เช้าวันต่อมา จ้าวเทียนกับพวกเซียนหลิงอีกสี่คน ก็ได้ไปพบกับมหาเทพจูเซียน ก่อนที่จะออกไปทำตามแผนการที่วางเอาไว้ เนื่องจากวันนี้เป็นเวลาที่ประตูมิติสู่โลกภายนอกจะเปิดออก
ซึ่งตอนนี้พวกจ้าวเทียนก็ได้เตรียมการทุกอย่างพร้อมแล้ว เห็นได้จากอาวุธชุดเกราะของพวกเซียนหลิงทั้งสี่ ถูกเปลี่ยนเป็นของใหม่ทั้งหมด
นี่คือสิ่งที่ถูกเก็บเอาไว้ในคลังแสงของมหาเทพจูเซียน ด้วยความแข็งแกร่งของอุปกรณ์ระดับเทพชั้นยอด ต่อให้ต้องเผชิญหน้ากับศัตรูระดับเจ้าตำหนักเทวะเพียงลำพัง ก็ยังมีพลังเพียงพอที่จะตอบโต้
“ เรื่องขอบเขตฟ้าดินแห่งกระบี่ของเจ้านั้น แม้มันจะมีอานุภาพรุนแรงเป็นอย่างมาก แต่ก็มีจุดอ่อนสำคัญอยู่เช่นกัน ”
“ เพราะเมื่อไหร่ที่เจ้าหมดสติลงในระหว่างการต่อสู้ นั่นก็หมายถึงความพ่ายแพ้และความตายอย่างแน่นอน ” มหาเทพจูเซียนพูดถึงเหตุการณ์เมื่อวาน ตอนที่จ้าวเทียนเอาชนะหุ่นเชิดจิตวิญญาณระดับแดนเทพสิบคน แล้วหมดสติไปพร้อมกัน
“ เรื่องนั้นคุณไม่ต้องกังวล ฉันรู้ความสามารถของตนเองดี ก่อนหน้านี้ฉันเพียงต้องการทดสอบพลังที่แท้จริงของฟ้าดินแห่งกระบี่ดูก็เท่านั้น ” จ้าวเทียนพูดขึ้นด้วยท่าทีผ่อนคลาย
รังสีกระบี่หมื่นสาย เป็นขีดจำกัดสูงสุดที่โลกภายในของจ้าวเทียนรับไหว ก่อนที่จะสูญเสียพลังทั้งหมดไป
ดังนั้นหากเขาระวังในจุดนี้ และสร้างรังสีกระบี่ไม่เกินแปดพันสาย แม้มันอาจจะสิ้นเปลืองพลังไปมาก แต่ก็คงจะไม่มีผลกระทบอะไรเกิดขึ้น
‘ ศัตรูของฉันเป็นเพียงขอบเขตแดนเทพระดับกลางถึงสูง แตกต่างกับหุ่นเชิดของมหาเทพจูเซียนที่อยู่ในระดับแดนเทพขั้นสูงสุด ’
‘ อีกทั้งฉันยังมีเทพกระบี่ และคนอื่นๆให้ความช่วยเหลือ บางที แค่รังสีกระบี่หห้าพันสายก็เพียงพอที่จะเอาชนะพวกเขาพร้อมกันแล้ว ’
จ้าวเทียนตัดสินใจสังหารศัตรูทั้งหมดในคราวเดียว เพื่อการนี้ตัวเขาไม่อาจรีบเปิดเผยตัวตนออกไปตั้งแต่แรก
ต้องรอจนกว่า ศัตรูทุกคนจะปรากฏตัวออกมาก่อน แล้วค่อยปิดบัญชีทีเดียว ไม่ให้มีผู้ใดหนีรอดและกลายเป็นเภทภัยในอนาคต
หลังจากที่พูดกันต่อไปอีกสักพัก จ้าวเทียนก็ขอตัวจากมาพร้อมกับพวกเซียนหลิงทั้งสี่ โดยมีมหาเทพจูเซียนช่วยเคลื่อนย้ายพวกเขา ไปยังเมืองที่อยู่ใกล้ที่สุดให้
ในเวลาเดียวกันที่มณฑลเหอเป่ย ประเทศจีน
เมืองแห่งนี้อยู่ห่างจากปักกิ่งประมาณสองร้อยกิโลเมตร มีประชากรมากเป็นอันดับหกของประเทศจีน ซึ่งประกอบไปด้วยชนกลุ่มใหญ่ที่เป็นชาวฮั่นร้อยละเก้าสิบหก จัดเป็นเมืองที่มีประวัติเก่าแก่ตั้งแต่ยุคสามก๊ก
และสถานที่แห่งนี้เอง ที่มีการเชื่อมต่อกับโลกใบเล็กของสำนักโบราณ โดยในทุกๆแปดถึงสิบปีประตูมิติจะเปิดขึ้นหนึ่งครั้ง
โดยจะมีระยะเวลาประมาณหนึ่งปีก่อนที่ประตูมิติจะปิดลง ดังนั้นสำนักโบราณต่างๆจึงมีการวางกำลังส่วนตัวเอาไว้ที่มณฑลเหอเป่ย เพื่ออำนวยความสะดวกและติดต่อสื่อสารกับโลกภายนอก
นี่จึงเป็นเหตุผลที่ตอนนี้สามารถพบเห็น ผู้ฝึกตนมากมายเดินทางมายังสถานที่แห่งนี้อย่างเนืองแน่น
บนเนินเขาแห่งหนึ่ง ซึ่งห่างจากจุดที่ประตูมิติจะเปิดประมาณสิบกิโลเมตร ได้ถูกจัดตั้งเป็นเขตหวงห้ามทางการทหาร มีการสร้างฐานบัญชาการขนาดใหญ่ขึ้น เพื่อจัดการเรื่องอาวุธยุทโธปกรณ์ต่างๆสำหรับใช้ในสงคราม
และด้วยความที่สถานที่แห่งนี้ มีเจ้าหน้าที่ระดับสูงมากมาย รวมถึงบุคลากรชั้นยอดจากสถาบันวิจัยลับของรัฐบาล
ทำให้มันถูกป้องกันอย่างแน่นหนา ด้วยทหารแกร่งสองหมื่นนาย รถถังและเฮลิคอปเตอร์จู่โจมอีกสิบลำ แม้แต่ยุงสักตัวยังหลุดรอดเข้ามาไม่ได้เลย
ณ ห้องประชุมขนาดใหญ่ของหน่วยงานเซียนเทียน ภายในฐานบัญชาการ
บนโต๊ะประชุมพวกแกนนำระดับสูงของหน่วยเซียนเทียน และคนใกล้ชิดของจ้าวเทียนที่เข้าร่วมแผนการในวันนี้ ได้มารวมตัวอยู่กันเกือบครบ
ขาดเพียงศิษย์พี่หญิงเท่านั้น เนื่องจากต้องมียอดฝีมือระดับสูงสุดหนึ่งคนประจำการอยู่ที่คฤหาสน์ดาราสวรรค์ เพื่อปกป้องสถานที่สำคัญที่สุดและบ้านของพวกเขาเอาไว้
โดยปกติหน้าที่นี้จะเป็นของเหยียนซืออู่ แต่เพราะภารกิจคราวนี้ต้องเข้าไปในโลกหมิงหลง จึงเป็นเหตุผลที่เหยียนซืออู่ต้องการจะเข้าไปพบหน้าบุตรสาว และทุกคนในสำนักคุนหลุนที่เขาจากมาถึงแปดปี
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จุติใหม่มหาเทพตี้เทียน