แคว้นต้าฉินนั้นอยู่ภายใต้การปกครองของพรรคกระยาจก โดยมีผู้อาวุโสระดับสูงแปดกระสอบ เซียวฟานเฉินเป็นผู้รับหน้าที่นี้ สถานะของเขาเป็นรองเพียงประมุขพรรคเก้ากระสอบเพียงขั้นเดียวเท่านั้น
ซึ่งเขาเป็นเพียงผู้เดียวในบรรดาผู้อาวุโสแปดกระสอบทั้งสี่ ที่มีพลังเพียงแค่ขอบเขตเซียนขั้นสูงสุด ส่วนผู้อาวุโสแปดกระสอบคนอื่นกลับมีพลังอยู่ในระดับครึ่งเก้าเซียนนภาทั้งสิ้น
เหตุผลที่เป็นแบบนี้ ก็เพราะผู้อาวุโสเซียวเป็นหลานชายของอดีตประมุขพรรครุ่นก่อน ซึ่งเป็นอาจารย์ของรุ่นปัจจุบัน ทำให้เขาได้รับอภิสิทธิ์เหนือคนอื่น
และเมื่อผู้อาวุโสเซียวได้รับมอบหมายให้เป็นทูตตัวแทนอยู่ที่เมืองหลวงแคว้นต้าฉิน เขาได้ละเมิดกฎของพรรคกระยาจกไปหลายข้อ ทั้งสวมใส่เสื้อผ้าเลิศหรู, ลักลอบถ่ายทอดวิชาของพรรค หรือแม้กระทั่งสอดมือเข้ายุ่งเกี่ยวกับการแย่งชิงอำนาจของราชวงศ์
แน่นอนว่าทุกสิ่งที่ผู้อาวุโสเซียวทำ ไม่อาจรอดพ้นสายตาของอั้งฮวงหลงประมุขพรรคคนปัจจุบันได้ แต่ถึงแม้ว่าเขาจะรู้ ก็ไม่อาจทำอย่างไรอีกฝ่ายได้อยู่ดี เพราะก่อนที่ประมุขรุ่นก่อนจะสิ้นใจ ก็ได้ฝากฝังหลายชายไว้กับผู้อาวุโสทุกคน
ดังนั้นหากผู้อาวุโสเซียวไม่ทำผิดกฎร้ายแรงของพรรคเช่นการทรยศหรือสังหารคนในพรรค ทั้งประมุขพรรคและผู้อาวุโสก็จะยอมทำเป็นหลับตาข้างหนึ่งปล่อยให้เขาทำตามใจ
ฝ่ายผู้อาวุโสเซียว เมื่อมาถึงเขาก็ไม่ได้สนใจพวกคังหลินและเจ้าเมืองแม้แต่น้อย เพราะสำหรับเขาแล้วปรมาจารย์พวกนี้ไม่มีคุณค่าให้สนใจ เป็นเพียงพวกชาวพื้นเมืองชั้นต่ำที่เขาสามารถสังหารได้อย่างง่ายดาย
“ ผู้อาวุโสเซียว…ในที่สุดท่านก็มาถึงเสียที หากช้ากว่านี้อีกเพียงนิดเดียว พวกฉันคงถูกพวกกบฏเมืองเหล็กดำจัดการไปแล้ว ” องค์ชายใหญ่พูดขึ้นอย่างนอบน้อม เขารีบยัดข้อหากบฏให้พวกคังหลินทันที
เป็นแบบนี้ผู้อาวุโสเซียวจะได้มีข้ออ้างในการลงมือ…
“ องค์ชายไม่ต้องกังวล…มีฉันอยู่ทั้งคน พวกตัวตลกเหล่านี้ไม่อาจทำอะไรได้หรอก ” ผู้อาวุโสเซียวพูดขึ้นด้วยท่าทีเย่อหยิ่ง
อันที่จริงแล้วเขาเองก็มองพวกองค์ชายใหญ่เป็นเพียงหมากที่ค่อยจัดส่งสาวงามและทรัพย์สมบัติให้เท่านั้น ตราบใดที่อีกฝ่ายยังมีประโยชน์ เขาก็ไม่รังเกียจที่จะลงมือช่วยเหลือซักเล็กน้อย
“ องค์ชายใหญ่…ต่อหน้าพยานรู้เห็นมากมาย มากล่าวหาว่าพวกฉันเป็นกบฏมันไม่ไร้สาระไปหน่อยเหรอ ” คังหลินพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเย็นชา
“ หุบปาก! เป็นแค่ปรมาจารย์อันต่ำต้อย กล้าดียังไงมาพูดแทรกแบบนี้ ” ผู้อาวุโสเซียวสะบัดมือออกไปเบาๆ คลื่นพลังอันเกรี้ยวกราดก็ระเบิดออกไปในพริบตา
เปรี้ยงง! ตูมมม!
ร่างของคังหลินกระเด็นออกไปชนกำแพงถ้ำอย่างรุนแรง เมื่อครู่นี้หากไม่ใช่เขารีบผลักองค์หญิงทั้งสองออกไป พวกเธออาจจะได้รับบาดเจ็บสาหัสไปแล้ว
“ ฉินหนาน! ”
“ อาหนาน! ”
“ นายน้อย! ”
พวกคนที่เหลือร้องเรียกออกมาด้วยความตกใจ พวกเขาไม่คิดว่าเซียนขั้นสูงสุดจะลอบลงมือกับรุ่นเยาว์อย่างไร้ศักดิ์ศรีแบบนี้
องค์หญิงทั้งสองรีบพุ่งเข้าไปหาคังหลินทันที พวกเธอช่วยกันประคองเขาขึ้นมาด้วยความเป็นห่วง โชคดีที่เหมือนคังหลินจะระวังตัวอยู่ก่อน จึงได้รับบาดเจ็บเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
“ ผู้อาวุโสเซียว…ท่านคิดจะทำอะไร นี่เป็นเรื่องขัดแย้งภายในของพวกเรา อยู่นอกเหนืออำนาจของทูตตัวแทน ฉันจะแจ้งให้สมาพันธ์บู๊ลิ้มทราบแน่นอน ” ฉินกวงลี่พูดขึ้นเสียงดังด้วยความโกรธ
“ เหอะ! ฉันแค่ลงมือสั่งสอนเบาๆเท่านั้น หากพวกแกอยากรายงานสมาพันธ์ก็ตามสบายเลย แต่ขอบอกเอาไว้ก่อน ว่าตอนนี้สมาพันธ์ก็ยังเอาตัวเองไม่รอด คงไม่มีเวลามายุ่งเรื่องไร้สาระแบบนี้หรอก ” ผู้อาวุโสเซียวพูดขึ้นด้วยท่าทีไม่ใส่ใจนัก
สิ่งที่ได้ยินทำให้ทุกคนมีสีหน้าเปลี่ยนไปทันที หรือว่าตอนนี้จะเกิดเรื่องกับสมาพันธ์บู๊ลิ้ม
“ มันเกิดอะไรขึ้นเหรอ ผู้อาวุโส ” องค์ชายใหญ่ถามขึ้นด้วยความสงสัย ทำไมสายข่าวของเขาไม่รายงานอะไรกลับมาเลย
“ จะมีอะไรซะอีกล่ะ…สามผู้นำสมาพันธ์ได้พ่ายแพ้ให้กับชายที่ชื่อว่าจ้าวเทียนอย่างย่อยยับที่สำนักคุนหลุน หากไม่ได้ประมุขพรรคของฉันกับเจ้าอาวาสวัดเส้าหลินช่วยเอาไว้ คงถูกสังหารไปแล้ว ”
“ ตอนนี้ผู้อาวุโสส่วนใหญ่กำลังประชุมกัน เพื่อถอดถอนสามผู้นำออกจากตำแหน่งอยู่ พวกเขาจะเอาเวลาที่ไหนมายุ่งเรื่องความขัดแย้งเล็กน้อยแบบนี้ ” ผู้อาวุโสเซียวพูดขึ้นด้วยรอยยิ้ม
ตอนนี้ขุมอำนาจของทางสมาพันธ์ กำลังถ่ายเทกลับมาหาพรรคกระยาจกและวัดเส้าหลิน ทำให้ตัวเขาเองก็ได้ประโยชน์ไปด้วย
‘ อันที่จริงตอนนี้ฉันก็ไม่อยากจะลงมือซักเท่าไหร่ เพราะสถานการณ์ทางสมาพันธ์ยังอยู่ในช่วงเวลาละเอียดอ่อน แถมพรรคกระยาจกก็กำลังถูกหลายฝ่ายเพ่งเล็งอยู่ ’
‘ แต่ด้วยฐานะของฉัน…ขอแค่ไม่มีคนตายมากเกินไป ก็คงไม่มีปัญหาอะไร ’
ด้วยความคิดแบบนี้ เขาจึงต้องการข่มขู่ให้อีกฝ่ายหวาดกลัวไปเอง เพื่อที่ตัวเองจะได้ไม่ต้องเปิดฉากฆ่าฟันให้มากเกินไป
ซึ่งการกระทำของผู้อาวุโสเซียวนับว่าได้ผลทันตาเห็น เพราะตอนนี้ทางฝ่ายเมืองเหล็กดำเริ่มรู้สึกลังเลขึ้นมา เพราะที่พวกเขากำลังเผชิญอยู่คือเซียนขั้นสูงสุดของสำนักใหญ่ แตกต่างจากเซียนขั้นกลางที่เคยต่อสู้ด้วยหลายขุม
คังหลินที่เห็นแบบนั้น ก็รู้ดีว่าตัวเองต้องทำอะไรซักอย่างเพื่อถ่วงเวลาออกไป
ก่อนหน้านี้จ้าวเทียนได้ติดต่อมาแล้ว ว่าจำเป็นต้องรักษาเหยียนซือหนิงซักสองชั่วโมงถึงจะมาช่วยได้
ตอนนี้ก็ได้ผ่านมาชั่วโมงกว่าแล้ว เหลือเวลาอีกไม่เกินสี่สิบนาทีเท่านั้น พวกเขาก็จะกลายเป็นผู้ชนะในท้ายที่สุด
“ ฉินไป่หลง…ฉันยอมรับคำท้าต่อสู้เป็นตายตามกฎของราชวงศ์ ในเมื่อเรื่องนี้มันเกิดจากพวกเราทั้งสองคน ก็สมควรให้พวกเราจบมันเอง ” คังหลินพูดขึ้นเสียงดัง ให้ทุกคนได้ยินอย่างชัดเจน
!!
“ หืม…แกเพิ่งมารับคำท้าเอาตอนนี้ ไม่คิดว่ามันสายเกินไปงั้นเหรอ ” องค์ชายใหญ่พูดขึ้นอย่างเป็นต่อ ในเมื่อเขากำลังได้เปรียบก็ไม่จำเป็นต้องลดตัวลงไปสู้กับอีกฝ่าย
แต่ทว่า
“ ดี…งั้นฉันจะเป็นพยานในการต่อสู้ครั้งนี้เอง ” ผู้อาวุโสเซียวรีบตอบรับทันที
ตัวเขาไม่อยากลงมือเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ขอเพียงองค์ชายใหญ่ชนะเรื่องทุกอย่างก็จบอย่างง่ายดาย แล้วทำไมเขาจะไม่เห็นด้วยล่ะ
“ ผู้อาวุโส…เรื่องนี้ ” องค์ชายใหญ่ต้องการจะแย้งออกมา เขาไม่เข้าใจว่าทำไมต้องไปสนใจสิ่งที่อีกฝ่ายพูดด้วย
“ หรือองค์ชายไม่มั่นใจงั้นเหรอ…แค่สังหารฉินหนานซะ แล้วทุกอย่างของเขาก็จะกลายเป็นขององค์ชายไม่ใช่รึไง ” ผู้อาวุโสเซียวพูดขึ้นอย่างหงุดหงิด เขารู้สึกว่าพวกชาวพื้นเมืองนี่ช่างน่ารำคาญจริงๆ
เมื่อเรื่องมาถึงขั้นนี้ หากองค์ชายใหญ่ยังลังเลอีก ก็จะกลายเป็นว่าเขาหวาดกลัวคู่ต่อสู้ ดังนั้นถ้าไม่อยากเสื่อมเสียชื่อเสียงก็มีแต่ต้องยอมรับคำท้าเท่านั้น
แน่นอนว่า เมื่อต้องการต่อสู้กันแบบจริงจัง พวกเขาก็ต้องเปลี่ยนสถานที่มาเป็นลานฝึกซ้อมขนาดใหญ่ของตระกูลฉินแทน
ต้องบอกเลยว่า การเผชิญหน้ากันระหว่างนายน้อยตระกูลฉินกับองค์ชายใหญ่ผู้เป็นยอดฝีมือรุ่นเยาว์อันดับหนึ่ง ได้ดึงดูดความสนใจของผู้คนเป็นอย่างมาก
จะเห็นได้จากปรมาจารย์เกือบสามร้อยคนที่มาเป็นแขกในเมืองเหล็กดำ ล้วนปรากฏตัวออกมาเฝ้าชมการต่อสู้ทั้งสิ้น
‘ ดูเหมือน…ฉันจะต้องยื้อการต่อสู้ออกไปอีกซักสามสิบนาที หากชนะเร็วเกินไป ผู้อาวุโสเซียวอาจลงมือเข้ามายุ่งเกี่ยวได้ ’
ช่วงเวลาที่พวกเขาเปลี่ยนสถานที่ต่อสู้ ก็ได้ผ่านไปประมาณสิบนาที ด้วยพลังของคังหลินในตอนนี้ การเอาชนะองค์ชายใหญ่เป็นเรื่องง่ายดายมาก แต่เขากลัวคนอื่นจะเข้ามาขัดขวางมากกว่า
มีแต่ต้องให้จ้าวเทียนมาถึงก่อนเท่านั้น จึงจะลงมือสังหารอีกฝ่ายได้อย่างสบายใจ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จุติใหม่มหาเทพตี้เทียน