ในตอนที่ต้วนมู่เฉียนกำลังจะนำเศษเสี้ยวพลังของมหาเทพผานกู่ออกมา โฮ่วอี้ที่เหมือนจะคาดเดาความคิดเขาออก ก็รีบผนึกมิติภายในห้องนี้ไว้ทันที แม้แต่ตัวหลงซานหู่ที่ไม่เกี่ยวข้อง ก็ยังพลอยถูกลบความทรงจำและทำให้หมดสติไปด้วย
“ พวกเจ้าประมาทกันเกินไปแล้ว ของสิ่งนี้ไม่สมควรเปิดเผยให้คนอื่นรู้โดยง่าย แม้จะเป็นผู้ที่พวกเจ้าเชื่อใจก็ตามที เพราะสำหรับตัวตนระดับสูงที่จุติลงมาจากแดนสวรรค์ การอ่านความทรงจำของมนุษย์ปุถุชนเป็นเรื่องง่ายมาก ”
น่าเสียดายที่คำเตือนของโฮ่วอี้ ไม่ได้รับความสนใจเท่าที่ควร มีเพียงเสี่ยวชิงที่หันมาก้มหัวขออภัยเท่านั้น ส่วนจ้าวเทียนและต้วนมู่เฉียนกำลังจับจ้องไปที่ก้อนผลึกสีดำตรงหน้าด้วยอารมณ์ที่แตกต่างกัน
สำหรับต้วนมู่เฉียนมันคือการสืบทอด เนื่องจากทั้งเขาและเสี่ยวชิงมาจากเผาพันธ์ุที่แตกต่างกัน อีกทั้งเสี่ยวชิงยังเป็นปีศาจระดับสูงที่บำเพ็ญตบะมายาวนาน มันจึงเป็นการยากมากที่เธอจะมีบุตร
ดังนั้นความรู้สึกที่ต้วนมู่เฉียนมีให้กับจ้าวเทียน จึงไม่ต่างไปจากบิดามีให้บุตรชาย ไม่ว่าจะเป็นสิ่งใดที่เป็นประโยชน์กับจ้าวเทียน เขาก็พร้อมจะยกให้โดยไม่ลังเล
แต่ทางด้านจ้าวเทียนนั้น เขารู้สึกว่าสิ่งที่ต้วนมู่เฉียนมอบให้มันล้ำค่าเกินไป เศษเสี้ยวพลังของมหาเทพผานกู่ คือสิ่งที่เปลี่ยนคนธรรมดาอย่างต้วนมู่เฉียนให้กลายเป็นเสาหลักของประเทศจีนได้อย่างทุกวันนี้
ให้เปรียบเทียบง่ายๆ มันก็เหมือนกับแก่นแท้ดวงตะวันของจ้าวเทียน ไม่มีทางที่เขาจะยกมันให้กับคนอื่นโดยง่ายแน่นอน
“ ผู้อาวุโส…เรื่องนี้ ”
“ ไม่ต้องพูดอะไรอีกต่อไปแล้ว…รับมันไปซะ ของสิ่งนี้มันจำเป็นกับเธอมากกว่าฉัน เพราะมันมีความเชื่อมโยงกับสมบัติที่เทพมังกรทั้งเก้าปกป้องอยู่ เธอก็ได้เห็นมาด้วยตาตัวเองแล้ว ” ต้วนมู่เฉียนพูดขัดขึ้น พร้อมกับยัดผลึกสีดำใส่มือจ้าวเทียน ไม่เปิดโอกาสให้เขาปฏิเสธอีก
“ ที่ต้วนมู่เฉียนพูดมาน่ะถูกแล้ว และข้าขอแนะนำให้เจ้ารีบหลอมรวมมันทันที มันจะมีประโยชน์ในตอนเผชิญหน้ากับพวกเทพมังกรพรุ่งนี้แน่นอน ”
“ ส่วนเรื่องที่เจ้ากังวล ข้ารับประกันว่ามันจะไม่เกิดขึ้น เพราะต่อให้ต้วนมู่เฉียนจะสูญเสียเสี้ยวพลังของมหาเทพผานกู่ไป แต่สิ่งที่เขาจะได้รับหลังจากนี้มันจะช่วยทดแทนได้อย่างเหลือเฟือ ”
“ นั่นก็เพราะ…เขากำลังจะกลายเป็นผู้สืบทอดของข้า โฮ่วอี้ผู้นี้ยังไงล่ะ ”
!!
“ อาจารย์ปู่ นี่คุณพูดจริงเหรอ ” จ้าวเทียนถามขึ้นด้วยความตกใจ เขารู้ดีว่าตั้งแต่มหาสงครามจบลง โฮ่วอี้ก็ไม่เคยรับศิษย์เลยตลอดหนึ่งล้านปีที่ผ่านมา
‘ ไม่นึกเลยว่าพรสวรรค์ของผู้อาวุโสต้วนมู่จะไปเข้าตาอาจารย์ปู่เข้า แถมยังไม่ใช่เพราะเสี้ยวพลังของมหาเทพผานกู่อีกด้วย ’
“ ฉัน…เป็นผู้สืบทอด ” ต้วนมู่เฉียนพูดขึ้นด้วยความสับสน ตัวเขายังไม่รู้จักอีกฝ่ายดีพอเลยด้วยซ้ำ จะให้ยอมรับอีกฝ่ายเป็นอาจารย์ได้อย่างไร
จ้าวเทียนที่เห็นแบบนั้น จึงรีบบอกเล่าเรื่องราวของโฮ่วอี้ออกไปให้ต้วนมู่เฉียนกับเสี่ยวชิงได้ฟัง ซึ่งมันก็กินเวลาไม่นานก่อนที่ทั้งคู่จะได้รู้ว่า ตัวตนที่อยู่ตรงหน้าพวกเขานี้ยิ่งใหญ่ขนาดไหน
‘ หนึ่งในเก้าจักรพรรดิเทพยุคบรรพกาล ผู้ได้รับสมญานามว่าเทพสังหารในมหาสงครามสิ้นยุค อีกทั้งยังเป็นบิดาบุญธรรมของเจ้าสำนักดาราสวรรค์ ซึ่งเป็นอาจารย์ของจ้าวเทียนกับหลินซูซิน ’
‘ ผู้ยิ่งใหญ่ระดับนี้…ต้องการรับฉันเป็นผู้สืบทอดงั้นเหรอ ’
ต้วนมู่เฉียนรู้สึกว่าเรื่องนี้มันเหมือนความฝัน ตัวเขารู้ขีดจำกัดของตนเองดี ถึงแม้ตนจะเป็นยอดฝีมืออันดับต้นๆบนโลกมนุษย์ แต่ถ้าให้เปรียบเทียบกับยอดอัจฉริยะคนอื่นบนแดนสวรรค์
ตัวเขาก็ยอมรับว่าตนเองด้อยกว่าอีกฝ่ายมากนัก ตัวอย่างง่ายๆก็คือจ้าวเทียนที่อยู่ตรงหน้า อีกฝ่ายใช้เวลาฝึกฝนไม่ถึงปีก็แซงหน้าเขาไปแบบไม่เห็นฝุ่น
ทางฝ่ายโฮ่วอี้ที่เห็นต้วนมู่เฉียนไม่ให้คำตอบสักที เขาจึงลองอ่านความคิดของอีกฝ่ายดู แต่ผ่านไปครู่หนึ่ง เขาก็สบถออกมาในใจด้วยความหงุดหงิด
‘ ไอ้เจ้านี่…เปรียบเทียบกับใครไม่เปรียบ ดันไปเปรียบเทียบกับจักรพรรดิเทพที่ย้อนเวลากลับมาจุติใหม่อย่างจ้าวเทียน ไม่รู้ว่าสมองของเจ้ายังปกติอยู่หรือไม่ ’
“ ว่าอย่างไร ตัวข้าไม่ได้มีเวลาว่างมากนักหรอกนะ หากเจ้าไม่ต้องการเป็นผู้สืบทอดของข้าก็ไม่เป็นไร ยังไงซะข้าก็ยังคงช่วยเหลือเจ้าอยู่ดี ” โฮ่วอี้พูดออกมาด้วยท่าทีเฉยชา
เสี่ยวชิงที่ได้ยินแบบนั้น เธอจึงหยิกเอวต้วนมู่เฉียนอย่างแรง เพื่อทำให้ได้สติและรีบผลักดันเขาให้เดินไปคุกเข่าลงตรงหน้าโฮ่วอี้
“ เรียนผู้อาวุโสโฮ่วอี้ สามีของฉันย่อมต้องการเป็นศิษย์ของท่านแน่นอนอยู่แล้ว เพียงแต่ตอนนี้ร่างกายของเขายังอยู่ในช่วงอ่อนแอ จึงเกิดความสับสนอยู่บ้าง ขอท่านโปรดอภัยด้วย ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จุติใหม่มหาเทพตี้เทียน