ในเวลาที่ประตูเซียนปรากฏขึ้นมา เขตอาคมปิดกั้นที่ใช้อำพรางร่องรอยก็ไม่อาจทนรับพลังอันมหาศาลได้อีกต่อไป ทำให้แตกสลายไปในทันที เหลือเพียงเขตแดนวารีศักดิ์สิทธิ์ของเทพมังกรอ๋าวเฟิงเท่านั้นที่ยังป้องกันอาณาเขตโดยรอบอยู่
บนท้องฟ้า ห่างไปจากจุดที่ต้วนมู่เฉียนอยู่ประมาณยี่สิบกิโลเมตร เครื่องบินรบลำหนึ่งกำลังปลดปล่อยอนุภาคสีขาวออกมาเป็นจำนวนมากปกคลุมไปทั่วทั้งลำ จนดูคล้ายก้อนเมฆที่อยู่รอบๆ แทบจะไม่เห็นข้อแตกต่างแม้แต่น้อย
“ มันเรียกประตูเซียนออกมาแล้ว ทำตามแผนได้ ” ชายผิวดำร่างใหญ่พูดใส่โทรศัพท์ด้วยน้ำเสียงเย็นชา ก่อนจะกดวางสายไป โดยที่ไม่ได้ละสายตาจากจอภาพที่ฉายอยู่ในห้องโดยสารแม้แต่น้อย
“ บอสครับ ทำไมพวกเราไม่ลอบสังหารต้วนมู่เฉียนเสียตอนนี้เลยล่ะ การใช้พวกพ่อมดหมอผีแบบนี้ มันเสื่อมเสียชื่อเสียงของกลุ่มเรานะ ” ชายผิวดำอีกคนที่นั่งอยู่ด้านข้างพูดขึ้นด้วยสีหน้าไม่พอใจ
“ หุบปากไปซะ แกมันจะไปรู้อะไร ถ้าต้วนมู่เฉียนมันตายง่ายขนาดนั้น คิดเหรอว่าฉันจะต้องรอมาถึงทุกวันนี้ ” ชายที่ถูกเรียกว่าบอสตะโกนออกมาด้วยความโกรธ ก่อนที่จะพูดอธิบายต่อด้วยสีหน้าจริงจัง
“ เหตุผลที่ฉันจ้างคนพวกนั้นลงมือแทน ก็เพราะไม่ต้องการให้เรื่องนี้มันสาวมาถึงตัวพวกเราได้ อย่าลืมนะว่าประเทศจีนปัจจุบันเป็นหนึ่งในมหาอำนาจของโลกแล้ว การตายของต้วนมู่เฉียนจะเป็นการปลุกเสือร้ายที่หลับใหลอยู่ให้คลุ้มคลั่งอาละวาดไปทั่ว ”
“ เรื่องแบบนี้ปล่อยให้คนอื่นรับเคราะห์แทนจะดีสุด ที่พวกเราต้องทำก็คือนั่งมองดูเสือสองตัวกัดกันอย่างสบายใจก็พอ ”
“ แต่ถ้ามันไม่ได้ผลล่ะ ถ้าต้วนมู่เฉียนมันรอดมาได้ เรื่องที่พวกเราทำไปจะไม่ถูกเปิดเผยออกมาเหรอ ” ชายผิวดำอีกคนถามขึ้นอย่างไม่ค่อยมั่นใจนัก
“ เหอะ…ต้วนมู่เฉียนจะต้องตายวันนี้แน่นอน เพราะนี่คือความต้องการของทุกขุมกำลังทั่วโลก แม้แต่องค์กรซีลด์ของอเมริกาก็จะลงมือเช่นกัน ” บอสของกลุ่มมาเฟียผิวดำพูดขึ้นด้วยความมั่นใจ
‘ ในเมื่อมหาอำนาจเกือบทั้งโลกต้องการให้แกตาย ฉันอยากจะรู้นักว่าแกจะรอดไปได้ยังไง ’
ในเวลาเดียวกัน ที่มณฑลยูนนานประเทศจีน
ชายผิวดำสามคนกำลังเดินเหยียบย่ำกองซากศพมากมายของหน่วยรบพิเศษ เข้าไปยังบ้านไม้หลังหนึ่ง ซึ่งเป็นสถานที่แห่งความทรงจำของต้วนมู่เฉียน ที่ถูกเก็บซ่อนและดูแลรักษามาเป็นอย่างดีกว่าสามร้อยปี
“ ฉันก็บอกแกแล้วไง ว่าให้เลิกถ่วงเวลาได้แล้ว มันไม่มีประโยชน์ ” หนึ่งในชายผิวดำพูดกับศีรษะหัวหนึ่งที่ยู่ในมือด้วยน้ำเสียงเย็นชา
เขาก็คือ บาโซกาลู ผู้มีพลังพิเศษระดับเอส อันดับที่แปดของโลก และยังเป็นผู้นำสูงสุดของสมาคมศาสตร์มืดของแอฟริกาเหนือ ส่วนศีรษะที่อยู่ในมือเขานั้นเป็นของเฒ่ามู่ สหายคนสนิทของต้วนมู่เฉียน
น่าเสียดายที่ถึงแม้เฒ่ามู่จะยอมต่อสู้จนตัวตาย แต่ก็ไม่อาจรักษาคำสัญญาที่จะปกป้องสถานที่แห่งนี้เอาไว้จนกว่าต้วนมู่เฉียนจะกลับมาได้ เพราะคู่ต่อสู้ของเขานั้นแข็งแกร่งจนเกินไป ทั้งยังมีถึงสามคน
เมื่อต้องเจอกับมนต์ดำของวูดูอันลึกลับ ค่ายกลที่เฒ่ามู่เชี่ยวชาญกลับไม่อาจต่อกรกับอีกฝ่ายได้แม้แต่น้อย เพียงไม่ถึงสิบลมหายใจร่างกายของเขาก็เน่าเปื่อยไปจนหมด เหลือเพียงศีรษะทิ้งไว้เท่านั้น
“ อาดูบี ไปนำของชิ้นนั้นมาให้ฉันสิ ” บาโซกาลูชี้ไปยังกระดาษแผ่นหนึ่งที่วางอยู่บนโต๊ะภายในบ้าน เขาสัมผัสได้ว่าของสิ่งนี้มีความเชื่อมโยงกับเป้าหมายมากที่สุด
“ รับบัญชา นายท่าน ” ชายที่ชื่อว่าอาดูบีรีบก้าวเข้าไปในตัวบ้านทันที ร่างของเขาถูกปกคลุมด้วยพลังงานอันดำมืด ที่สามารถป้องกันการโจมตีทางกายภาพได้ทั้งมวล
แต่ทว่า
ฉัวะ! เปรี้ยงง!
รังสีดาบอันดุดันสายหนึ่งระเบิดออกมาจากภายในตัวบ้าน มันได้ตัดอาดูบีซึ่งเป็นผู้ที่มีพลังระดับเอชั้นยอดจนตัวขาดเป็นสองท่อน โดยที่เขาไม่มีโอกาสจะต่อต้านแม้แต่น้อย
เพราะนี่คือสำนึกดาบที่ต้วนมู่เฉียนทิ้งเอาไว้ เป็นมาตรการสุดท้ายเพื่อปกป้องความทรงจำที่ล้ำค่าของเขา
“ ฉันนึกแล้ว ว่าไอ้แก่นั่นมันต้องเตรียมการไว้ก่อน ” บาโซกาลูพูดขึ้นแบบไม่ใส่ใจนัก ก่อนจะชี้นิ้วไปที่ซากศพของสมุนคู่ใจ
“ มนต์ปลุกชีพ! ”
ครืนน!
ควันดำสายหนึ่งหลั่งไหลออกมาจากปลายนิ้วของบาโซกาลู ก่อนจะถูกซากศพดูดซึมเข้าไปอย่างรวดเร็ว
“ อ้ากก! ”
อาดูบีเปล่งเสียงคำรามดุจสัตว์ร้ายออกมา ร่างกายของเขาที่ขาดเป็นสองส่วนก็สั่นสะท้านอย่างแรง มันถูกดึงให้กลับมาเชื่อมต่อกันในพริบตา
บัดนี้อาดูบีถือกำเนิดใหม่ เป็นผีดิบอมตะหรือที่เรียกกันว่าซอมบี้ชั้นสูงเรียบร้อยแล้ว เขาไร้ซึ่งความเจ็บปวด ไม่หวาดกลัวความตาย ในจิตสำนึกหลงเหลือเพียงความกระหายในการฆ่าฟันและทำตามคำสั่งเจ้านายเท่านั้น
เพียงไม่นาน ซอมบี้อาดูบีก็ใช้เลือดเนื้อของตนเอง ต้านทานรังสีดาบเจ็ดสายที่ต้วนมู่เฉียนทิ้งเอาไว้ จนสามารถนำเอาแผ่นกระดาษที่ตั้งอยู่บนโต๊ะ มาให้เจ้านายของมันจนได้
“ สมกับเป็นต้วนมู่เฉียน แค่สำนึกดาบที่ทิ้งเอาไว้ ยังทำให้ฉันต้องสิ้นเปลืองพลังงานถึงเพียงนี้ ” บาโซกาลูพูดขึ้นด้วยสีหน้าเคร่งเครียด ทุกครั้งที่อาดูบีคืนชีพมันก็ได้ดึงดูดพลังส่วนหนึ่งของเขาไปด้วย
แกร่ก!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จุติใหม่มหาเทพตี้เทียน