สำหรับยอดฝีมือระดับทูตกระเรียน ผู้ฝึกตนทุกคนในโลกมนุษย์ก็ไม่ต่างไปจากพวกชนพื้นเมืองที่ด้อยการพัฒนา แม้ว่าจะมีพลังอยู่ในระดับเดียวกัน แต่เขาก็เชื่อมั่นว่าตนเองสามารถอาศัยเคล็ดวิชาชั้นยอด และทักษะการต่อสู้ขั้นสูงเอาชนะได้ไม่ยาก
มีเพียงแค่ตุ๊กตาหมีจากโลกวิญญาณตัวนั้น กับชายชราผู้พิทักษ์โลก ถึงจะสร้างความกดดันให้ตัวเขาและพี่น้องทุกคนที่มาจากแดนสวรรค์ได้
แต่ทว่า หัวหน้าของเขาก็ได้บอกมาแล้ว ว่าชายชราผู้พิทักษ์จะไม่ออกห่างจากโลกมนุษย์เด็ดขาด จึงเหลือเพียงแค่ตุ๊กตาหมีเท่านั้นที่สามารถมีส่วนร่วมในสงครามครั้งนี้ได้
หากได้รู้ถึงความสัมพันธ์ระหว่างตุ๊กตาหมีกับผู้ฝึกตนบนโลกมนุษย์ บางทีพวกเขาอาจจะเสนอผลประโยชน์ และดึงอีกฝ่ายมาเป็นพวกได้เช่นเดียวกัน
“ ต้องขออภัยด้วย…คนที่หัวหน้าคุณต้องการพบ ยังติดภารกิจบางอย่างอยู่ที่โลกภายนอก และจะตามมาสมทบในภายหลัง เชิญพวกคุณกลับไปก่อนเถอะ ” เหยียนซืออู่พูดออกมาด้วยสีหน้าเรียบเฉย ไม่ได้แสดงท่าทีผิดสังเกตให้อีกฝ่ายจับพิรุธได้
‘ เป็นตามที่หวังซินหยางบอกจริงๆ อีกฝ่ายจะต้องมาตรวจสอบขุมกำลังของพวกเราอีกรอบ หากปล่อยให้รู้ว่า หลินซูซินไม่เข้าร่วมการต่อสู้ในครั้งนี้ บางทีพวกเราอาจถูกบีบบังคับให้ไปเป็นแนวหน้าต่อสู้ในสนามรบก็ได้ ’
“ ไม่อยู่งั้นเหรอ…ไว้ฉันจะมาใหม่ก็แล้วกัน ” ทูตกระเรียนพูดแบบไม่ใส่ใจนัก เมื่อไม่มีตุ๊กตาหมีอยู่ คนพวกนี้ก็ไม่มีคุณค่าให้เขาต้องสนใจอีกต่อไป
แต่ในขณะนั้นเอง หนึ่งในชายชุดดำที่ติดตามมาด้วย ก็ได้เข้ามากระซิบบางอย่างที่ข้างหูของทูตกระเรียน พร้อมทั้งหยิบแผ่นหยกชิ้นหนึ่งขึ้นมาให้ดู
แวบ!
แผ่นหยกสีขาวนวลได้เปล่งแสงสว่างอันเจิดจ้าออกมา จนมองเห็นอย่างชัดเจน สร้างความตกตะลึงและยินดีให้กับทูตกระเรียนมาก
“ ลักษณะแบบนี้…ตรวจพบกลิ่นอายของโอสถระดับศักดิ์สิทธิ์งั้นเหรอ ไม่สิมันอาจจะสูงกว่านั้นอีก ” สายตาของทูตกระเรียนกวาดมองไปยังทุกคนที่อยู่ตรงนี้ด้วยความตื่นเต้น
สิ่งที่อยู่ในมือเขา คือสมบัติที่ใช้ตรวจสอบค้นหาโอสถหรือสมุนไพรล้ำค่า ที่ทางสำนักมอบให้ใช้ในภารกิจครั้งนี้โดยเฉพาะ
ในตอนแรกเขานึกว่าจะได้ใช้มันก็ต่อเมื่อ กวาดล้างตำหนักเทวะเรียบร้อย แล้วค่อยใช้แผ่นหยกค้นหาคลังสมบัติลับของอีกฝ่าย
แต่ไม่คิดเลยว่า จะได้พบกับโอสถระดับสูงตั้งแต่ยังไม่ทันเริ่มสงครามแบบนี้
วูป!
แสงจากแผ่นหยก ได้สาดส่องไปกระทบกับร่างของลี่เหยาเหยาและโม่ปิงหยู แล้วมีการตอบสนองอย่างชัดเจนขึ้น มันสั่นไหวอย่างรุนแรงไม่หยุด
เหมือนกับว่า ได้ค้นพบที่มาของกลิ่นอายโอสถอันเข้มข้นแล้ว
“ พบแล้ว! รีบกลับไปแจ้งหัวหน้าเดี๋ยวนี้ ” ทูตกระเรียนรีบหันไปสั่งคนข้างกาย ซึ่งก็มีหนึ่งในนั้นรีบทะยานร่างออกไปทันที
ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ก็ได้สร้างความแตกตื่นให้กัยทุกคนที่อยู่ตรงนี้เป็นอย่างมาก แต่ด้วยความที่เหยียนซืออู่ เป็นผู้ที่มีประสบการณ์อยู่ในยุทธภพมายาวนาน
ทำให้เขามองเห็นความโลภในแววตาของทูตกระเรียนได้อย่างชัดเจน ดังนั้น สิ่งที่จะเกิดขึ้นหลังจากนี้ย่อมไม่ใช่เรื่องดีแน่นอน
“ ทุกคน ถอยกลับไปที่ประตูมิติเดี๋ยวนี้ ”
พูดจบ เหยียนซืออู่ก็ระเบิดพลังออกมาในพริบตา ม่านพลังสีทองซ้อนทับหลายชั้นได้ขวางกั้นระหว่างพวกเขากับฝ่ายตรงข้ามไว้
ยังไม่หมดเพียงเท่านั้น ไป่ซู่เจินและซูต๋าจี่เองก็ตอบสนองเร็วไม่แพ้กัน อสรพิษวารีแปดตัวพุ่งทะยานออกไป พร้อมกับกลุ่มควันสีชมพูถาโถมเข้าใส่ทูตกระเรียน อย่างไม่ให้อีกฝ่ายตั้งตัวได้ทัน
แต่ทว่า
“ คิดว่าฉันจะปล่อยให้โอสถล้ำค่าระดับศักดิ์สิทธิ์หนีไปง่ายๆ งั้นเหรอ ” ทูตกระเรียนหยิบแผ่นกระจกสีเขียวออกมาด้วยท่าทางลังเลเล็กน้อย เพราะนี้คือสมบัติเวทระดับเทพที่ใช้ได้เพียงครั้งเดียว
แต่สุดท้าย เมื่อเทียบกับผลประโยชน์ที่จะได้รับในอนาคต เขาก็ตัดสินใช้มันออกไปทันที
“ เขตแดนกระจกมายา! ”
เพล้ง!
หลังเสียงกระจกแตกดังขึ้น สถานที่แห่งนี้ก็ถูกดึงเข้าไปอยู่ในมิติแห่งโลกมายา ทุกการโจมตีที่พุ่งเข้าใส่ทูตกระเรียนถูกหักเหไปทางอื่น เหมือนกับแสงที่สะท้อนเข้ากับกระจก
“ แล้วถ้าแบบนี้ล่ะ จะสะท้อนได้ไหม ” เหยียนซืออู่ตะโกนออกมาเสียงดัง
“ ดาบทลายภูผา! ”
เปรี้ยง!
เหยียนซืออู่ปรากฏตัวขึ้นตรงหน้าของทูตกระเรียนแล้วฟันดาบใส่อย่างรุนแรง คลื่นพลังกระจายออกเป็นวงกว้าง
!!
กึกๆ!
คมดาบอยู่ห่างจากหน้ากากทูตกระเรียน เพียงแค่หนึ่งฝ่ามือเท่านั้น มันถูกฝ่ามือของเขาคว้าจับเอาไว้ได้ทัน
ถุงมือสีขาวที่มีคลื่นพลังสีฟ้าจางๆแผ่ออกมา ทำให้คมดาบไม่สามารถสัมผัสกับฝ่ามือของทูตกระเรียนได้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จุติใหม่มหาเทพตี้เทียน