จุติใหม่มหาเทพตี้เทียน นิยาย บท 291

การปรากฏตัวของเจ้าสำนักสุสานโบราณนั้นสร้างความกดดันให้พวกศัตรูทุกคน โดยเฉพาะเจ้าสำนักสราญรมย์ เนื่องจากเธอคือเป้าหมายสำคัญของเขาเอง

หากได้รับพลังหยินบริสุทธิ์จากยอดฝีมือระดับนี้ บางทีตัวเขาอาจะบรรลุขอบเขตเซียนนภาในตำนานก็เป็นได้

ถึงแม้ว่าเจ้าสำนักลิ้มจะอยู่ในขอบเขตครึ่งก้าวเซียนนภาเช่นกัน แต่ก็อ่อนด้อยกว่าเจ้าสำนักสุสานโบราณขั้นหนึ่ง นี่จึงเป็นเหตุผลที่เขายอมร่วมมือกับพรรคดาบมาร ก็เพราะต้องการผู้ช่วยในการรับมือกับเธอนั่นเอง

“ กงม่านเออร์…ฉันได้ข่าวว่าเธอส่งคนไปขอความช่วยเหลือจากสำนักอื่นๆมากมายเลยนี่ ได้ผลลัพธ์เป็นอย่างไรบ้างล่ะ มีสำนักไหนมาถึงหรือยัง ” ลิ้มเฉียวฟงไม่ได้ตอบคำถาม แต่เลือกที่จะพูดจาก่อกวนอีกฝ่ายแทน

ซึ่งคำพูดประโยคนี้ของเขานั้นได้ผลเป็นอย่างมาก เพราะหญิงสาวทุกคนในสำนักสุสานโบราณหน้าเปลี่ยนสีไปทันที

โดยเฉพาะกงหมิงยู่นั้น เธอมีท่าทีกังวลอย่างเห็นได้ชัด เนื่องจากพันธมิตรที่เข้มแข็งที่สุดอย่างสำนักหัวซานก็ยังมาไม่ถึงเช่นกัน

“ นี่เป็นผีมือของพวกแกสินะ… ” กงม่านเออร์ถามขึ้นด้วยน้ำเสียงเย็นชา

“ ใช่แล้ว…ฉันส่งกองกำลังอีกเจ็ดสำนัก ซึ่งเป็นพันธมิตรของฉัน ไปดักซุ่มโจมตีตามจุดต่างๆรอบเส้นทาง ที่ใช้มาที่นี่เรียบร้อย ”

“ น่าเสียดายนะ…กำลังเสริมที่พวกเธอรออยู่คงจะมาไม่ถึงหรอก ” ลิ้มเฉียวฟงพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเย้ยหยัน

ตอนแรกเขาเองก็ไม่ได้อยากทำแบบนี้ เขาต้องการทำเรื่องนี้ให้เงียบที่สุด แต่ปัญหามันอยู่ที่ สำนักสุสานโบราณกลับสามารถเชิญผู้ช่วยเหลือมาได้มากมาย

ดังนั้นเขาจึงต้องตัดไฟแต่ต้นลม เพื่อไม่ให้ฝ่ายตรงข้ามได้มารวมตัวกัน

“ ถึงกับยอมเป็นศัตรูกับสำนักมากมายแบบนี้…เห็นทีจุดประสงค์ของแกคงไม่ใช่เพียงแค่ศิษย์ชั้นยอดยี่สิบคนของสำนักฉันแล้วใช่ไหม ” กงม่านเออร์พูดขึ้นด้วยแววตาเฉียบคม

“ เธอเองก็ฉลาดเหมือนกันนี่…สิ่งที่ฉันต้องการจริงๆก็คือ ทำให้ศิษย์สำนักสุสานโบราณทุกคนมาเป็นคู่ฝึกเซียนให้กับสำนักของฉัน ไม่ต้องเป็นห่วง พวกเธอเองก็จะได้รับประโยชน์เหมือนกัน ”

“ แรกๆอาจจะไม่คุ้นชินอยู่บ้าง…แต่พอปรับตัวได้ พวกเธอก็จะได้สัมผัสถึงความสุขสมที่แท้จริงเอง ” ลิ้มเฉียวฟงพูดขึ้นแววตาเป็นประกาย สีหน้าของเขาดูหื่นกระหายเป็นอย่างมาก

“ ใช่แล้ว มาอยู่กับพวกเราเถอะ รับรองพวกฉันจะดูแลอย่างดีเลย ”

“ ทั้งมีความสุข ทั้งได้ประโยชน์กันทั้งสองฝ่าย พวกเธออย่าลังเลเลยนะ ”

พวกผู้ฝึกตนชายจากสำนักสราญรมย์ส่งเสียงสนับสนุนทันที สายตาที่พวกเขาใช้มองหญิงสาวเหล่านั้นเต็มไปด้วยความชั่วร้าย

ไม่ใช่ว่าสำนักสราญรมย์จะไม่มีผู้ฝึกตนหญิง แต่ปัญหาคือมันมีน้อยจนเกินไป ในบรรดาศิษย์ทั้งหมด มีผู้ฝึกตนหญิงอยู่เพียงส่วนเดียวเท่านั้น

เนื่องจากเคล็ดวิชาของพวกเขาเกือบครึ่ง ให้ความสำคัญในการมีเพศสัมพันธ์กับคู่ฝึกฝน โดยเฉพาะถ้าอีกฝ่ายเป็นชายหนุ่มหรือหญิงสาวพรหมจรรย์ มันจะได้ผลดีขึ้นหลายเท่า ทำให้มีหญิงสาวน้อยคนมากที่จะเลือกเข้าร่วมสำนักนี้

ในสายตาของชายหนุ่มพวกนี้ สำนักสุสานโบราณที่มีแต่หญิงสาวบริสุทธิ์ที่งดงามเต็มไปหมด นั่นเปรียบเสมือนแดนสวรรค์ไม่มีผิด

ด้วยเคล็ดวิชาเฉพาะของสำนักสุสานโบราณ ทำให้พวกเธอรักษารูปโฉมเอาไว้ได้ตราบจนสิ้นอายุขัย ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดก็คือตัวของเจ้าสำนักเอง แม้เธอจะมีอายุมากกว่าสี่ร้อยปีแล้ว แต่ใบหน้าของเธอยังคงเหมือนสาวแรกรุ่นอายุไม่ถึงยี่สิบปีด้วยซ้ำ

แค่คิดว่าจะได้นอนกอดสาวสามที่ไม่มีวันแก่ชรา ก็ทำให้พวกผู้ชายในสำนักสราญรมย์บ้าคลั่งขึ้นมา

“ เหอะ...พวกแกอย่าได้หวังเลย สำนักของฉันไม่มีทางลดตัวลงไปทำเรื่องแบบนั้นเด็ดขาด ” ผู้อาวุโสคนหนึ่งของสำนักสุสานโบราณตะโกนขึ้นเสียงดังด้วยความโกรธ

“ ใช่แล้ว พวกเรายอมตายดีกว่าตกเป็นของพวกแก ” หญิงสาวหลายคนพูดขึ้นพร้อมกัน แค่เห็นสายตาของฝ่ายตรงข้ามก็รู้สึกสะอิดสะเอียนเต็มทีแล้ว

ในขณะที่ทั้งสองฝ่ายตะโกนด่าทอกันนั้น เจ้าสำนักกงก็ได้ประเมินขุมกำลังของฝ่ายตรงข้ามอย่างเคร่งเครียด โดยเฉพาะตัวประมุขของพรรคดาบมาร

เพราะเหตุผลเดียวที่พรรคดาบมาร ซึ่งไม่มีเซียนขั้นสูงสุดคนอื่น แต่สามารถยืนอยู่หัวแถวของสำนักระดับกลางทั้งหมดได้ ก็คือตัวประมุขเอง

เธอสัมผัสได้ว่าอีกฝ่ายน่าจะมีความแข็งแกร่งอยู่ในระดับเดียวกันกับตัวเธอ

“ ประมุขกวงฉี…ฉันขอทราบเหตุผลที่คุณร่วมมือกับสำนักสราญรมย์ได้ไหม ” เจ้าสำนักกงได้ส่งเสียงทางลมปราณหาอีกฝ่าย หากสามารถตกลงกันได้ สถานการณ์ของพวกเธอก็จะคลี่คลายทันที

“ สมบัติตกทอดจากแดนสวรรค์ ของสำนักสุสานโบราณ ” ประมุขกวงฉีตอบกลับไปเพียงหนึ่งประโยค ทำสีหน้าของกงม่านเออร์คล้ำลงอย่างเห็นได้ชัด

เพราะดูเหมือน เธอจะไม่อาจหลีกเลี่ยงการต่อสู้กับอีกฝ่ายได้แล้ว

แต่ทันใดนั้นเอง

เปรี้ยง! ตูมมมม!

อ้ากกก!

ชายป่าด้านหนึ่งได้ถูกภาพลวงตาของกระบี่ขนาดยักษ์ ตัดขาดเป็นสองเสี่ยงพร้อมกับหน่วยสอดแนมเกือบสิบคนของสำนักสราญรมย์

“ สังหารพวกมันให้หมด ” จ้าวเทียนพูดขึ้นด้วยสีหน้าเย็นชา ที่ด้านหลังเขายังมีหยางถิงเฟิงและยอดฝีมือคนอื่นของสำนักหัวซาน

สำหรับหยางถิงเฟิงนั้น หลังจากที่เขาฟื้นขึ้นมาจ้าวเทียนก็พูดคุยกับเขาเป็นการส่วนตัว ให้ปิดเรื่องตัวตนที่แท้จริงของจ้าวเทียนเอาไว้ เพื่อป้องกันไม่ให้สมาพันธ์บู๊ลิ้มเชื่อมโยงความสัมพันธ์ของจ้าวเทียนกับสำนักสุสานโบราณได้

“ รับคำสั่ง! ”

กองกำลังทั้งหมดบุกทะลวงไปด้านหน้าทันที นำโดยหยางถิงเฟิงและเซียนอีกเก้าคน ไม่ว่าใครก็ตามที่ขวางทางพวกเขาล้วนแต่ถูกปดขยี้อย่างไร้ปราณี

เนื่องจากเซียนเกือบเจ็ดส่วน ของสำนักสราญรมย์และพรรคดาบมารได้ถูกพวกจ้าวเทียนสังหารไปก่อนหน้านี้แล้ว