จุติใหม่มหาเทพตี้เทียน นิยาย บท 400

บรรยากาศอันตรายที่ชายสวมชุดคลุมปลดปล่อยออกมา ไม่ได้ทำให้อ๋าวเถียนรู้สึกหวาดกลัวแต่อย่างใด ในทางกลับกัน มันได้ไปกระตุ้นอารมณ์โกรธเกรี้ยวของเขาให้รุนแรงมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม

“ ได้เลยไอ้มนุษย์หน้าโง่ แกอยากฟังให้ชัดๆใช่ไหม เมื่อกี้ฉันบอกว่า… ”

“ หยุดก่อเรื่องได้แล้ว! ”

!!

อ๋าวเฟิงตะโกนขัดขึ้นมาเสียงดัง พร้อมกับปรากฏกายขึ้นขวางหน้าอ๋าวเถียนไว้ เพราะไม่อยากปล่อยให้อีกฝ่ายรนหาที่ตายต่อไป

“ อาจารย์ปู่… ” จ้าวเทียนเองก็เข้ามาหยุดโฮ่วอี้เช่นกัน ไม่อย่างนั้นหากฝ่ายตรงข้ามรู้ถึงความแข็งแกร่งที่แท้จริงของพวกเขา แผนการทุกอย่างพังไม่เป็นท่าแน่

และไม่ใช่แค่เพียงโฮ่วอี้ที่โกรธเพราะถูกเหยียดหยาม แต่ยังรวมไปถึงตุ๊กตาหมีในมือจ้าวเทียนด้วย หากไม่ใช่เพราะเขาคอยห้ามไว้ เปลวเพลิงสลายวิญญาณสีฟ้าคงปกคลุมไปทั่วสถานที่แห่งนี้แล้ว

“ ไม่ต้องกังวล ข้ารู้ดีว่ากำลังทำอะไรอยู่ ” โฮ่วอี้พูดออกมาด้วยท่าทีเฉยชา ก่อนจะรับตุ๊กตาหมีคืนมาจากจ้าวเทียน แล้วแยกตัวออกไปนั่งทำสมาธิเพื่อสงบสติอารมณ์

ตั้งแต่โฮ่วอี้บรรลุเป็นจักรพรรดิเทพมาหลายล้านปี เขาเพิ่งเคยโดนดูถูกแบบนี้เป็นครั้งแรก แม้แต่เต๋าแห่งสวรรค์ที่เป็นศัตรูก็ยังไม่กล้าใช้คำพูดแบบนี้กับเขาเลยด้วยซ้ำ

หากเป็นในสถานการณ์อื่น…โฮ่วอี้คงคว้าเกาทัณฑ์ออกมายิงสังหารฝ่ายตรงข้ามแล้ว

“ อ๋าวเฟิง…นี่แกคิดจะปกป้องไอ้มนุษย์อวดดีนั่นงั้นเหรอ ” อ๋าวเถียนพูดขึ้นเสียงดังด้วยความเดือดดาล โดยไม่รู้เลยว่า ก่อนหน้านี้ตนเองเพิ่งเผชิญหน้ากับพญามัจจุราชมา

“ หุบปากไปซะ! คนที่ไม่รู้จุดยืนของตัวเองคือแกเองนั่นแหละ ลองใช้สมองคิดดูดีๆ ถ้าไม่ใช่เพราะมีฉันคุ้มกะลาหัวอยู่ แกคงถูกพี่น้องคนอื่นจัดการไปแล้ว ” อ๋าวเฟิงตวาดออกมาเสียงดัง ทำให้เทพมังกรคนอื่นหันมามองด้วยความตกใจ เพราะน้อยครั้งมากที่จะเห็นเขาโมโหขนาดนี้

บูมมม!

คลื่นพลังงานสีฟ้าระเบิดออกมาจากร่างของอ๋าวเฟิง พริบตาเดียวก็เปลี่ยนเขาให้กลายเป็นมนุษย์มังกรหกปีกเหมือนฝ่ายตรงข้าม แต่ทั้งออร่าและความหนาแน่นของพลังกลับเหนือกว่ามากนัก

“ นี่มัน…เรื่องนี้ ” อ๋าวเถียนรู้สึกเหมือนโดนน้ำเย็นราดหัว ทำให้นิ่งเงียบไปทันที

‘ แย่แล้ว! ดันปล่อยให้สัญชาตญาณดิบครอบงำ จนลืมตัวไปว่าความแข็งแกร่งของฉันในตอนนี้ ไม่ได้อยู่ในจุดสูงสุดเหมือนสมัยก่อนแล้ว ’

ถ้าเป็นในอดีต พลังของอ๋าวเถียนจะอยู่ในอันดับสอง ซึ่งก็ด้อยกว่าอ๋าวเฟิงซึ่งเป็นอันดับหนึ่งเพียงเล็กน้อย ทำให้สามารถต่อสู้กันได้อย่างสูสี จึงไม่จำเป็นต้องไว้หน้าผู้ใด

ส่วนในปัจจุบันอย่าว่าแต่จะสู้กับอ๋าวเฟิงเลย พลังของอ๋าวเถียนตอนนี้น้อยกว่าอ๋าวมู่ซึ่งอยู่ในอันดับสุดท้ายเสียอีก

แต่ทว่า

เมื่อขึ้นขี่หลังเสือแล้วมันก็ลงยาก อยู่ต่อหน้าพยานรู้เห็นมากมายขนาดนี้ ถ้าอ๋าวเถียนยอมถอยง่ายๆ แล้วต่อไปเขาจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน

“ อ๋าวเฟิงถอยไปซะ อย่างน้อยฉันขอสั่งสอนไอ้มนุษย์คนนี้สักหน่อย มันจะได้ตาสว่างเสียทีว่าเทพมังกรทั้งเก้าหาใช่สิ่งที่มนุษย์จะมาท้าทายได้ ”

“ เหอะ! ถ้ายังไม่หยุด ฉันนี่แหละจะเป็นคนสั่งสอนแกเอง ” อ๋าวเฟิงตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงเย็นชา แสดงท่าทีไม่ยอมถอยให้อย่างชัดเจน จนทำให้อ๋าวมู่ที่ยืนสังเกตการณ์อยู่สบโอกาสเข้ามาแทรกแซงในที่สุด

“ พี่ใหญ่ พี่รอง เห็นแก่หน้าฉันเถอะ สถานที่แห่งนี้ไม่ได้มีเพียงแค่พวกเรา ควรทำตามวัตถุประสงค์เดิมได้แล้ว ”

“ หึ เห็นแก่หน้าน้องเก้า ฉันจะยอมปล่อยไปสักครั้งหนึ่งก็แล้วกัน ” อ๋าวเถียนรีบตอบรับอย่างรวดเร็ว ทำให้อ๋าวเฟิงแค่นเสียงออกมาอย่างเย็นชา รวมไปถึงพี่น้องคนอื่นๆที่ทราบเรื่องราวทุกอย่างดี ต่างพากันส่ายหน้าพร้อมกับถอนหายใจ

นี่มันช่างน่าอับอายยิ่งนัก…ศักดิ์ศรีของเทพมังกรอย่างพวกตนถูกทำลายไปจนไม่เหลือแล้ว

ผ่านไปครู่นึ่ง

“ อ๋าวเฟิง ตอนนี้คงถึงเวลาที่พี่จะอธิบายได้แล้วนะ ว่าทำไมถึงไม่ยอมปลดผู้ถูกเลือกของตนออกจากตำแหน่ง ในเมื่อพวกเราส่วนใหญ่ได้ลงคะแนนเสียงไปเรียบร้อยแล้ว ”

“ พี่อย่าลืมนะว่า การคลายผนึกขั้นสุดท้ายเพื่อเข้าสู่สนามทดสอบ ต้องใช้พลังของพวกเราทุกคน หากไม่มีเหตุผลที่ดีพอ พวกฉันไม่มีวันยอมให้จ้าวเทียนเข้าร่วมแน่นอน ” อ๋าวเทียนพูดขึ้นด้วยสีหน้าจริงจัง

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จุติใหม่มหาเทพตี้เทียน