เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้โทสะขององค์ชายใหญ่ปะทุขึ้นอย่างรุนแรง หัวใจของเขาเหมือนถูกเผาผลาญด้วยเปลวเพลิงแห่งความริษยา
การที่หญิงสาวที่เขาหมายปองมาตลอดเจ็ดปี โผเข้าสู่อ้อมกอดของชายอื่นก็เจ็บปวดพออยู่แล้ว แต่เรื่องนี้ก็พอเข้าใจได้ เพราะเขากับเธอเป็นพี่น้องต่างมารดาย่อมไม่สามารถครอบครองเธออย่างเปิดเผยได้
แต่กับจูม่านฉีนั้นแตกต่างกัน นอกจากเธอจะมีรูปโฉมที่ไม่ได้ด้อยไปกว่าน้องสาวของเขาแล้ว ศักดิ์ฐานะของเธอยังเหนือกว่าด้วยซ้ำ
เธอเป็นถึงองค์หญิงอันดับหนึ่งของแคว้นต้าหมิง ที่ฮ่องเต้ต้าหมิงทรงโปรดปรานที่สุด หากได้ครอบครองเธอก็หมายถึงการได้รับทรัพย์สมบัติมหาศาลจากแคว้นต้าหมิง ที่ได้ชื่อว่าเป็นแคว้นที่ร่ำรวยที่สุดในแผ่นดิน
และที่สำคัญที่สุด ตอนนี้ฮ่องเต้ทั้งสองแคว้นได้ทำข้อตกลงกันเป็นการลับว่าจะเชื่อมสัมพันธ์ด้วยการแต่งงานของราชวงศ์ ทำให้สถานะของจูม่านฉีในตอนนี้เหมือนเป็นคู่หมั้นขององค์ชายใหญ่ไปแล้ว
การที่ต้องทนดูคู่หมั้นของตนเองโผเข้าหาชายคนอื่น ทั้งยังเป็นคนเดียวกันกับคนที่ช่วงชิงหัวใจของน้องสาวเขาไปอีก
เรื่องแบบนี้ จะให้องค์ชายใหญ่ทนได้อย่างไร…
“ ม่านฉี…ถอยออกมาจากไอ้สวะนั่นซะ ” องค์ชายใหญ่กัดฟันพูดขึ้นด้วยแววตาดุดัน จิตสังหารของเขาระเบิดออกมาอย่างรุนแรง
ฟุ่บ!
ห้าผู้คุ้มกันขององค์หญิงจูม่านฉีปรากฏตัวขึ้นขวางหน้าองค์ชายใหญ่ไว้ทันที หน้าที่ของพวกเขาคือการปกป้ององค์หญิง สำหรับเรื่องใครผิดใครถูกนั้นพวกเขาไม่สนใจ
“ องค์ชายใหญ่…คุณคิดจะทำอะไรงั้นเหรอ ” หัวหน้าผู้คุ้มกันพูดเสียงเย็นชา เขาเองก็เป็นปรมาจารย์ขั้นสูงเช่นกัน ต่อให้สู้ตัวต่อตัวกับอีกฝ่ายไม่ได้
แต่พวกเขามีกันถึงห้าคน อย่างไรก็ไม่แพ้แน่นอน
“ พวกขี้ข้าหลบไปซะ…เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับพวกแก ” องค์ชายใหญ่ตวาดออกมาเสียงดัง สนามพลังปรมาจารย์ของเขาระเบิดออกมา
โฮกกก!
ร่างจำแลงมังกรอสูรสีดำ ปรากฏขึ้นด้านหลังของเขา แล้วขู่คำรามออกไปเสียงดัง
“ คุ้มกันองค์ชาย! ”
ทหารองครักษ์นับร้อยได้เคลื่อนไหวทันที พวกเขาเข้าล้อมทุกคนเอาไว้เป็นชั้นๆ อาวุธจำนวนนับไม่ถ้วนชี้ตรงไปที่พวกคังหลินอย่างประสงค์ร้าย
ขอเพียงเจ้านายของพวกเขาสั่งมาคำเดียว ก็พร้อมลงมือทันที
ตอนนี้ถึงแม้ว่าชายชุดเขียวและผู้บัญชาการองครักษ์จะพยายามห้ามปรามก็ไม่มีผลแม้แต่น้อย เพลิงโทสะขององค์ชายใหญ่ได้กลืนกินเหตุผลทุกอย่าง
“ องค์ชาย…คุณอย่าลืมว่าที่นี่ไม่ใช่เมืองหลวง ” คังหลินพูดขึ้นด้วยร้อยยิ้ม
พรึบ!
เพียงเขายกมือขึ้น กองกำลังเงาปีศาจนับร้อยที่แฝงตัวอยู่ ก็เข้าล้อมองครักษ์ของฝ่ายศัตรูทันที
การเผชิญหน้าของทั้งสองฝ่าย ทำให้บรรยากาศในสุสานบรรพชนทวีความตึงเครียดขึ้น นอกจากนี้ยังมีทหารยามส่วนหนึ่งรีบวิ่งออกไปรายงานเพื่อขอกำลังเสริมแล้ว
ซึ่งการกระทำของพวกเขาตกอยู่ในสายตาขององค์ชายใหญ่ทุกอย่าง แต่เขาก็ไม่อาจทำอะไรได้ เพราะหากเขาลงมือ จะถือเป็นการเปิดฉากสงครามทันที
“ ฉินหนาน ส่งตัวม่านฉีมาให้ฉันซะ แล้วฉันจะถือว่าเหตุการณ์นี้ไม่เคยเกิดขึ้น ไม่อย่างนั้นนายคงรู้นะ ว่าการหันอาวุธเข้าหาองค์ชายอย่างฉันมีโทษสถานใด ”
“ หืม…ให้ฉันส่งเธอออกไปงั้นเหรอ ” คังหลินพูดออกมาอย่างเฉยชา เขาหันไปกระซิบบางอย่างที่ข้างหูจูม่านฉี ทำให้เธอหน้าแดงด้วยความเขินอาย แล้วมองค้อนมาที่เขา
จากนั้นโดยที่ไม่มีผู้ใดคาดคิด
“ ฉินไป๋หลง ! น้ำหน้าอย่างนาย อย่าหวังจะคิดเด็ดดอกฟ้าอย่างฉันเลย แม้แต่สุนัขที่ฉันเลี้ยงไว้ยังดีว่านายเป็นร้อยเท่า ช่วยกลับไปส่องกระจกดูตัวเองบ้างนะ ” พูดจบเธอก็กลับไปซุกอกของคังหลินด้วยความเขินอาย
‘ ตาบ้าฉินหนาน…ฉันเป็นถึงองค์หญิงนะ ให้ไปพูดจาอะไรแบบนั้นได้ยังไง ถึงมันจะรู้สึกสะใจก็เถอะ ’
!!
“ บัดซบ! ไอ้ฉินหนาน แกต้องตาย ”
องค์ชายใหญ่ตะโกนออกมาอย่างเดือดดาล ร่างจำแลงมังกรอสูรกางกรงเล็บทะยานออกไปทันที
“ คิดว่าฉันกลัวงั้นเหรอ”
ครืนนน!
สนามพลังปรมาจารย์ของคังหลินระเบิดออกมาเช่นกัน เขาเปิดเผยพลังที่แท้จริงออกมา เงาร่างพยัคฆ์ขาวขนาดใหญ่กระโจนออกไป หมายจะฉีกกระชากมังกรอสูรออกเป็นชิ้นๆ ท่ามกลางสายตาตกใจของทุกคน
บูมมมม!
เกิดแรงระเบิดขึ้นเสียงดัง คลื่นกระแทกที่เกิดจากการปะทะกันของสนามพลังปรมาจารย์ขั้นสูง ผลักให้ทั้งสองฝ่ายแยกออกจากกัน โดยไม่มีผู้ใดด้อยกว่าแม้แต่น้อย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จุติใหม่มหาเทพตี้เทียน