ตั้งแต่ที่โฮ่วอี้ปรากฏตัวออกมาและเริ่มตรวจสอบอาการของต้วนมู่เฉียน ก็เพิ่งจะผ่านไปไม่ถึงห้านาทีเท่านั้น
แต่สำหรับเสี่ยวชิง ที่ถูกผนึกไว้ในช่องว่างมิติในสภาพที่กำลังจะระเบิดพลังแต่ถูกหยุดไว้ เธอกลับรู้สึกว่าเวลามันผ่านไปยาวนานมาก จนร่างกายเธอเริ่มทนไม่ไหว และมีสีหน้าซีดขาวลงอย่างเห็นได้ชัด
นี่คือความน่ากลัวของแก่นแท้มิติขั้นสูง ที่สามารถควบคุมการไหลของเวลาภายในพื้นที่มิติของตนเองได้อย่างอิสระ
“ ผู้อาวุโสได้โปรดให้อภัยภรรยาของฉันด้วย ก่อนหน้านี้เธอวู่วามเกินไปเพราะคิดว่าท่านเป็นศัตรู ไม่ได้มีเจตนาที่จะล่วงเกินแต่อย่างใด ” ต้วนมู่เฉียนพูดขึ้นด้วยความเคารพ ถึงตอนนี้เขาก็ดาดเดาออกแล้ว ว่าผู้อาวุโสท่านนี้เป็นคนที่จ้าวเทียนเชิญมารักษาตน
จ้าวเทียนที่เห็นแบบนั้น ก็รีบพูดเสริมขึ้นทันที
“ ใช่แล้วครับอาจารย์ปู่…คุณช่วยปล่อยผู้อาวุโสเสี่ยวชิงก่อนได้ไหม ฉันคิดว่าลงโทษแค่นี้ก็คงพอแล้ว ”
“ ได้…แต่อย่าให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นอีก ” โอ่วอี้ตอบออกมาเบาๆ พร้อมกับปล่อยเสี่ยวชิงให้เป็นอิสระ ซึ่งนั่นก็ทำให้เธอทรุดนั่งลงไปบนพื้นอย่างอ่อนแรง
“ อาการของผู้อาวุโสต้วนมู่ เป็นอย่างไรบ้างครับอาจารย์ปู่ ” จ้าวเทียนตั้งคำถามเพื่อเปลี่ยนประเด็น ช่วยผ่อนคลายบรรยากาศตึงเครียดลง
“ ชายคนนี้ได้ระเบิดโลกภายในของตนเองไปแล้ว ซึ่งถ้าดูจากอายุขัยที่เหลืออยู่ แม้แต่ตัวข้าเอง ก็ไม่มีทางฟื้นฟูพลังของเขาให้กลับมาเหมือนเดิมทันเวลาแน่นอน ” โฮ่วอี้ตอบออกมาตามตรงโดยไม่ปิดบัง ทำให้ความหวังของทุกคนดับมอดลงอีกครั้ง
“ ในที่สุด เส้นทางของฉันก็จบลงตรงนี้จริงๆสินะ ” ต้วนมู่เฉียนถอนหายใจเบาๆ ในเมื่อเรื่องมันมาถึงขั้นนี้แล้ว ก็มีแต่ต้องทำใจยอมรับเท่านั้น
“ ยังเร็วเกินไปที่จะถอดใจนะ เส้นทางของเจ้ายังมีโอกาสทอดยาวต่อไปได้ อยู่ที่ตัวเจ้าจะยอมสละบางสิ่งได้หรือเปล่า ”
!!
“ อาจารย์ปู่ หรือว่าคุณมีหนทางช่วยชีวิตผู้อาวุโสต้วนมู่งั้นเหรอ ” จ้าวเทียนรีบถามขึ้นทันที เสี่ยวชิงที่ได้ยินแบบนั้น ก็จ้องมองไปทางโฮ่วอี้ด้วยความคาดหวัง
“ วิธีนั้นมีแน่…มันทั้งง่ายและแก้ไขปัญหาได้ตรงจุดที่สุด เชื่อว่าก่อนหน้านี้พวกเจ้าเองก็เคยคิดถึงมันเช่นกัน เพียงแต่ไม่ยอมใช้เท่านั้น ”
“ นี่มัน…หรือว่าจะเป็น ” ต้วนมู่เฉียนสีหน้าเปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัด เหมือนเริ่มคาดเดาบางอย่างออกแล้ว
“ ทางเดียวที่เจ้าจะมีชีวิตอยู่ต่อไปได้ ก็คือการละทิ้งความเป็นมนุษย์ไปซะ แล้วถือกำเนิดใหม่เป็นมารอสูร ”
สิ้นเสียง ภายในห้องก็ตกอยู่ในความเงียบ ทุกคนต่างรู้ดีว่าการเลือกวิธีนี้มันหมายความว่าอย่างไร
ถึงแม้มารอสูรกับปีศาจนั้นจะมีอายุขัยที่ยืนยาวเหมือนกัน แต่การถือกำเนิดของพวกเขานั้นแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง
ปีศาจจะเริ่มต้นจากการบำเพ็ญตบะร้อยปีจนสามารถจำแลงร่างเป็นมนุษย์ และเข้าสู่เส้นทางแห่งการฝึกตน
ในขณะที่มารอสูรจะถือกำเนิดขึ้นจากการเซ่นสังเวยสิ่งมีชีวิตจำนวนมาก เหมือนกับร่างราชินีแห่งมวลมารของเจนนี่ ที่ถือเกิดขึ้นจากพิธีกรรมกลืนกินดวงวิญญาณปรมาจารย์หนึ่งพันดวง
นี่จึงเป็นสาเหตุที่เจนนี่ต้องปกปิดตัวตนเอาไว้ เพราะมนุษย์สามารถยอมรับเผ่าพันธุ์ปีศาจได้ แต่จะไม่ยอมอยู่ร่วมโลกกับเผ่ามารอสูรเด็ดขาด
“ ข้ารู้ว่าพวกเจ้ากำลังคิดอะไรอยู่ มารอสูรนั้นเป็นศัตรูของสิ่งมีชีวิตทั้งมวล แม้แต่มหาสงครามเมื่อหนึ่งล้านปีก่อน ก็เกิดขึ้นเพราะมรรคาแห่งมารหวังล้มล้างมรรคาแห่งฟ้าดินเช่นกัน ”
“ แต่ยุคสมัยมันเปลี่ยนไปแล้ว เมื่อราชันเทพมารถูกสังหาร เผ่าพันธุ์มารอสูรที่ถือกำเนิดขึ้นใหม่บางส่วน ก็ไม่ได้กระหายในการทำลายล้างอีกต่อไป ”
“ มันก็เหมือนมนุษย์ที่มีทั้งคนดีและคนเลวปะปนกันไป ถึงแม้มารอสูรที่ดีจะมีอยู่เพียงหนึ่งในหมื่นก็เถอะ ”
“ ส่วนพิธีถือกำเนิดเป็นมารของเจ้านั้น ข้ารับรองว่าไม่ใช่การเซ่นสังเวยสิ่งมีชีวิตแน่นอน เพราะเรื่องเลวร้ายเช่นนี้ตัวข้าย่อมไม่ลดตัวไปกระทำอยู่แล้ว ”
พูดจบโฮ่วอี้ก็รอการตัดสินใจของอีกฝ่ายอย่างเงียบๆ เขารู้ดีว่านี่ไม่ใช่สิ่งที่คนทั่วไปจะยอมรับได้ เพราะมันเป็นเส้นทางที่ไม่มีวันหวนกลับ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จุติใหม่มหาเทพตี้เทียน