จุติใหม่มหาเทพตี้เทียน นิยาย บท 279

เมื่อเตรียมการทุกอย่างพร้อม หลินซูซินก็กระตุ้นการทำงานของเครื่องแปลงพลังงาน ทำให้ประตูมิติขนาดใหญ่สั่นไหว และปล่อยแสงสว่างอันเจิดจ้าออกมา

“ เป็นปฏิกิริยาพลังงานที่รุนแรงจริงๆ ” โซเฟียกล่าวชมเชยออกมา เธอสัมผัสได้ถึงพลังมหาศาลที่พุ่งเข้ามาปะทะหน้า โชคดีที่พวกนักวิทยาศาสตร์ถอนตัวออกไปสังเกตการณ์ทางหน้าจอมอนิเตอร์แล้ว

ไม่อย่างนั้น พวกเขาอาจถูกคลื่นพลังงานพวกนี้พัดปลิวได้

ครืนนน!

พลังงานที่พุ่งสูงได้ฉีกมิติออก สุดท้ายก็รวมตัวกันเป็นช่องว่างมิติรูปวงรีขนาดใหญ่ มันเหมือนกับระลอกน้ำที่สั่นไหว ทั้งลึกล้ำและดำมืด ปลดปล่อยกลิ่นอายชั่วร้ายของโลกแห่งมารออกมา

พรึบ!

เจ้าดำน้อยกางปีกค้างคาวขนาดใหญ่ออกมา มันบินไปอยู่ตรงหน้าประตูมิติ แล้วตะโกนออกมาด้วยเสียงอันดัง

โฮกกก!

“ ข้าผู้ต่ำต้อย…ขอน้อมพบเทพมารโลหิต ”

สิ้นเสียง กรงเล็บของอสูรขนาดใหญ่คู่หนึ่งก็ยื่นเข้ามา มันใช้แรงฉีกกระชากประตูมิติให้เปิดออกกว้างขึ้น

แคว่กกก!

“ โฮกกก เจ้าคือลูกหลานของข้าที่อาศัยอยู่บนโลกชั้นต่ำนี่รึ ช่างยอดเยี่ยมยิ่งนัก แม้กระทั่งในโลกที่มีพลังเบาบางแบบนี้ ยังยกระดับเป็นแม่ทัพปีศาจได้ ” เสียงคำรามอันน่าสะพรึงกลัวดังออกมาจากประตูมิติ

“ ขอบคุณนายท่านที่ให้ความสำคัญ…ขอเชิญนายท่านรีบนำทัพข้ามมาโดยเร็วที่สุด เพื่อยึดดินแดนแห่งนี้เป็นฐานที่มั่นเผ่ามารของพวกเรา ” ดำน้อยพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น แววตาของมันเต็มไปด้วยความเคารพบูชา

ห่างออกไปไม่ไกล

โซเฟียและทุกคนที่มาจากศาสนจักรแห่งแสง มองภาพเหตุการณ์ตรงหน้าด้วยสายตาว่างเปล่า พวกเขาไม่คิดว่าดำน้อยจะแสดงละครได้เก่งขนาดนี้

ตามบันทึกโบราณ…พวกเผ่ามารระดับต่ำจะมีนิสัยบ้าคลั่งไร้สมองไม่ใช่เหรอ หรือว่าบันทึกจะผิดพลาด

ในทางกลับกัน ทางพวกของหลินซูซินไม่ได้รู้สึกแปลกใจนัก โดยเฉพาะลี่เหยาเหยาที่เป็นผู้สอนการแสดงให้กับเจ้าดำน้อยด้วยตัวเอง

เมื่อได้อาจารย์ที่เป็นดาราระดับโลกอย่างเธอ ต่อให้เจ้าดำน้อยจะโง่เง่าแค่ไหน ก็ต้องมีผลสำเร็จบ้าง

บูมม!

ตอนนี้ประตูมิติได้เปิดออกอย่างสมบูรณ์แล้ว ทำให้ร่างของเทพมารโลหิตได้ถูกเปิดเผยออกมา มันเป็นอสูรกายขนาดใหญ่ มีเขางอกออกจากศีรษะสี่เขา ผิวหนังเป็นสีแดงฉาน มีปีกค้างคาวอยู่ด้านหลังสี่ปีก

มีส่วนสูงประมาณยี่สิบเมตร เท่ากับความสูงของประตูพอดี

‘ เทพมารตนนี้แข็งแกร่งจริงๆ…โชคดีที่มันผ่านเข้ามาไม่ได้ เพราะข้อจำกัดของโลกใบนี้ ’

หลินซูซินสัมผัสได้ว่าอีกฝ่ายมีพลังเหนือกว่าเธอมาก หากให้เปรียบเทียบคงจะอยู่ในระดับเทพโลกาขั้นห้าขึ้นไปเลยทีเดียว

แน่นอนว่าสิ่งที่เธอสัมผัสพลังอีกฝ่ายได้ คนอื่นก็ทำได้เช่นกัน ทำให้ทุกคนรู้สึกถึงความกดดันมหาศาลถาโถมเข้าใส่ทันที

โดยเฉพาะต้วนมู่เฉียนที่กำลังนึกโทษชะตาฟ้าดิน ถ้าไอ้ตัวแบบนี้หลุดเข้ามา ประเทศจีนของเขาคงไม่เหลือซากแน่

ในขณะที่ทุกคนกำลังรอให้เทพมารโลหิตส่งกองทัพเข้ามา เพื่อจะได้รีบปิดประตูตีแมวให้จบไป มันก็ได้เกิดปัญหาขึ้นเล็กน้อย

“ ลูกหลานข้า…ไอ้ตัวเล็กๆสีน้ำตาลนั่น มันคืออะไรรึ ทำไมข้าสัมผัสได้ถึงพลังงานบางอย่างจากมัน ” เทพมารโลหิตมองไปที่ตุ๊กตาหมี ด้วยท่าทีครุ่นคิด

!!

“ เอ่อ…เรียนนายท่าน เจ้าตัวเล็กนี่เป็นเผ่ามารสายพันธ์ุใหม่ที่เกิดขึ้นบนโลก มันต้องการเข้าร่วมกับกองทัพของพวกเราด้วยเช่นกัน ” ดำน้อยรีบพูดแถออกมาอย่างรวดเร็วด้วยสีหน้าไม่เปลี่ยนแปลง

โชคดีที่มันได้รับการสั่งสอนโปกเกอร์เฟสมาจากผู้เชี่ยวชาญจึงไม่เผยพิรุธออกมา

“ งั้นรึ…พวกกลายพันธุ์นี่เอง แต่มันดูอ่อนแอเกินไปหรือเปล่า กองทัพของข้าต้องการเพียงผู้เข้มแข็งเท่านั้น ไอ้ตัวกระจอกไร้ค่าแบบนี้ เจ้าให้มันไสหัวออกไปเถอะ ”

“ ไม่มีทั้งเขี้ยวเล็บและเกล็ดอันแข็งแกร่ง…อีกทั้งขนาดยังเล็กกระจ้อยร่อย ช่างน่าสะอิดสะเอียนจริงๆ ” เทพมารโลหิตพูดขึ้นด้วยท่าทีรังเกียจ เผ่าพันธุ์ของมันบูชาในความแข็งแกร่ง จึงทำให้รู้สึกขัดใจเมื่อเห็นตัวประหลาดแบบนี้

ซึ่งคำพูดของมัน ก็ทำให้ทุกคนร้องผิดท่าในใจ ด้วยสัมผัสได้ถึงบรรยากาศอันเย็นยะเยือกที่ตุ๊กตาหมีปลดปล่อยออกมา

โชคดีที่อีกฝ่ายยังไม่ข้ามประตูมิติมา จึงไม่ได้รับรู้ถึงความผิดปกติข้อนี้

‘ ศิษย์พี่หญิง…คุณต้องอดทนไว้นะ ’

ลี่เหยาเหยาและคนอื่นๆคิดขึ้นด้วยความกังวล พวกเธอรู้ดีว่าสิ่งที่เทพมารพูดมานั้น ได้ไปสัมผัสโดนเกล็ดย้อนของหลินซูซินเข้าเต็มๆ

เจ้าดำน้อยก็เหมือนจะสัมผัสได้เช่นกัน หากยังปล่อยให้เป็นแบบนี้คงไม่ดีแน่ มันจึงรีบคุกเข่าพูดขึ้นอย่างร้อนรน

“ นายท่าน…พลังงานของพวกเรามีจำกัด ประตูมิติไม่อาจคงสภาพไว้เป็นเวลานาน ขอเชิญให้กองทัพของท่านรีบเข้ามาด้วยเถิด ”

“ ข้าผู้ต่ำต้อยเพียงหวังว่า โลกใบนี้จะถูกเปลี่ยนเป็นดินแดนของเผ่าพันธุ์พวกเรา ”

เมื่อเห็นถึงความจริงใจของดำน้อย เทพมารโลหิตก็พยักหน้าอย่างพึงพอใจ ปีกทั้งสี่ของมันโบกสะบัดอย่างรุนแรง

แคว่กก!

ช่องว่างมิติรูปวงรี ได้ถูกฉีกออกกว้างกว่าเดิมตามแนวยาว จนไปสุดขอบห้าสิบเมตรของประตูพอดี

“ จงไปซะ…ลูกหลานของข้า จงไปกำจัดสิ่งมีชีวิตที่แสนอ่อนแอพวกนั้นให้หมด และเปลี่ยนโลกชั้นต่ำใบนี้ให้เป็นดินแดนของพวกเรา ”

โฮกกกก

กองทัพทั้งหมดส่งเสียงคำรามตอบกลับมาอย่างตื่นเต้น การฆ่าสังหารและทำลายเป็นสันดานติดตัวของพวกมันทุกตน

ครืนนน!

รอยแยกมิติสั่นไหวไม่หยุด มารชั้นต่ำระดับ B หนึ่งร้อยตนทยอยกันออกมาอย่างต่อเนื่อง พวกมันเป็นหน่วยกล้าตายของทัพมาร

ต่อให้เทพมารโลหิตจะมั่นใจในตนเองแค่ไหน แต่มันก็ไม่ใช่คนโง่ เรื่องที่ลูกหลานจะสามารถสร้างประตูมิติได้โดยที่ปราศจากการขัดขวางจากสิ่งมีชีวิตบนโลกนี้ มันน่าสงสัยจนเกินไป

มันจึงส่งพวกกองทัพชั้นต่ำออกไปตรวจสอบก่อน

ในโลกแห่งมารนั้น ไม่ได้มีเทพมารเพียงตนเดียว แต่กลับมีเกือบร้อยตน ทั้งยังต่อสู้ช่วงชิงอาณาเขตกันเอง ทำให้มันต้องระมัดระวังไม่ให้สูญเสียกองกำลังไปโดยเปล่าประโยชน์

ผ่านไปครู่หนึ่งเมื่อเห็นว่าไม่มีอะไรผิดปกติ ทหารมารระดับ A ห้าร้อยตนก็ก้าวออกมา นี่จึงเป็นกองทัพที่แท้จริงของเทพมาร

ความกดดันที่ทหารมารพวกนี้ปล่อยออกมา เทียบเท่ากับกองทัพล้านไม่มีผิด เพราะทหารมารมีพลังอยู่ในระดับเดียวกันกับเซียนขั้นกลางทุกตน

ในขณะที่พวกโซเฟียกำลังจ้องมอง วัตถุดิบล้ำค่าทั้งห้าร้อยตนด้วยแววตาเป็นประกาย เปลวเพลิงสีดำก็ระเบิดออกมาจากประตูมิติ

ฮูมมม!

แม่ทัพมารระดับ S สิบตนก็ก้าวออกมา ด้วยท่าทางน่าเกรงขาม พวกมันหันซ้ายหันขวาเล็กน้อย เมื่อสัมผัสได้ว่าไม่มีอะไรผิดปกติ ก็ขู่คำรามออกมาเสียงดังเหมือนเป็นการส่งสัญญาณให้เทพมารส่งทัพเข้ามาเพิ่มอีก

ตอนนี้ยอดฝีมือทั้งยี่สิบคนเริ่มเตรียมตัวแล้ว ตามแผนการที่พวกเขาวางเอาไว้ หลินซูซินจะต้องรีบปิดประตูมิติเพื่อตัดขาดการเชื่อมต่อและจัดการพวกเหยื่อที่หลุดเข้ามา

แต่ทว่า

หลินซูซินยังคงนิ่งเฉยไม่ทำอะไรทั้งสิ้น เธอยังคงปล่อยให้ทัพมารเข้ามาเรื่อยๆ จนตอนนี้ทหารมารระดับ A ออกมาอีกสองร้อยตนแล้ว

นี่มัน…

ตอนนี้พวกลี่เหยาเหยาเริ่มสัมผัสได้ถึงลางบอกเหตุบางอย่าง ไม่ใช่ว่าศิษย์พี่หญิงจะยังโกรธเรื่องก่อนหน้านี้อยู่หรอกนะ

และก็เหมือนตอกย้ำความคิดของเธอ ตุ๊กตาหมีสีน้ำตาลที่นิ่งมาตลอดก็ลอยขึ้นอย่างช้าๆ ไปทางหน้าประตูมิติ ทำให้ทุกคนที่ได้เห็นหน้าเปลี่ยนสีทันที

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จุติใหม่มหาเทพตี้เทียน