ณ เมืองหลวงแค้วนต้าฉิน
ผ่านไปหนึ่งชั่วโมง นับตั้งแต่พวกจ้าวเทียนเดินทางกลับมา ผ่านทางวงเวทเคลื่อนย้าย สถานการณ์ในตอนนี้เต็มไปด้วยความกดดันและตึงเครียด พร้อมทั้งประกาศสภาวะฉุกเฉินปิดเมืองทันที
กองกำลังหลายฝ่ายของสำนักต่างๆ ที่เข้ามาอาศัยอยู่ในเมืองหลวงได้ยกระดับการป้องกันขึ้นสูงสุด พวกเขาตรวจตราประชาชนทุกคนอย่างละเอียด เพื่อป้องกันสายลับของฝ่ายตรงข้ามเข้ามาก่อกวน
ภายในตำหนักฉินหลงของคังหลิน ร่างของจ้าวเทียนและลี่เหยาเหยาได้ถูกวางเคียงคู่กันบนเตียงขนาดใหญ่ โดยมีคนอื่นๆเฝ้ามองดูด้วยความเป็นห่วง
ส่วนอาการบาดเจ็บของเฉินจิ้งนั้น ไม่ได้หนักหนานัก เพราะเขาไม่ใช่เป้าหมายของศัตรู ด้วยพลังฟื้นตัวของร่างครึ่งมังกรของเขา ขาข้างที่ขาดไปใช้เวลาไม่นานก็จะฟื้นฟูกลับมาเอง
ไม่แน่ว่า เมื่อโม่ปิงหยูฟื้นตัวได้เต็มที่ แล้วช่วยรักษาให้เฉินจิ้ง เขาอาจจะกลับมาสมบูรณ์เต็มที่ในวันเดียวด้วยซ้ำ
“ เป็นอย่างไรบ้าง…เธอรักษาพวกเขาได้ไหม ” ต้วนมู่เฉียนถามขึ้น เขามองไปทางจ้าวเทียนกับลี่เหยาเหยาด้วยสีหน้าที่ดูกังวล
นับตั้งแต่ที่กลับมาถึงเมืองหลวง จ้าวเทียนก็หมดสติไปทันที อาการบาดเจ็บของเขาสาหัสมาก แม้คมกระบี่นั้นจะไม่โดนจุดสำคัญ แต่พลังทำลายล้างที่แฝงมาด้วย กลับเริ่มทำลายอวัยวะภายในของเขาอย่างรวดเร็ว
“ นี่มันแย่มาก ด้วยพลังของฉันในตอนนี้ ทำได้เพียงแค่ยื้อเวลาออกไปเท่านั้น ” โซเฟียพูดพร้อมกับถอนหายใจออกมา จนเมื่อเห็นสีหน้าสงสัยของคนอื่นๆ เธอจึงพูดอธิบายต่อ
“ อาการบาดเจ็บของพวกเขาทั้งสองคนนั้น เกิดจากเจตจำนงแห่งทำลายล้างที่แฝงมาพร้อมกับกระบี่ ซึ่งหยวนเทียนหลงได้ทุ่มเทพลังทั้งหมดของขอบเขตขุนพลเทพออกมา เพื่อสังหารเป้าหมายให้ได้ ”
“ ตอนนี้ เจตจำนงของหยวนเทียนหลง ได้ผสานเข้ากับต้นกำเนิดพลังเซียนของพวกเขาทั้งสองคน และกำลังอาละวาดดุจมังกรร้ายที่คลุ้มคลั่ง พยายามทำลายพลังชีวิตและอวัยวะภายในอย่างต่อเนื่อง ”
“ หากไม่สามารถกำจัดมันออกไปได้ ต่อให้ฉันรักษาบาดแผลของพวกเขาจนหายดีสักกี่ครั้ง อาการบาดเจ็บพวกนี้ก็จะปะทุขึ้นมาใหม่ทุกครั้ง ”
“ ตอนนี้สิ่งที่ฉันทำได้ก็คือ ใช้พลังศักดิ์สิทธิ์หยุดยั้งและปิดผนึกพลังทำลายล้างเอาไว้ ไม่ให้มันเคลื่อนไหวได้สะดวก ส่วนวิธีการรักษา ก็คงต้องรอให้พวกเขาฟื้นสติขึ้นมาเสียก่อน แล้วเอาชนะเจตจำนงแห่งการทำลายล้างด้วยตนเอง”
จ้าวเทียนและลี่เหยาเหยาเป็นศิษย์ของเจ้าสำนักดาราสวรรค์ ต่อให้ไม่ถูกขอร้อง โซเฟียย่อมต้องทุ่มเทพยายามช่วยเหลืออย่างเต็มที่แน่นอน
‘ เพราะร่างจุติของฉันในโลกใบนี้ อ่อนแอจนเกินไป ถ้าหากเป็นร่างแท้จริงของฉัน อาการบาดเจ็บแค่นี้ พริบตาเดียวก็รักษาจนหายแล้ว ’
“ ผู้อาวุโส แล้วลูกชายของฉันจะฟื้นขึ้นมาเมื่อไหร่ คุณไม่มีทางอื่นที่จะช่วยเหลือเขาเลยเหรอ ” เหยียนซือหนิงพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงอันสั่นเทา
วินาทีแรกที่เธอเห็นจ้าวเทียนนอนจมกองเลือดอยู่บนพื้น เธอก็รีบวิ่งเข้าไปกอดเขาไว้แน่น พร้อมกับร้องไห้ออกมาปานจะขาดใจ ไม่คิดว่าเรื่องแบบนี้จะมาเกิดขึ้นกับครอบครัวของเธออีกครั้ง
เหยียนซืออู่ที่เห็นแบบนั้น ก็เข้าไปโอบกอดเหยียนซือหนิงลูกสาวของเขาเอาไว้ เพื่อปลอบโยนให้เธอสงบลง
ทั้งที่มันควรจะเป็นวันที่มีความสุข จากการที่ครอบครัวได้กลับมาอยู่พร้อมหน้ากันแท้ๆ ไม่นึกเลยว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น
“ ด้านจ้าวเทียนนั้น ฉันคิดว่าคงไม่มีปัญหา ด้วยความแข็งแกร่งของเขา ขอเพียงฟื้นสติขึ้นมาย่อมสามารถขจัดพลังแปลกปลอมที่แฝงอยู่ได้ด้วยตัวเอง ” โซเฟียพูดขึ้นอย่างมั่นใจ ทำให้คนอื่นๆมีสีหน้าผ่อนคลายลง
“ แล้วลี่เหยาเหยาละคะ…เธอจะเป็นยังไง ” กงเสี่ยวเหมยถามขึ้นมาบ้าง ในบรรดาทุกคนที่อยู่ตรงนี้ ตัวเธอนั้นสนิทสนมกับลี่เหยาเหยามากที่สุด ด้วยความสัมพันธ์ของทั้งสองครอบครัว ทำให้เธอมองอีกฝ่ายเป็นเหมือนน้องสาวมาตลอด
“ เรื่องนี้… ” โซเฟียมีสีหน้าหนักใจขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด เธอหยุดคิดไปครู่หนึ่งก่อนที่จะเลือกตอบออกมาตามจริง
“ ลี่เหยาเหยาเป็นผู้ที่ถูกการโจมตีเข้าไปโดยตรง ทำให้เจตจำนงแห่งการทำลายล้างของหยวนเทียนหลงแฝงตัวอยู่ในร่างของเธอมากที่สุด แม้แต่พลังศักดิ์สิทธิ์ของฉันเอง ก็ยื้อชีวิตของเธอออกไปได้เพียงแค่สองวันเท่านั้น ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จุติใหม่มหาเทพตี้เทียน