จุติใหม่มหาเทพตี้เทียน นิยาย บท 280

เนื่องจากทะเลสาบมรกตเป็นจุดที่มีการไหลเวียนของปราณฟ้าดิน เหนือกว่าสถานที่อื่นในประเทศจีนหลายเท่า นั่นจึงเป็นเหตุผลที่หลินซูซินเลือกสถานที่นี้เป็นฐานบัญชาการของตระกูลหลิน และสร้างคฤหาสน์ดาราสวรรค์เอาไว้

ภายหลังเมื่อทะเลสาบแห่งนี้ถูกส่งต่อให้จ้าวเทียน เขาก็ได้ร่วมมือกับลี่เหยาเหยา เพื่อปรับปรุงให้เป็นสรวงสวรรค์ของผู้ฝึกตน ที่มีพลังปราณฟ้าดินเหนือว่าโลกภายนอกเป็นร้อยเท่า

นี่จึงเป็นเหตุผลที่หลินซูซินสามารถใช้เขตอาคมปิดผนึกของแดนสวรรค์ได้ ทำให้ตอนนี้สนามรบของพวกเขาได้ถูกตัดขาดออกจากโลกภายนอกอย่างสิ้นเชิง

ไม่ว่าการต่อสู้จะรุนแรงซักแค่ไหน สภาพแวดล้อมรอบเกาะก็จะไม่ได้รับผลกระทบไปด้วย อีกทั้งยังป้องกันการตรวจจับจากดาวเทียม หรือสัมผัสวิญญาณของเซียนอีกด้วย

ตูมมม! ๆๆๆ

ในสนามรบท่ามกลางกองซากศพมากมายของพวกมารระดับต่ำ เสียงระเบิดได้เกิดขึ้นทับซ้อนกันหลายครั้ง เฉินจิ้งในร่างครึ่งมังกรบินโฉบเข้าไปต่อกรกับแม่ทัพมารระดับ S อย่างห้าวหาญ

“ เพลิงนรกอเวจี! ”

บูมมมม!

คลื่นเปลวเพลงทมิฬของเฉินจิ้ง ระเบิดม่านพลังป้องกันของแม่ทัพมารอย่างรุนแรง จนทหารมารระดับ A ห้าตนที่อยู่ด้านหลังถูกลูกหลง จนมอดไหม้เป็นเถ้าถ่าน

“ บัดซบ…แกเป็นถึงมังกรมารอเวจีในตำนาน แต่กลับทรยศเผ่าพันธุ์ไปเข้าร่วมกับพวกมนุษย์เนี่ยนะ ” แม่ทัพมารตะโกนออกมาด้วยความเดือดดาล

ถึงแม้พวกเขา จะถูกเขตอาคมพันธนาการของโลกแห่งแสงสว่าง จนทำให้เหลือพลังเพียงครึ่งเดียว

แต่ด้วยอาณาเขตราชันมารของเทพมารโลหิต ทำให้ตอนนี้พวกเขาถูกลดทอนพลังไปเพียงสองส่วนเท่านั้น ยิ่งเมื่อรวมกับจำนวนที่มากกว่าหลายเท่า โอกาสชนะใช่ว่าจะไม่มีซะทีเดียว

เปรี้ยงง!

แม่ทัพมารอีกตนลอบเร้นเข้ามา แล้วใช้กรงเล็บขนาดใหญ่กรีดแผ่นหลังของเฉิ้นจิ้งเป็นทางยาว ความรุนแรงของมันทำให้แม้แต่กำแพงมิติยังสั่นไหว

แวบบบ!

เมื่อคลื่นพลังงานสีเขียวได้ปกคลุมแผ่นหลังของเฉินจิ้ง ทำให้อาการบาดแผลของเขาหายดีในพริบตา จากนั้นเขาก็บุกทะลวงเข้าใส่ศัตรูทั้งสองอย่างดุดัน

ตราบใดที่โม่ปิงหยูยังอยู่ในสนามรบ ขอเพียงไม่ถูกสังหารในการโจมตีครั้งเดียว ต่อให้พวกเขาจะได้รับบาดเจ็บแค่ไหนก็ไม่ต้องกลัว

“ สารเลวเอ้ย…ทหารมารทุกตน บุกเข้าสังหารหญิงสาวคนนั้นซะ ” แม่ทัพมารตะโกนสั่งเสียงดัง

แต่ทว่า

ทหารมารทั้งห้าร้อยตนของพวกเขา กลับไม่สามารถบุกทะลวงค่ายกลแสงศักดิ์สิทธิ์ของโซเฟียออกไปได้

ถึงแม้เผ่าพันธุ์แสงสว่างจะไม่ถนัดในด้านการโจมตี แต่เรื่องการป้องกันและสนับสนุนพวกพ้อง ต้องยกให้เป็นอันดับหนึ่งในโลกทิพย์ทั้งหมด

ด้วยความร่วมมือกันของยอดฝีมือศาสนจักรแห่งแสงทั้งสิบเอ็ดคน ทำให้กองทัพทหารมารไร้ประโยชน์ไปทันที ทั้งยังถูกพลังศักดิ์สิทธิ์สังหารไปเรื่อยๆทีละตนสองตนอีกด้วย

สถานการณ์ตอนนี้ จึงเป็นการเผชิญหน้ากันระหว่างแม่ทัพมารสิบตนกับพรรคพวกของจ้าวเทียนเก้าคน ซึ่งฝ่ายที่ได้เปรียบคงไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเป็นใคร

เพียงแค่เขตแดนรักษาและฟื้นฟูพลังของโม่ปิงหยูกับเขตแดนมายาลวงตาของซูต๋าจี่ ก็แทบจะกดดันพวกแม่ทัพมารจนสิ้นหวังแล้ว

แต่ยังมีเฉินจิ้ง, ไป๋ซู่เจินและเหยี่ยนซืออู่อีก ความแข็งแกร่งของทั้งสามคนเหนือกว่าพวกแม่ทัพมารมาก

เมื่อต้องตกอยู่ในเขตแดนมายาแบบนี้ หากพวกมันทั้งสิบตนไม่ได้พยายามเกาะกลุ่มกันเอาไว้ คงถูกสังหารไปทีละตนอย่างรวดเร็ว

“ พี่สาวโม่…คุณกับเจนนี่คุ้มกันน้องปิงหยูเอาไว้นะ เดี๋ยวฉันจะไปช่วยผู้อาวุโสโซเฟียเก็บกวาดพวกทหารมารเอง ” หลังจากที่ดูการต่อสู้อยู่นาน ลี่เหยาเหยาก็เริ่มรู้สึกคันไม้คันมือขึ้นมา

ตัวเธอนั้นไม่ได้โดดเด่นด้านการต่อสู้ระยะประชิด คงไม่เหมาะที่จะเข้าไปตะลุมบอนกับพวกแม่ทัพมารแบบนั้น

‘ ถึงแม้เจนนี่จะต่อสู้ได้ไม่เต็มที่…แต่ก็ยังมีดำน้อยกับพี่สาวโม่อยู่ ต่อให้มีศัตรูทะลวงเขตแดนมายาออกมาได้ ก็คงไม่เป็นไร ’

“ ไม่มีปัญหา…ตรงนี้ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของฉันกับเจนนี่เอง แต่เธอก็ต้องระวังตัวด้วยนะ ” โม่ซินหยานพูดขึ้นด้วยรอยยิ้ม

ตลอดการฝึกฝนอย่างหนักหน่วงในหนึ่งเดือนที่ผ่านมา แม้พวกเธอจะก้าวหน้าขึ้นอย่างรวดเร็ว แต่ก็ไม่ได้ต่อสู้กลับใครเลย ทำให้ไม่รู้ว่าตัวเองนั้นแข็งแกร่งขึ้นแค่ไหนแล้ว

เป็นธรรมดาที่ลี่เหยาเหยาอยากจะทดสอบพลังของตนเองในการต่อสู้ของจริง หากไม่ใช่ว่าต้องปกป้องลูกสาวกับซูต๋าจี่ เธอเองก็อยากเข้าร่วมการต่อสู้เช่นกัน

เมื่อลี่เหยาเหยามาถึงจุดที่พวกโซเฟียอยู่ เธอก็เห็นทหารมารเกือบสี่ร้อยตนกำลังโจมตีใส่ค่ายกลแสงศักดิ์สิทธิ์อย่างบ้าคลั่ง

แม้พวกมันจะถูกสังหารตายไปร้อยกว่าตนแล้ว แต่ก็ไม่ได้แสดงท่าทางหวาดกลัวแม้แต่น้อย ในทางกลับกันพวกมันยิ่งคลุ้มคลั่งขึ้นกว่าเดิม

เมื่อเห็นขนาดตัวที่ใหญ่โตเกือบสี่เมตร เขี้ยวเล็บอันแหลมคมและกลิ่นอายมารอันน่าสะพรึงกลัวที่พวกมันปลดปล่อยออกมา ก็ทำให้ลี่เหยาเหยารู้สึกลังเลขึ้นมา

ตั้งแต่เกิดมาเธอไม่เคยเจออะไรแบบนี้มาก่อน มันแตกต่างจากศัตรูที่เป็นมนุษย์มาก เอาเข้าจริงๆแม้แต่มนุษย์ชั่วๆเธอก็ยังไม่เคยสังหารเลย

ต้องไม่ลืมว่า ก่อนหน้านี้ลี่เหยาเหยามีอาชีพเป็นนักร้องนักแสดง เธอไม่มีประสบการณ์ต่อสู้เสี่ยงชีวิตกับใครมาก่อน

‘ ในเมื่อฉันเลือกเส้นทางนี้แล้ว…ก็มีแต่ต้องผ่านมันไปให้ได้เท่านั้น วันนี้ฉันจะบอกลาตัวตนในอดีตและเปลี่ยนเป็นคนใหม่’

‘ หากแค่นี้ฉันยังทำไม่ได้…แล้วจะต่อสู้เคียงข้างเขาได้ยังไง ’

แวป!

ร่างของเทพธิดาซวนเฉวียนปรากฏขึ้นข้างกายลี่เหยาเหยา สายตาของเธอกวาดมองไปยังทหารมารตรงหน้าแล้วพูดขึ้น

“ เธอแน่ใจแล้วนะ…ด้วยเคล็ดวิชาที่ฉันสอนให้ เธอสามารถใช้มันสนับสนุนจ้าวเทียนได้อย่างสบาย ไม่จำเป็นต้องไปต่อสู้หรือลงมือสังหารใครด้วย ”

“ ฉันไม่ต้องการหลบอยู่ด้านหลังเขาอีกต่อไปแล้ว…ในอดีตเธอจำได้ไหมว่า เหตุผลที่เมล็ดพันธุ์แห่งทวยเทพตอบรับฉันคืออะไร ” ลี่เหยาเหยาถามกลับไป

“ จำได้สิ…เธอต้องการจะแข็งแกร่งขึ้น เพื่อที่จะต่อสู้เคียงข้างจ้าวเทียนใช่ไหม ” เทพธิดาซวนเฉวียนพูดขึ้นด้วยรอยยิ้ม

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จุติใหม่มหาเทพตี้เทียน