การมาถึงของขีปนาวุธข้ามทวีป ทำให้การต่อสู้ของผู้มีพลังระดับเอสหยุดชะงักลงทันที ซึ่งมันก็ส่งผลกระทบไปถึงกองกำลังติดอาวุธที่เหลือเพียงสามหมื่นด้วย เนื่องจากทุกคนรู้ดีว่านี่มันหมายความว่ายังไง
“ บัดซบ ไอสารเลวพวกนั้น คิดจะสังหารเราไปพร้อมกับศัตรู ”
“ โธ่เว้ย นี่ฉันทนสู้ต่อไปเพื่ออะไรกัน ”
“ จบสิ้นแล้ว พวกเราไม่รอดแน่ ”
เริ่มมีคนทิ้งอาวุธแล้วกรีดร้องอย่างสิ้นหวัง บางคนก็พยายามวิ่งหลบหนีอย่างไร้ประโยชน์ สุดท้าย ถึงกับมีคนคิดฆ่าตัวตายเพราะทนความกดดันไม่ไหว
โดยเฉพาะมูฮัมหมัด จาฮีส และบาโซกาลู ซึ่งเป็นผู้นำสงครามในครั้งนี้ ทั้งสองคนสบตากันเองด้วยความโกรธแค้น
ไม่ต้องพูดถึง บาโซกาลูที่ต้องสูญเสียยอดฝีมือทั้งหมดในสมาคมศาสตร์มืดไป แม้แต่มูฮัมหมัด จาฮีสก็ต้องจ่ายค่าตอบแทนไปมหาศาลเช่นกัน ถึงจะรวบรวมกองกำลังติดอาวุธครบมือนับแสนขึ้นมาได้
“ เหอะ ไม่นึกเลยว่าผู้ยิ่งใหญ่อย่างพวกเรา จะถูกใช้งานไม่ต่างจากสุนัขล่าเนื้อแบบนี้ พอเห็นว่าหมดประโยชน์ ก็เลยปล่อยให้ตายไปพร้อมศัตรูสินะ ” บาโซกาลูแค่นเสียง ก่อนจะพูดออกมาด้วยความคับข้องใจ
“ อย่าให้ฉันรอดไปได้แล้วกัน ขอสาบานว่าจะกลับไปฆ่าล้างโครตพวกมันให้หมด ” มูฮัมหมัด จาฮีสพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเย็นชา ความเดือดดาลของเขาไม่สามารถบรรยายออกมาเป็นคำพูดได้
สถานะของมูฮัมหมัด จาฮีส เหนือกว่าทุกคน เพราะเขาเป็นถึงรองผู้นำนิกายพันธมิตรแห่งความมืด ซึ่งถือเป็นองค์กรมืดชั้นนำของโลก ทัดเทียมกับศาสนจักรแห่งแสงและเป็นศัตรูกันมาหลายร้อยปี ตั้งแต่ยุคล่าอาณานิคม
นิกายพันธมิตรแห่งความมืด ถือเป็นพี่ใหญ่ขององค์กรชั่วร้ายทั้งหมดบนโลก อำนาจของพวกเขาสามารถชี้เป็นชี้ตาย อนาคตของประเทศขนาดกลางได้อย่างง่ายดาย แม้กระทั่งจะทำให้เกิดสงครามโลกครั้งที่สามก็ไม่ยาก
แต่ทว่า ในปัจจุบันรองผู้นำนิกายอย่างมูฮัมหมัด จาฮีส กลับถูกหลอกใช้ให้มาตายพร้อมศัตรู โดยกลุ่มนายทุนที่เขาเคยดูถูกว่าเป็นเพียงหนอนแมลงไร้ค่า ความโกรธแค้นในครั้งนี้มันเกินจะแบกรับไหว
เฟี้ยววว!ๆๆๆๆๆ
ขีปนาวุธข้ามทวีปสิบหัวปรากฏขึ้นตรงขอบฟ้าไกล และกำลังพุ่งตรงมาทางนี้พร้อมกับเสียงฝ่าอากาศของมันที่ดังสะท้านไปทั่ว
“ พวกแก คิดจะหนีไปไหน ”
จ้าวเทียนพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเย็นชา เพียงกวาดตามองครั้งเดียวรังสีกระบี่สองพันสายก็แยกออกไปสังหารคนที่คิดหลบหนีจนหมดสิ้น ในขณะที่ รังสีกระบี่ส่วนที่เหลือกักตัวศัตรูทั้งหมดไว้ตรงกลาง
“ นี่แกบ้าไปแล้วเหรอ เวลาแบบนี้ยังจะมามัวต่อสู้กันเองอีก ไม่เห็นรึไง ว่าหัวรบนิวเคลียร์สิบหัวกำลังจะมาถึงอยู่แล้วนะ อยากตายนักก็อยู่รอไปคนเดียวเถอะ ” บาโซกาลูพูดออกมาด้วยความโมโห พร้อมกับสลายร่างเป็นหมอกดำกระจายตัวออกไปทุกทิศทาง
ตูมมมม!
พายุเปลวเพลิงสีทอง ระเบิดเข้าใส่หมอกสีดำอย่างรุนแรงจนสลายไปไปทั้งหมด ก่อนที่ร่างกายอับบอบช้ำของบาโซกาลูจะทรุดลงไปกองบนพื้น
“ พวกแกรอดูเองเถอะ ระเบิดนิวเคลียร์ ของเล่นแบบนั้นจะไปทำอะไรฉันได้ ” จ้าวเทียนส่ายหน้าเบาๆ แล้วบินขึ้นไปบนฟ้า ตรงตำแหน่งจุดศูนย์กลางที่เป็นเป้าหมายขีปนาวุธข้ามทวีปของศัตรู
ส่วนเฉินจิ้งและคนอื่นๆนั้นกระจายตัวออกไปรอบๆเรียบร้อย เพราะการโจมตีของพวกเขาไม่อาจจัดการหัวรบนิวเคลียร์ได้ ดีไม่ดีจะไปเร่งให้มันระเบิดก่อนเวลาเปล่าๆ
‘ ประมาณสามวินาทีสินะ… ’
จ้าวเทียนคำนวณเวลาด้วยท่าทีผ่อนคลาย เขามองเห็นขีปนาวุธทั้งหมดถอดสลักไอพ่น พุ่งตรงมาทางนี้ด้วยความเร็วกว่าเดิมสองเท่า เหมือนมันกำลังล็อคเป้าอยู่ที่ตนไม่มีผิด
เฟี้ยววววว!ๆๆๆๆๆ
ใกล้เข้ามาทุกทีแล้ว…
สายตาของผู้คนนับหมื่นจับจ้องไปที่วินาทีสุดท้ายของตนอย่างเคร่งเครียด ไม่ใช่เพียงแค่คนที่อยู่ตรงนี้เพียงอย่างเดียว แต่มันยังรวมไปถึงผู้คนที่เผ้าดูผ่านดาวเทียมสื่อสารด้วย
ย้อนกลับไปก่อนหน้านี้ พวกผู้มีอำนาจของ อเมริกา อังกฤษ รัสเซีย จีน ญี่ปุ่น และอีกหลายสิบประเทศ ที่จับตาดูสงครามตั้งแต่ต้น ต่างพากันนับถอยหลังในใจ
โดยเฉพาะประธานาธิบดีจีนที่ลุ้นระทึกที่สุด หากจ้าวเทียนต้านทานนิวเคลียร์สิบลูกนี้ไว้ไม่ได้ แผนการในอนาคตที่วาดฝันไว้คงพังทลายไม่เหลือแน่
3!
2!
1!
ฟิ้วววว ตูมมมมมมมมมมมมมมมม!
เสียงระเบิดดังสนั่นหวั่นไหว เกิดเป็นดวงแสงสีขาวขนาดใหญ่บนท้องฟ้า ที่ความสูงหนึ่งหมื่นเมตรเหนือทะเลทรายประเทศปากีสถาน จนประชาชนที่อยู่ในเมืองใกล้เคียงสามารถมองเห็นปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นได้อย่างชัดเจน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จุติใหม่มหาเทพตี้เทียน