ร่างกายของคนเราประกอบด้วยเซลล์หลายชนิดรวมกันเป็นเนื้อเยื่อ กลายเป็นอวัยวะ มีสารและฮอร์โมนต่างๆ หลั่งไหลอยู่ภายในร่างกาย ซึ่งมีฮอร์โมนหนึ่งชื่อว่าอะดรีนาลีน ที่จะหลั่งออกมาเมื่อร่างกายเจอกับสภาวะกดดันบางอย่าง เช่น ความเครียด, โกรธ, ตื่นเต้น หรือตกใจอย่างรุนแรง
สำหรับคนธรรมดาแล้ว อะดรีนาลีนมีความจำเป็นต่อระบบหัวใจและหลอดเลือด ซึ่งถ้าร่างกายของเราหลั่งฮอร์โมนอะดรีนาลีนเพิ่มมากขึ้นเท่าไหร่ มันก็จะยิ่งช่วยส่งเลือดไปเลี้ยงเนื้อเยื่อตามส่วนต่างๆ ได้มากเท่านั้น
ซึ่งจะส่งผลให้ร่างกายของเรามีประสิทธิภาพสูงขึ้นภายในระยะเวลาสั้นๆ นี่จึงเป็นเหตุผลว่า ทำไมบางคนถึงสามารถวิ่งหนีอันตรายได้อย่างรวดเร็ว หรือยกของหนักหลายกิโลหนีตอนไฟไหม้ได้ รวมไปถึงรอดจากเหตุการณ์อื่นๆ ที่เกิดขึ้นอย่างน่าอัศจรรย์
ดูเหมือนฮอร์โมนอะดรีนาลีนนั้นจะมีประโยชน์มากมาย แต่ที่จริงแล้วมันก็มีข้อเสียที่สำคัญมากอยู่เหมือนกัน เพราะโลกของเรานั้นไม่มีอะไรที่ได้มาฟรีๆ
การที่จะได้รับบางอย่าง ก็ต้องยอมเสียบางอย่างเป็นข้อแลกเปลี่ยน นี่จึงเป็นสัจธรรมของโลกอันจริงแท้แน่นอน เพื่อที่จะแลกกับพลังอันมหาศาลในช่วงเวลาสั้นๆ ร่างกายจึงต้องเผาผลาญพลังงานที่เก็บไว้ทั้งหมดออกมาในคราวเดียว
ทำให้หลังจากที่ระเบิดพลังออกไปแล้ว ร่างกายของคนผู้นั้นก็จะอยู่ในสภาพจำศีลหลับใหลไม่ได้สติไปหลายวัน หรือที่หนักหน่อยก็อาจจะช็อคตายไปเลย นี่คือผลตอบแทนเพื่อแลกกับพลังที่ได้รับ
แต่สำหรับผู้ฝึกตนระดับเซียนนั้นกลับพิเศษกว่ามาก เพราะพวกเขามีประสาทสัมผัสและโครงสร้างทางร่างกายที่เหนือกว่าคนปกติเป็นร้อยเท่า อีกทั้งยังมีเมล็ดพันธุ์เซียนทำหน้าที่เป็นตัวให้พลังงานสำคัญ
ทำให้ นอกจากระเบิดพลังในช่วงเวลาวิกฤตได้มากขึ้นแล้ว พวกเขาเองก็จะไม่ได้รับผลกระทบแม้แต่น้อย
ส่วนผู้ที่มีพลังแฝงและพรสวรรค์เหนือธรรมดาอย่างหยางถิงเฟิงนั้น ในช่วงเวลาสุดท้ายของชีวิต ประสาทสัมผัสของเขาได้พุ่งสูงทะลุขีดจำกัด เหนือกว่าเซียนคนอื่นเป็นสิบเท่า
จนสามารถมองผ่านความทรงจำหลายสิบปีได้ในชั่วพริบตาเดียว…
และในวินาทีนี้เอง ที่เขาพบคำตอบของชีวิตที่ตัวเขาค้นหามานาน เหตุผลที่เขาทุ่มเททั้งกายและใจเพื่อฝึกฝนกระบี่อย่างหนัก ไม่ใช่เพื่อตระกูล ไม่เพื่อชื่อเสียงและไม่ใช่เพื่ออำนาจ
แต่เป็นเพราะว่า…เขาชื่นชอบในวิถีแห่งกระบี่
‘ ฉันมัวทำบ้าอะไรอยู่…โอกาสที่จะค้นพบเส้นทางใหม่เกิดขึ้นถึงสามครั้ง ทำไมฉันถึงยังลังเล’
หากหยางถิงเฟิงเชื่อมั่นในความรู้สึกของตัวเองตั้งแต่แรก บางทีสถานการณ์คงจะเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม
ตอนนี้พลังของเขาแทบจะหมดแล้ว อีกทั้งจิตใจเองก็อ่อนล้าเป็นอย่างมาก เขารู้ดีว่าคงไม่มีทางได้รับโอกาสเป็นครั้งที่สี่อีก
แต่ทว่า
หยางถิงเฟิงก็ยังไม่อยากยอมแพ้ไปทั้งแบบนี้สายตาของเขามองไปยังการโจมตีของศัตรูสองคนที่ขยับเข้ามาใกล้อย่างช้าๆ แม้จะมองเห็นจุดอ่อนของศัตรูได้อย่างชัดเจน แต่ร่างกายของเขากลับไม่ยอมฟังคำสั่งแม้แต่น้อย
ตอนนี้ตัวหยางถิงเฟิงกำลังอยู่ในสภาวะพิเศษ ที่เรียกว่าช่วงวินาทีแห่งความเป็นตาย ทำให้สมองของเขาหลั่งสารอะดรีนาลีน ออกมาเป็นจำนวนมากกว่าคนธรรมดาหลายสิบเท่า จนดูเหมือนกับห้วงเวลาได้ไหลช้าลง
‘ หากโอกาสครั้งที่สี่ไม่มีจริง…งั้นฉันก็จะเป็นคนสร้างมันขึ้นมาเอง ’
วูป!
เมล็ดพันธุ์เซียนของหยางถิงเฟิง ได้ระเบิดพลังออกมาทั้งหมดในคราวเดียว จากนั้นพลังงานมหาศาลได้ถูกลำเลียงไปยังเซลล์ทุกเซลล์ในร่างกายจนล้นปรี่
ต่อให้การทำแบบนี้จะเกิดผลเสียขึ้นภายหลัง เขาก็ไม่ใส่ใจแม้แต่น้อย
นี่คือการเดิมพันชีวิตและความตายครั้งแรก นับตั้งแต่หยางถิงเฟิงถือกำเนิดมา และก็ถือเป็นโชคดีที่เขานั้นตัดสินใจถูกต้อง
‘ เห็นแล้ว…วิถีกระบี่ของฉัน ’
ในเวลาเดียวกัน จ้าวเทียนเพิ่งจะปล่อยกระบี่บินออกไป ก็สัมผัสถึงความเปลี่ยนแปลงของหยางถึงเฟิงได้ทันที ทำให้เขาชะงักไปหนึ่งจังหวะ
วิ้ง!
กระบี่บินที่พุ่งออกไปครึ่งทาง ก็ได้วกกลับเข้ามาอยู่ในมือของจ้าวเทียนในพริบตา จากนั้นมุมปากของเขาก็ยกขึ้นเป็นรอยยิ้มพึงพอใจ
“ ในที่สุด…ก็ทำได้สินะ ”
ทันใดนั้น
ในตอนที่ทุกสายตาต่างจับจ้องไปที่วาระสุดท้ายของหยางถิงเฟิง กระบี่ในมือเขาก็เปล่งแสงสีขาวออกมา แล้วพร่าเลือนจนหายไป
ไม่สิ…เพราะมันรวดเร็วจนเกินไปต่างหาก จนสายตาของคนอื่นๆไม่อาจจับภาพได้ทัน
เปรี้ยง! ฉัวะ!ๆๆๆ
มองเห็นลำแสงสีขาว เหมือนกับเส้นโค้งอันสวยงามตัดผ่านกันแล้วแยกออก จากนั้นดรรชนีเป็นตายของถังลู่ซิง และดาบมารสังหารของซินเจี่ยงก็ถูกทำลายในพริบตา
!!
“ นี่แก…ทำอะไรลงไป ” ซินเจี่ยงพูดขึ้นด้วยความตกตะลึง อีกฝ่ายสามารถทำลายกระบวนท่าไม้ตายของเขาในครั้งเดียวได้อย่างไรกัน
ซินเจี่ยงที่ว่าตกใจแล้ว ถังลู่ซิงกลับตกใจมากกว่าเป็นร้อยเท่า ตอนนี้สายตาของเขาจับจ้องไปที่มือของตัวเองด้วยความหวาดกลัว เพราะเขาไม่มีความรู้สึกถึงมือข้างนี้เลย
เสี้ยววินาทีนั้นเอง!
ตรงข้อมือของถังลู่ซิงก็ปรากฏเส้นสีแดงเล็กๆขึ้น จากนั้นมือของเขาก็ร่วงตกลงบนพื้น พร้อมกับเลือดที่สาดกระจายออกมา
“ กรอดดด!... ” ถังลู่ซิงกัดฟันขึ้นด้วยความเจ็บปวด เขารีบใช้พลังห้ามเลือดไว้อย่างรวดเร็ว แล้วมองไปยังหยางถิงเฟิงด้วยแววตาสั่นสะท้าน
“ ต้องขอบคุณพวกแกมาก…ที่กดดันฉันจนสามารถบรรลุขอบเขตนี้ได้ในที่สุด และเพื่อเป็นการตอบแทน ฉันจะให้พวกแกได้รับเกียรติเป็นสองศพแรกที่ได้ตายเพราะมัน ” หยางถิงเฟิงพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเย็นชา
“ สำนึกกระบี่ ลมคลั่งฝนกระหน่ำ! ”
ฉัวะ!ๆ
กระบี่ในมือของหยางถิงเฟิงฟันออกไปสองครั้ง แต่กลับมองเห็นเป็นภาพติดตาจำนวนมาก รังสีกระบี่หลายสิบสายระเบิดเข้าใส่ศัตรูทั้งสองอย่างรุนแรง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จุติใหม่มหาเทพตี้เทียน