จุติใหม่มหาเทพตี้เทียน นิยาย บท 306

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นรวดเร็วจนจ้าวเทียนตั้งตัวไม่ทัน กว่าที่เขาจะรู้สึกตัวกงม่านเออร์ก็ลงไปคุกเข่าคำนับอยู่ที่พื้นแล้ว

“ เจ้าสำนักกงรีบลุกขึ้นมาก่อนเถอะ คุณทำแบบนี้จะให้ฉันปฏิบัติตัวอย่างไร ” จ้าวเทียนรีบส่งสัญญาณให้กงเสี่ยวเหมยไปประคองอีกฝ่ายลุกขึ้นมา

“ ใช่แล้วท่านอาจารย์…คุณไม่จำเป็นต้องทำแบบนี้หรอก รีบลุกขึ้นมาก่อนเถอะค่ะ” กงเสี่ยวเหมยพูดขึ้นอย่างจริงจัง พร้อมทั้งพยายามประคองกงม่านเออร์ขึ้นมา

ตลอดเวลาหนึ่งเดือนที่อยู่ในสำนักสุสานโบราณ กงม่านเออร์ดูแลเธออย่างดี ทั้งคอยช่วยเหลือทุกอย่าง ทำให้ใจของเธอให้ความเคารพอีกฝ่ายมาก

กึก!

ร่างของกงม่านเออร์ยังคงนิ่งอยู่บนพื้น ไม่ว่าจะทำอย่างไรก็ไม่ยอมขยับ…

จนกระทั่ง จ้าวเทียนเหมือนจะสังเกตได้ถึงบางอย่าง เขาจึงรีบเก็บป้ายเข้าไปในแหวนมิติ ทำให้กงม่านเออร์ได้สติขึ้นมา แล้วรีบลุกขึ้นด้วยท่าทางทุลักทุเล

“ ฉันต้องขอโทษจริงๆ ที่ทำให้พวกเธอตกใจ ก่อนหน้านี้ฉันควบคุมตัวเองไม่ได้ เมื่อป้ายบัญชาราชันปรากฏขึ้น จิตสำนึกของฉันมันก็สั่งการให้ทำแบบนั้นทันที ” กงม่านเออร์พูดขึ้นด้วยท่าทางไม่สู้ดีนัก ในใจเธอยังรู้สึกหวาดกลัวกับสิ่งที่เกิดขึ้น

“ ควบคุมตัวเองไม่ได้งั้นเหรอ…เจ้าสำนักกงหมายความว่า ผู้ใดก็ตามที่เป็นเจ้าของป้ายอันนี้ จะสามารถสั่งการคุณได้ทุกเรื่องเลยใช่ไหม ” จ้าวเทียนถามขึ้นด้วยท่าทีจริงจัง

เขาคิดว่าบางทีเรื่องนี้คงเป็นฝีมือของมหาเทพจูเซียน เพื่อควบคุมสำนักสุสานโบราณเอาไว้ในตอนที่เขาฟื้นคืนชีพ

“ ใช่แล้ว…ฉันก็ไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น แต่ฉันรู้สึกว่าไม่สามารถขัดขืนผู้ถือป้ายได้ ”กงม่านเออร์อธิบายความรู้สึกออกมาตามตรง

จ้าวเทียนที่ได้ยินก็รู้สึกแปลกใจขึ้นมา เพราะก่อนหน้านี้เขาก็บอกให้อีกฝ่ายลุกขึ้นแล้ว แต่ทำไมไม่ได้ผล

‘ หรือว่า…มันจะต้องมีขั้นตอนบางอย่าง ’

“ ขอโทษนะเจ้าสำนักกง ขอฉันทดลองอะไรบางอย่างได้ไหม ” จ้าวเทียนพูดขออนุญาตก่อน ซึ่งเมื่อเห็นอีกฝ่ายพยักหน้า เขาก็นำป้ายออกมาอีกครั้ง แต่คราวนี้มันกลับไม่เกิดอะไรขึ้น แตกต่างจากตอนแรกอย่างสิ้นเชิง

“ นี่มันแปลก… ” กงม่านเออร์กำลังจะพูดบางอย่างออกมา แต่ทันใดนั้นตัวเธอก็แข็งทื่อ แล้วยกแขนซ้ายขึ้นมาค้างเอาไว้

วูป!

เมื่อได้พิสูจน์สิ่งที่ต้องการแล้ว จ้าวเทียนก็รีบเก็บป้ายกลับไปทันที ทำให้กงม่านเออร์กลับมาเป็นปกติอีกครั้ง

“ ฉันเข้าใจแล้ว…ป้ายนี้ทำหน้าที่เหมือนกับพันธสัญทาสของโลกหมิงหลง วิธีใช้งานก็คือต้องส่งพลังเข้าไปเสียก่อน แล้วค่อยออกคำสั่งในใจ ” จ้าวเทียนบอกข้อสรุปของตัวเองให้ฟัง เมื่อครู่นี้เขาสั่งให้กงม่านเออร์ยกแขนซ้ายขึ้นมา

“ นี่หมายความว่า…ชีวิตของฉันต้องตกอยู่ในการควบคุมของใครก็ตามที่ถือป้ายอันนี้งั้นเหรอ ” กงม่านเออร์พูดออกมาด้วยความหวาดกลัว

“ ไม่ถึงขั้นนั้น…ป้ายอันนี้มีเพียงเจ้าของที่แท้จริงเท่านั้น ถึงจะใช้ได้ คุณไม่ต้องกังวล ฉันขอสาบานด้วยจิตวิญญาณของตัวเอง ว่าจะไม่ใช้มันบังคับฝืนใจให้คุณทำอะไรแน่นอน ” จ้าวเทียนพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง

ดวงตาของเขาเปล่งแสงสีขาวออกมา แสดงให้เห็นว่าจิตวิญญาณของเขาได้ตอบรับคำสาบานแล้ว

“ ขอบคุณมาก ” กงม่านเออร์รู้สึกดีขึ้นมาเล็กน้อย เมื่อเห็นความจริงใจของจ้าวเทียน

“ ว่าแต่…คุณลองนึกดูดีๆ เผื่อจะเจอสาเหตุที่ทำให้คุณเป็นแบบนี้ ” จ้าวเทียนพูดออกมาอย่างใจเย็น

“ ฉันคิดว่า บางทีมันอาจจะเป็นตอนที่อยู่ในพิธีแต่งตั้งเจ้าสำนัก ที่ผู้นำคนใหม่จะต้องหยดเลือดและให้คำสัตย์ปฏิญาณต่อหน้าบรรพชน ” กงม่านเออร์พูดอย่างไม่ค่อยมั่นใจเท่าไรนัก

“ ฉันว่าคุณคิดถูกแล้วล่ะ…คงเป็นตอนนั้นจริงๆ เพราะการหยดเลือดและให้คำสัตย์ปฏิญาณเป็นพิธีรับผู้ติดตามบนแดนสวรรค์เมื่อหนึ่งหมื่นปีก่อน ” จ้าวเทียนอธิบายออกมา

“ งั้นทั้งหมดนี้ ก็เป็นฝีมือของบรรพชนสำนักของฉันสินะ ” กงม่านเออร์ยอมรับชะตากรรมในที่สุด อย่างน้อยก็ถือเป็นโชคดี ที่เจ้าของป้ายเป็นจ้าวเทียนไม่ใช่ผู้ชายคนอื่น

ไม่อย่างนั้น สำนักสุสานโบราณที่มีแต่สาวงามคงถึงคราวหายนะแน่นอน

“ ว่าแต่ ป้ายนี้ใช้ทำอะไรได้บ้างเหรอ…คงไม่เพียงแค่สั่งการคุณได้อย่างเดียวใช่ไหม ” จ้าวเทียนถามขึ้นด้วยความคาดหวัง การที่มหาเทพจูเซียนมอบป้ายนี้แก่เขา มันจะต้องมีประโยชน์ต่อแผนการในอนาคตแน่นอน

“ อืม…ดูเหมือนจะมีคำสั่งเสียของประมุขรุ่นก่อน ว่าเมื่อพบเจ้าของป้ายอันนี้จะต้องพาไปยังสถานที่แห่งหนึ่ง ”

“ ตกลง…รบกวนคุณพาฉันไปได้เลย ” จ้าวเทียนตอบรับทันที

ผ่านไปครู่หนึ่ง กงม่านเออร์ก็พาพวกจ้าวเทียนมาถึงถ้ำแห่งหนึ่ง ที่อยู่ฝั่งตรงข้ามกับเขตหวงห้ามที่พวกเขาอยู่ในตอนแรก

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จุติใหม่มหาเทพตี้เทียน