หลังจากเปิดศึกได้สิบนาที การต่อสู้ของคังหลินกับองค์ชายใหญ่ก็ทวีความดุเดือดขึ้นทุกครั้ง จนพื้นหินของลานฝึกฝนตระกูลฉินเต็มไปด้วยหลุมบ่อ จากลูกหลงของการปะทะกันระหว่างปรมาจารย์ขั้นสูงทั้งสอง
เปรี้ยง ตูมมมม!
เงาร่างสองสายได้ปะทะและแยกออกอย่างรวดเร็ว ดาบมังกรทมิฬขององค์ชายใหญ่ฟันเข้าใส่คังหลินอย่างถี่รัว เขาพยายามบีบให้อีกฝ่ายเว้นระยะห่างจากตนเอง
ทำให้กระแสปราณอันน่าหวาดกลัวระเบิดออกไปรอบด้าน
เปรี้ยงๆๆๆ บูมมม!
พัดสีขาวในมือของคังหลินวาดเป็นวงโคจรอย่างสวยงาม ปัดป้องการโจมตีทุกอย่างในคราวเดียว พลังอ่อนหยุนที่อยู่บนพัดได้สลายการโจมตีทั้งหมดอย่างง่ายดาย
แท้จริงแล้วพลังนี้คือเศษเสี้ยวแก่นแท้แห่งลมที่ไม่สมบูรณ์ ซึ่งคังหลินได้บรรลุตอนทะลวงขอบเขตเทพโลกา ถึงแม้เขาจะไม่สามารถปลดปล่อยอานุภาพขอวมันออกมาได้เต็มที่ เนื่องจากร่างกายนี้อ่อนแอจนเกินไป
แต่อานุภาพเพียงแค่หนึ่งในร้อยส่วนของแก่นแท้แห่งลมที่แท้จริง ก็เพียงพอที่จะกำราบขอบเขตปรมาจารย์ทุกคนได้แน่นอน
เปรี้ยง! ตูมม!
ดาบขององค์ชายใหญ่ถูกเบี่ยงเบนไปโจมตีลงบนพื้นอีกครั้ง พัดในมือของคังหลินเฉือนเข้าใส่ข้อมืออีกฝ่ายราวกับคมมีด จนเลือดสีแดงสาดกระจายออกมา
“ บ้าเอ้ย…ถอยออกไปซะ! ”
“ คลื่นพายุทมิฬ! ”
บูมมม!
องค์ชายใหญ่หมุนตัวควงดาบดั่งพายุ ปราณดาบสีดำระเบิดออกมาเป็นวงกว้าง ทำลายทุกสิ่งทุกอย่างที่ขวางหน้า บีบให้คังหลินต้องถอยออกไป
หลังจากที่องค์ชายใหญ่ งัดเอาแผนการต่างๆออกมา เพื่อที่จะพลิกสถานการณ์เสียเปรียบของตัวเอง แต่มันใช้กับคังหลินไม่ได้ผลแม้แต่น้อย
ทำให้ความมั่นใจในฐานะยอดฝีมือรุ่นเยาว์อันดับหนึ่งของเขาเริ่มถูกทำลาย ในใจเริ่มสัมผัสได้ถึงลางแห่งความพ่ายแพ้ อย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
แฮ่ก!ๆๆ
องค์ชายใหญ่หอบหายใจออกมาเสียงดัง ทั้งที่เพิ่งต่อสู้ได้เพียงไม่นาน แต่เขากลับสูญเสียพลังปราณของตนไปเกือบครึ่งแล้ว
หากปล่อยให้เป็นแบบนี้ต่อไป เขาคงต้องพ่ายแพ้อย่างน่าอนาถต่อหน้าผู้คนมากมาย เรื่องนี้จะยอมให้เกิดขึ้นไม่ได้เด็ดขาด
“ มันเป็นแบบนี้ไปได้ยังไง…แกเป็นแค่เศษสวะที่ใช้การไม่ได้ ไม่ใช่เหรอ ” องค์ชายใหญ่จ้องมองศัตรูตรงหน้าด้วยความไม่เชื่อถือ
ตอนนี้ทั่วร่างกายของเขาเต็มไปด้วยบาดแผลมากมาย ในขณะที่ฝ่ายตรงข้ามกลับไม่ได้รับบาดเจ็บแม้แต่น้อย ความแตกต่างนี้มันเห็นได้ชัดเกินไป
ที่เป็นแบบนี้ ก็เนื่องมาจากร่างของคังหลินเหมือนกับหมอกควันที่สัมผัสและอ่านทางไม่ได้ ไม่ว่าเขาจะใช้เคล็ดวิชาอะไรออกไป ก็ไม่โดนอีกฝ่ายแม้แต่น้อย
‘ บัดซบ…แบบนี้ก็คงเหลือทางเดียวเท่านั้น ’
เขายังเหลือเคล็ดวิชาไม้ตายอีกหนึ่งอย่าง ถ้าใช้มันออกไปย่อมสามารถผนึกการเคลื่อนไหวของอีกฝ่ายได้แน่นอน
แต่มันก็จะทำให้ชื่อเสียงที่เขาสั่งสมมาต้องพังพินาศด้วย เพราะเคล็ดวิชานี้ได้มาจากการดูดกลืนพลังหยินของสาวบริสุทธิ์เกือบร้อยคน และผนึกดวงวิญญาณของพวกเธอเอาไว้
มันเป็นวิชาลับของพรรคมาร ที่องค์ปฐมฮ่องเต้ได้มาเมื่อหลายพันปีก่อน และถูกปิดผนึกเอาไว้ในคลังสมบัติของราชวงศ์
‘ จะมัวลังเลไม่ได้แล้ว…สังหารฉินหนานก่อน ค่อยหาวิธีปิดปากพวกที่เหลือก็แล้วกัน ’
เมื่อคิดได้แบบนั้น แววตาของเขาก็เปลี่ยนเป็นดุดัน ลมปราณในร่างโคจรทวนทิศ ปลดปล่อยพลังหยินชั่วร้ายออกมา
ครืนนน!
อาณาเขตสิบเมตรรอบตัวองค์ชายใหญ่ เปลี่ยนเป็นเหนียวหนืดเหมือนกาว จนแม้แต่สายลมยังพัดผ่านเข้ามาไม่ได้
จากนั้น หมอกสีดำจางๆก็ปรากฏขึ้นปกคลุมทุกสิ่งทุกอย่าง
เปรี้ยง!
คังหลินที่ปรากฏตัวขึ้นได้โจมตีไปที่ช่องโหว่ขององค์ชายใหญ่ จนทำให้อีกฝ่ายเซถอยหลังไปหลายก้าว
แต่ในขณะที่ร่างของเขาจะจางหายไปดุจหมอกควันนั้นเอง หมอกสีดำที่อยู่บริเวณรอบๆ ก็ผนึกการเคลื่อนไหวของเขาเอาไว้
“ นี่มัน…ช่างเป็นวิชาที่ชั่วร้ายนัก ” คังหลินพูดออกมาเสียงดังด้วยความโกรธ สิ่งที่ผูกมัดเขาเอาไว้ไหนเลยจะเป็นแค่หมอกธรรมดา
แต่มันคือวิญญาณแค้นของหญิงสาวบริสุทธิ์นับร้อย ที่ตกตายด้วยความทุกข์ทรมาน พวกเธอได้ฉุดรั้งแขนและขาของเขาไว้ ทำให้เคลื่อนไหวได้ยากลำบาก
นอกจากนี้ เขายังรู้สึกเหมือนพลังปราณถูกสูบออกไปอย่างรวดเร็วอีกด้วย
“ จงตายซะ! ”
“ แปดดาบทมิฬ! ”
องค์ชายใหญ่ฟันดาบออกไปสุดแรง ปราณดาบสีดำแปดสายก็ระเบิดออกมาแปดทิศทาง แล้วตวัดเข้าใส่คังหลินพร้อมกันเหมือนเคียวยมทูต
เปรี้ยง!ๆๆๆๆๆๆ
ร่างของคังหลินกระเด็นถอยออกไปหลายก้าว แม้ว่าเขาจะสามารถเบี่ยงการโจมตีส่วนใหญ่ออกไปได้ แต่ก็เกิดบาดแผลคมดาบสองสายขึ้นที่หัวไหล่ทั้งสองข้าง
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้ทุกคนที่ดูอยู่หน้าเปลี่ยนสีทันที หากเป็นผู้ฝึกฝนจนถึงระดับผู้เชี่ยวชาญขึ้นไป ย่อมสามารถมองออกว่าหมอกสีดำคืออะไร
“ บัดซบ...ชายคนนี้เลวมาก ถึงกับใช้ชีวิตของหญิงสาวบริสุทธิ์นับร้อยมาฝึกฝนวิชามาร ฉันจะต้องเผยแพร่เรื่องนี้ออกไป ”
“ นี่มันบ้าชัดๆ…ไม่นึกเลยว่าองค์ชายใหญ่ที่มีชื่อเสียงดีงาม จะทำตัวบัดซบแบบนี้ ”
“ ฉันรู้สึกอับอายจริงๆ…ที่ไปหลงนับถือคนชั่วร้ายแบบนี้ ”
เสียงก่นด่าปนสาปแช่งของผู้คนมากมาย ไม่ได้ทำให้องค์ชายใหญ่หวั่นไหวแม้แต่น้อย เขายังคงบุกทะลวงเข้าใส่คังหลินอย่างดุดัน
ตอนนี้ในใจของเขาคิดเพียงสังหารศัตรูเท่านั้น ขอเพียงทำสำเร็จ ค่อยใช้อำนาจของผู้อาวุโสเซียวจัดการพวกปากมากภายหลังก็ได้
“ ไอ้เศษสวะนี่…ฉันไม่เคยอยากสังหารใครมากขนาดนี้มาก่อน ” จูม่านฉีพูดขึ้นด้วยความโกรธ ยิ่งเธอเห็นดวงวิญญาณที่น่าสงสารพวกนั้น ก็ยิ่งรู้สึกโกรธแค้นจนถึงขีดสุด
เพราะหากไม่ได้พบกับคังหลิน ชะตากรรมของตัวเธอเองอาจจะเป็นแบบเดียวกับหญิงสาวพวกนั้นก็ได้
“ ไม่ต้องเป็นห่วง…ไอ้ชั่วนั่นไม่มีทางรอดแน่ ฉินหนานจะต้องสังหารมันได้อย่างแน่นอน ” ฉินฟ่านเออร์เองก็รู้สึกโกรธแค้นอีกฝ่ายเช่นกัน
เธอเข้าใจแล้วว่าทำไมองค์ชายใหญ่ถึงต้องการครอบครองตัวเธอให้ได้ เพราะเธอสัมผัสได้ว่าดวงวิญญาณหญิงสาวพวกนั้น ก็เป็นผู้ที่มีร่างหยินบริสุทธิ์แบบตัวเอง
ก่อนหน้านี้เธอเคยคิดว่าองค์ชายใหญ่แค่ลุ่มหลงในรูปโฉมของเธอเท่านั้น ไม่นึกเลยว่าจุดประสงค์ที่แท้จริงของอีกฝ่ายจะเป็นแบบนี้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จุติใหม่มหาเทพตี้เทียน