชั่วขณะหนึ่ง ตอนนี้เขารู้สึกอับอายมาก เพราะอีกฝ่ายเป็นคนที่เขาไม่อยากให้เห็นสถานการณ์ของตัวเองในตอนนี้มากที่สุด
แต่ด้วยประสบการณ์มากมายที่ผ่านมา เขาก็พอจะคาดเดาเรื่องราวออกได้ทันที
“ นี่เธอ…ทั้งหมดนี้เป็นฝีมือเธอสินะ ” คังหลินพูดออกมาเบาๆ
“ ชู่วว…พูดเบากว่านี้ นายท่านคงไม่อยากให้เธอตื่นมาพบภาพแบบนี้หรอกนะ ” ฉินฟ่านเออร์ยื่นหน้าไปกระซิบที่ข้างหูคังหลินเบาๆ ทำให้เขาสยิวกายขึ้นด้วยความหวาดเสียว
“ ยัยเจ้าเล่ห์…เธอทำแบบนี้มีจุดประสงค์อะไร ” คังหลินกัดฟันพูดออกมาเบาๆ เขาดึงแขนข้างหนึ่งออกมาจากวงแขนของฉินฟ่านเออร์ แล้วใช้พลังสร้างเขตอาคมเก็บเสียงแบบง่ายๆไว้ เพื่อป้องกันไม่ให้องค์หญิงจูม่านฉีได้ยิน
“ จุดประสงค์ของฉันงั้นเหรอ…ก็คือแต่งงานกับนายท่านยังไงล่ะ” ฉินฟ่านเออร์พูดขึ้นด้วยท่าทีล้อเลียน
“ อย่ามาเล่นตลกกับฉัน…บอกมาความจริงมาซะ ทำไมถึงต้อวดึงจูม่านฉีเข้ามาเกี่ยวด้วย ” คังหลินพูดออกมาด้วยความโมโห เขาสั่งให้พันธสัญญาทาสทำงานทันที
ทันใดนั้น ดวงตาของฉินฟ่านเออร์ก็เปลี่ยนเป็นเลื่อนลอยเหมือนไม่ได้สติ แล้วเริ่มพูดแผนการของตัวเองออกมาอย่างไม่ปิดบัง
“ ตามกฎของราชวงค์ต้าหมิง…องค์หญิงจะสามารถหลับนอนกับบุรุษที่เป็นพระสวามีได้เท่านั้น เมื่อเธอตื่นขึ้นมาแล้วพบว่านอนเปลือยกายอยู่กับนายท่าน ทางเลือกของเธอก็มีเพียงสองทาง หากไม่ฆ่าตัวตายก็ต้องแต่งงานกับนายท่าน ”
“ ฉันต้องการให้จูม่านฉีกลายเป็นผู้หญิงของนายท่าน เพื่อที่พวกเราจะได้รับการสนับสนุนจากเธออย่างเต็มที่ ”
“ จากนั้นเมื่อทั้งฉันและจูม่านฉีแต่งงานกับนายท่าน ฉันก็จะสามารถอาศัยอำนาจของแคว้นต้าหมิงช่วงชิงตำแหน่งรัชทายาทให้น้องชาย ”
คังหลินที่ได้ยินแบบนั้นก็มีสีหน้าเปลี่ยนไปเล็กน้อย แต่หลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งเขาก็ถามต่อ
“ บอกมา…เธอคิดจะใช้ฉันเป็นเครื่องมืองั้นเหรอ ถึงอยากแต่งงานกับฉันนัก คงไม่ได้คิดจะวางแผนควบคุมฉันหรอกนะ ”
“ ไม่ใช่…ฉันคิดใช้ประโยชน์จากนายท่านจริง แต่ไม่เคยคิดจะควบคุมนายท่านเลย นายท่านเป็นผู้ชายที่น่าสนใจที่สุดเท่าที่ฉันเคยพบมา ฉันอยากแต่งงานกับนายท่านด้วยใจจริง ”
เมื่อได้ยินแบบนี้คังหลินก็ถอนหายใจเบาๆ แล้วยกเลิกการใช้งานพันธสัญญาทาสทันที
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จุติใหม่มหาเทพตี้เทียน