จุติใหม่มหาเทพตี้เทียน นิยาย บท 310

ณ ส่วนลึกที่สุดของสุสานบรรพชนตระกูลฉิน

พื้นที่แห่งนี้ ได้ถูกปรับเปลี่ยนเป็นเหมืองหินวิญญาณขนาดใหญ่ โดยมีการสร้างกลไกทางเข้าลับ และจัดเวรยามป้องกันอย่างรัดกุม เพื่อปกปิดสายตาจากคนภายนอก

แม้ว่าตอนนี้แคว้นต้าฉินจะตกอยู่ในการควบคุมของพวกจ้าวเทียนแล้ว แต่ก็ต้องเก็บซ่อนเพื่อไม่ให้สมาพันธ์บู๊ลิ้มรู้อยู่ดี

เนื่องจากช่วงเวลานี้ พวกเขายังไม่พร้อมสำหรับการต่อสู้…

“ ศิษย์พี่รอง ตอนนี้พวกเราได้รับหินวิญญาณระดับสูง เพียงพอสำหรับค่ายกลป้องกันเมืองหรือยัง ” จ้าวเทียนถามขึ้นด้วยน้ำเสียงจริงจัง

“ พอแล้วล่ะ…ยังมีส่วนที่เหลืออีกประมาณสองร้อยก้อน ฉันได้เก็บพวกมันเอาไว้ใช้สำรองสำหรับการต่อสู้ในอนาคต ”

“ เหมืองหินวิญญาณของพวกเราเหนือกว่าพวกสมาพันธ์บู๊ลิ้มมากเลยนะ จากที่ฉันตรวจสอบดูเหมืองของพวกเราใหญ่กว่าเกือบสามเท่าเห็นจะได้ ” คังหลินพูดขึ้นด้วยรอยยิ้ม วันนี้เขาอารมณ์ดีจริงๆ เพราะแก้ปัญหาเรื่องฉินฟ่านเออร์ได้แล้ว

‘ ฉินฟ่านเออร์ดูเหมือนจะหวาดกลัวศิษย์น้องมาก เพียงแค่ศิษย์น้องพูดออกไปประโยคเดียว เธอก็รีบตกปากรับคำทันที ’

ทางฝ่ายจ้าวเทียนที่สังเกตเห็นใบหน้ายิ้มแย้มของคังหลิน ก็ได้แต่ส่ายหน้าเบาๆแล้วถอนหายใจเล็กน้อย

เมื่อวานนี้หลังจากที่จ้าวเทียนกลับมาถึงได้ซักพัก คังหลินก็พาไปพบกับฉินฟ่านเออร์เพื่อให้เขาออกหน้าให้ ซึ่งเธอก็รับฟังแล้วยอมทำตามอย่างว่าง่าย

‘ ผู้หญิงคนนั้น…ใช้แผนจะจับแต่แสร้งปล่อยชัดๆ แต่ศิษย์พี่รองไม่รู้ตัวแม้แต่น้อย เขาไม่แม้แต่จะสังเกตเห็นว่า ตัวเองปฏิบัติตัวกับเธอเปลี่ยนไปจากตอนแรกทีละนิด ’

‘ หากเป็นในอดีต…ศิษย์พี่รองคงจะใช้กำลังบังคับให้เธอทำตาม เหมือนตอนที่ทำพันธสัญญาทาสแล้ว ไม่จำเป็นต้องให้ฉันออกหน้าให้แบบนี้ ’

จ้าวเทียนคิดว่า คงเป็นเพราะทั้งสองคนอยู่ร่วมกันและผ่านเหตุการณ์ร้ายๆด้วยกันมาหลายครั้ง ซึ่งฉินฟ่านเออร์ก็คอยช่วยเหลือสนับสนุนคังหลินอย่างเต็มความสามารถ

ทำให้ทั้งคู่เกิดเป็นความรู้สึกผูกพันขึ้นโดยไม่รู้ตัว…

ตอนนี้ สายตาของพวกจ้าวเทียนกำลังกวาดมองไปยัง ผู้เชี่ยวชาญของหน่วยเงาปีศาจหลายร้อยคน ที่กำลังเร่งมือใช้พลังปราณกลั่นหินวิญญาณระดับสูงออกมาอย่างต่อเนื่อง

ถึงแม้จะใช้คำว่าขุดเหมือง แต่ก็ไม่ใช่การใช้จอบหรือเสียมขุดเอาจากพื้นดิน วิธีที่จะได้รับหินวิญญาณมา คือการให้ผู้เชี่ยวชาญใช้พลังปราณของตนดึงดูดพลังวิญญาณที่ต้นกำเนิดเหมืองปลดปล่อยออกมา เพื่อสร้างเป็นหินวิญญาณ

ซึ่งผู้เชี่ยวชาญหนึ่งคน ต้องใช้เวลาถึงสิบชั่วโมงถึงจะสกัดหินวิญญาณออกมาได้หนึ่งก้อน ก่อนที่จะต้องพักผ่อนเพื่อฟื้นจากความเหนื่อยล้าเป็นเวลานาน

ซึ่งขั้นตอนนี้ละเอียดอ่อนและสิ้นเปลืองพลังเป็นอย่างมาก มีเพียงผู้ที่ควบคุมลมปราณได้อย่างเชี่ยวชาญเท่านั้นถึงจะทำได้ ส่วนคนธรรมดาก็เป็นได้เพียงแค่แรงงานช่วยอำนวยความสะดวกเท่านั้น

นี่จึงเป็นเหตุผล ที่ตลอดเวลาที่ผ่านมาห้าแคว้นใหญ่ต้องส่งยอดฝีมือระดับผู้เชี่ยวชาญ ไปเป็นแรงงานขุดเหมืองให้กับสมาพันธ์บู๊ลิ้มทุกสิบปี โดยที่พวกเขาได้รับผลตอบแทนไม่ถึงหนึ่งส่วน

เมื่อเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นบ่อยครั้งเข้า…จึงไม่แปลกที่จะมีความคิดต่อต้านขึ้น

เพราะแม้กระทั่ง ยอดฝีมือระดับปรมาจารย์ยังมีอายุขัยเพียงหนึ่งร้อยปีเท่านั้น พวกเขาลำบากฝึกฝนมาแทบตาย

สุดท้ายต้องใช้เวลาสูญเปล่าไปสิบปีกับการขุดเหมือง เรื่องแบบนี้จะให้ทนรับได้อย่างไร

“ ศิษย์พี่รอง อีกหนึ่งชั่วโมงสั่งให้พวกเขาหยุดมือแล้วออกไปได้เลย ฉันต้องการใช้ทรัพยากรในเหมืองหินวิญญาณทั้งหมด เพื่อทลายขอบเขตครึ่งก้าวเซียนนภา ”

คำพูดของจ้าวเทียน ทำให้คังหลินถึงกับผงะไปทันที แล้วรีบถามย้ำอีกครั้งด้วยความไม่แน่ใจ

“ ทั้งหมดเลยเหรอ…มันเยอะเกินไปหรือเปล่า นายแค่สร้างโลกภายในที่ไม่สมบูรณ์ไม่ใช่หรือไง จากที่ฉันศึกษาวิถีเซียนที่นายฝึกฝน ในขั้นตอนนี้โดยปกติใช้หินวิญญาณระดับสูงห้าร้อยก้อนก็เกินพอแล้ว ”

ต้องรู้ก่อนว่า เหมืองแห่งนี้สามารถผลิตหินวิญญาณระดับสูงได้ห้าหมื่นก้อนต่อปี ทั้งยังถูกปิดตายมานาน ทำให้อัดแน่นไปด้วยพลังวิญญาณมากมายมหาศาล

จากที่คังหลินตรวจสอบได้ แค่เพียงพลังวิญญาณที่เหลืออยู่ในเหมืองตอนนี้ ก็เทียบเท่ากับหินวิญญาณระดับสูงสี่หมื่นก้อนเข้าไปแล้ว

คังหลินกลัวว่า โลกภายในของจ้าวเทียนจะรับไม่ไหวแล้วระเบิดออกมา

“ คุณไม่ต้องกังวล…เมล็ดพันธุ์เซียนของฉันไม่เหมือนคนอื่น ถ้าให้เปรียบเทียบก็เหมือนดวงอาทิตย์กับดวงดาวนั่นแหละ การจะวิวัฒนาการเมล็ดพันธุ์เซียนของฉันให้เปลี่ยนเป็นโลกภายในได้นั้น มันต้องใช้พลังวิญญาณมหาศาลมาก ”

“ แถมครั้งนี้ ฉันตัดสินใจใช้โลกภายในของเทพโลกาขั้นเก้าเป็นแกนกลาง ถึงแม้มันจะพังทลายไปเกือบเก้าส่วนจนเหลือแต่โครงสร้าง แต่ก็ยังมีความแข็งแกร่งเหนือกว่าโลกภายในที่สมบูรณ์ของเซียนนภาเสียอีก ”

“ ไม่แน่ว่า…พลังวิญญาณที่เหลืออยู่ในเหมืองตอนนี้ อาจจะไม่พอด้วยซ้ำ ” จ้าวเทียนรู้สึกหมดหนทางเล็กน้อย

หากเขายังอยู่ที่พระราชวังจักรพรรดิของมหาเทพจูเซียน ปัญหานี้จะไม่มีทางเกิดขึ้นแน่นอน แต่ทว่า อีกฝ่ายกลับส่งเขาออกมาอย่างรวดเร็ว ไม่เปิดโอกาสให้เขาได้พูดออกมาแม้แต่น้อย

‘ ถ้าไม่ติดที่ฉัน เตรียมจะใช้เลือดแก่นแท้มังกรเพื่อการทลายขอบเขตเซียนนภาในอนาคต คงไม่จำเป็นต้องใช้เหมืองหินวิญญาณระดับสูงแห่งนี้ด้วยซ้ำ ’

หินวิญญาณระดับสูงพวกนี้มีประโยชน์ในการสร้างขุมกำลังมาก หากไม่จำเป็นจริงๆ จ้าวเทียนก็ไม่อยากใช้มันจนหมดในคราวเดียวเหมือนกัน

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จุติใหม่มหาเทพตี้เทียน