บนลานฝึกซ้อมที่เต็มไปด้วยกลิ่นคาวเลือด เหลือเพียงแค่เศษซากอวัยวะที่ฉีกขาด กับศีรษะหนึ่งหัวที่กลิ้งอยู่บนพื้น
ไม่มีผู้ใดคาดคิดถึงผลลัพธ์แบบนี้มาก่อน แม้กระทั่งฝ่ายขององค์ชายใหญ่เองก็ยังไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่พวกเขาได้เห็น ตั้งแต่ที่ผู้อาวุโสเซียวยื่นมือเข้าแทรกแซงการต่อสู้ พวกเขาทุกคนก็คิดว่าฝ่ายของเขาต้องได้รับชัยชนะแน่นอน
แต่สุดท้าย สิ่งที่เกิดขึ้นคือองค์ชายใหญ่ต้องมาตายไปอย่างทุกข์ทรมาน โดยที่ผู้อาวุโสเซียวไม่สามารถทำอะไรได้เลยแม้แต่น้อย
“ องครักษ์ทุกคนรับคำสั่ง…สังหารศัตรูแก้แค้นให้องค์ชายใหญ่เดี๋ยวนี้ ” ผู้บัญชาการทหารรักษาพระองค์ตะโกนออกมาด้วยความโกรธแค้น
การตายขององค์ชายใหญ่ถือเป็นเรื่องใหญ่มาก ต่อให้เกิดจากการท้าสู้อย่างยุติธรรมตามธรรมเนียมของราชวงศ์ แต่โทษฐานของการอารักขาบกพร่อง เขาเองก็คงหนีไม่พ้น
มีเพียงสังหารตัวต้นเหตุเท่านั้น เขาอาจจะยังมีความหวังรอดชีวิตได้ ไม่อย่างนั้นเมื่อกลับไปถึงเมืองหลวง พระชายาหลักคงไม่ไว้ชีวิตทุกคนที่เกี่ยวข้องแน่นอน
“ รับคำสั่ง! ”
องครักษ์ทุกคนนำอาวุธออกมาทันที แต่ยังไม่ทันที่พวกเขาจะได้พุ่งออกไป กลับมีคนลงมือเคลื่อนไหวก่อน นั่นคือชายชุดเขียวผู้เป็นทั้งอาจารย์และผู้คุ้มกันส่วนพระองค์ขององค์ชายใหญ่
“ ฉินหนาน…แกจงตายซะ! ”
“ แปดดาบทมิฬ! ”
ชายชุดเขียวฟันดาบออกไปสุดแรง ปราณดาบสีดำแปดสายก็ระเบิดออกมาแปดทิศทาง แล้วตวัดเข้าใส่คังหลินพร้อมกันเหมือนเคียวยมทูต
แม้จะเป็นเคล็ดวิชาเดียวกัน แต่ปราณดาบที่เขาปลดปล่อยออกมากลับแข็งแกร่งกว่าองค์ชายใหญ่มาก เนื่องมาจากมันเป็นวิชาประจำตัวของเขาเอง
“ คิดจะทำร้ายลูกชายของฉันงั้นเหรอ…อย่าได้ฝันไป ” ฉินกวงลี่ปรากฏตัวขึ้นขวางหน้าไว้ ดาบในมือเขาฟันสวนกลับไปเต็มแรง
เปรี้ยงงง!
แม้ว่าพลังของเขาจะด้อยกว่าอีกฝ่ายมาก เพราะเป็นเพียงปรมาจารย์ขั้นต่ำเท่านั้น แต่เขาไม่ได้มาคนเดียว ยังมีปรมาจารย์ขั้นสูงหลายสิบคนตามมาด้วย ทำให้การโจมตีของชายชุดเขียวไร้ผลโดยสิ้นเชิง
“ ฉินกวงลี่! แกคิดจะเป็นกบฏงั้นเหรอ ” ผู้บัญชาการทหารรักษาพระองค์พูดขึ้นด้วยความโกรธ ตอนนี้ทั้งตัวเขาและองครักษ์ทั้งหมด ถูกคนของตระกูลฉินล้อมเอาไว้หมดแล้ว
ที่สำคัญที่สุดคือปรมาจารย์ฝ่ายตรงข้ามอีกสามร้อยคนกำลังมองมาทางพวกเขาด้วยสายตาเย็นชา
หากเกิดการต่อสู้ขึ้นมาจริงๆ ปรมาจารย์พวกนั้นคงลงมือช่วยฝ่ายของตระกูลฉินโดยไม่ลังเล
“ เหอะ…กบฏงั้นเหรอ อย่าพูดให้ตลกไปหน่อยเลย พวกแกเองทั้งนั้น ที่เป็นคนเรียกร้องให้ต่อสู้เป็นตายตามกฎของราชวงศ์ ซึ่งตอนนี้ลูกชายฉันเป็นก็ผู้ชนะแล้ว ”
“ เพราะฉะนั้นเดิมพันทั้งหมดขององค์ชายใหญ่ จะกลายเป็นของลูกชายฉันโดยชอบธรรม นั่นรวมไปถึงศักดิ์ฐานะองค์ชาย และขุมกำลังทั้งหมดของเขาด้วย ”
“ พวกแกที่หันอาวุธเข้าหาองค์ชายต่างหากล่ะ ที่เป็นกบฎ ” ฉินกวงลี่ประกาศออกมาเสียงดัง ทำให้ฝ่ายตรงข้ามหน้าเปลี่ยนสีทันที
“ นายเป็นยังไงบ้าง…รีบกินโอสถฟื้นฟูก่อนสิ ” ฉินฟ่านเออร์และจูม่านฉีเข้ามาประคองตัวคังหลินไว้ด้วยความเป็นห่วง
โดยเฉพาะจูม่านฉี เธอรีบนำโอสถระดับสูงของราชวงศ์ต้าหมิงออกมาให้คังหลินกินทันที มันมีคุณภาพเหนือกว่าของตระกูลฉินมาก
“ ฉันไม่เป็นไร…โชคดีที่เบี่ยงตัวหลบทัน เลยไม่ถูกจุดสำคัญ ” คังหลินพูดออกมาให้พวกเธอคลายความกังวล ด้วยประสิทธิภาพของโอสถที่เพิ่งกินเข้าไป ทำให้อาการบาดเจ็บของเขาฟื้นฟูอย่างรวดเร็ว
ตลอดเวลาที่ผ่านมา สายตาของคังหลินจับจ้องไปที่ผู้อาวุโสเซียวอย่างตื่นตัว เขาไม่กล้าผ่อนคลายความระมัดระวังแม้แต่น้อย
‘ เมื่อครู่นี้ ฉันลงมือเร็วเกินไป ยังคงเหลือเวลาอีกซักพัก กว่าศิษย์น้องจะตามมาสมทบได้ ’
มันเป็นเหตุสุดวิสัย เพราะองค์ชายใหญ่สมควรตายเกินไป การกระทำของอีกฝ่ายได้ไปกระตุ้นโทสะของเขาเข้า
เขาจึงตัดสินใจสังหารองค์ชายใหญ่ทันที เพื่อปลดปล่อยดวงวิญญาณที่น่าสงสารเหล่านั้น
ในขณะที่ทั้งสองฝ่ายกำลังคุมเชิงกันอยู่ ผู้อาวุโสเซียวที่ยืนนิ่งมาตลอดก็ลอยขึ้นไปบนฟ้า เหนือพื้นดินประมาณร้อยเมตร แล้วหัวเราะออกมาเสียงดัง
ฮ่า ฮา ฮ่า
“ ดีมาก…ตั้งแต่ฉันเกิดมา ยังไม่เคยเจอความอัปยศแบบนี้มาก่อน ชาวพื้นเมืองชั้นต่ำอย่างพวกแกทำได้ดีจริงๆ ”
สีหน้าของผู้อาวุโสเซียวเต็มไปด้วยความคุ้มคลั่ง เมื่อรวมกับคราบเลือดมากมายที่ติดอยู่ตามตัว ทำให้เขาดูเหมือนปีศาจร้ายไม่มีผิด
“ มังกรเขียวจุติ! ”
ครืนนน!
พริบตานั้น คลื่นพลังอันเกรี้ยวกราดระเบิดออกมาจากร่างของผู้อาวุโสเซียวอย่างรุนแรง เงาร่างมังกรเขียวขนาดยักษ์ปรากฏขึ้นด้านหลังเขา มันก้มลงมองมนุษย์ที่อยู่ด้านล่างเหมือนมดปลวก
ความกดดันมหาศาลของขอบเขตเซียนขั้นสูงสุดถาโถมลงมาจากเบื้องบน กระแทกเข้าใส่ทุกคนที่อยู่ในอาณาเขต โดยไม่แบ่งแยกมิตรศัตรู
ตึงง! ตุบ!
ผู้ที่อยู่ต่ำกว่าขอบเขตปรมาจารย์ เหมือนถูกทุบลงไปนอนกองกับพื้นทันที แม้แต่ผู้ที่อยู่ในระดับปรมาจารย์ก็ยังต้องฝืนทนไว้ด้วยขาอันสั่นเทา
“ ไม่เป็นไรนะ ” คังหลินหันไปถามสองสาวที่อยู่ข้างๆ เขาใช้พลังปราณของตนปกป้องพวกเธอเอาไว้
ที่บนฟ้า สายตาของผู้อาวุโสเซียวกวาดมองพวกคนที่ฝืนตะเกียดตะกายดิ้นรนอยู่ด้านล่างด้วยความพึงพอใจ ความรู้สึกอัดอั้นที่ทำอะไรไม่ได้ก่อนหน้านี้ ได้ทุเลาลงไปหลายส่วน
ทันใดนั้น
สายตาของเขาก็หยุดลงที่คังหลิน ตัวต้นเหตุของเรื่องทั้งหมด หากไม่ใช่เพราะอีกฝ่าย เขาคงไม่ต้องรู้สึกอับอายขายหน้าขนาดนี้
“ ไหนแกบอกมาสิ…ว่าฉันควรจัดการกับแกยังไงดี ”
!!
คังหลินที่ได้ยินแบบนั้น ก็แอบหยิบแผ่นหยกอันหนึ่งออกมาถือไว้ที่ด้านหลัง จากนั้นเขาก็มองกลับขึ้นไปอย่างไร้ความเกรงกลัว
“ คิดจะจัดการฉันงั้นเหรอ…แกมีความสามารถพอหรือเปล่า ” เขาพูดออกมาด้วยท่าทีไม่ใส่ใจ มีเจตนาท้าทายอีกฝ่ายอย่างเห็นได้ชัด
“ เหอะ…ยังอวดดีอยู่งั้นเหรอ ฉันอยากรู้นักว่าตอนที่ฉันสังหารผู้หญิงสองคนนั้น แกยังจะมีท่าทางแบบนี้อยู่หรือเปล่า ” ผู้อาวุโสเซียวพูดขึ้นอย่างเย็นชา
สำหรับเขา แค่สังหารคังหลินทิ้งมันง่ายเกินไป ต้องทรมานทั้งจิตใจและร่างกายให้อีกผ่ายสิ้นหวังจนถึงขีดสุด จึงจะลบความอับอายที่เขาได้รับได้
ฟุ่บ!
ผุ้อาวุโสเซียวเดินเหยียบอากาศลงมาอย่างช้าๆ ทุกย่างก้าวของเขาทำให้ความกดดันที่ทุกคนได้รับหนักหน่วงยิ่งขึ้น
ตูมมม!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จุติใหม่มหาเทพตี้เทียน