เสี้ยววินาทีที่พวกจ้าวเทียนก้าวออกมาจากประตูศาลเจ้า เหตุการณ์ต่างๆโดยรอบก็หยุดชะงักไปครู่หนึ่ง
แม้แต่ซาคากิ เคนจิโร่ที่กำลังต่อสู้กับอั้งฮวงหลงอย่างดุเดือด ยังต้องรีบถอนตัวออกมาดูสถานการณ์ด้วยความระมัดระวังตัว เพราะไม่แน่ใจว่าเรื่องที่ตนเองเปิดเผยความลับให้ศัตรูจะถูกองค์เทพีล่วงรู้หรือยัง
ไม่มีใครรู้ว่าด้านในศาลเจ้าเกิดอะไรขึ้นบ้าง แต่สิ่งเดียวที่พวกเขาเห็นก็คือ ร่างกายอันปราศจากบาดแผลของจ้าวเทียน กับบรรยากาศแปลกๆตอนที่เขายืนอยู่ด้านหน้าเทพีอามาเทราสุและเทพโอซีริส
“ เซฮิเดะ เมื่อกี้แกพูดว่าอะไรนะ ” จ้าวเทียนถามขึ้นอีกครั้ง เมื่อเห็นฝ่ายตรงข้ามไม่ยอมตอบ
“ เอ่อ…ฉัน ”
ตอนนี้ต่อให้อาเบะโน เซฮิเดะจะสมองช้าแค่ไหน เขาก็สัมผัสได้ถึงความไม่ชอบมาพากลทันที โดยเฉพาะเมื่อเห็นสีหน้าอันเย็นชาของเทพีอามาเทราสุผู้เป็นนาย ก็รู้เลยว่าตนเองคงทำเรื่องที่ผิดพลาดอย่างร้ายแรงเข้าแล้ว
‘ ตามแผนการที่วางไว้ องค์เทพีจะต้องจัดการจ้าวเทียนจนหมดสภาพ แล้วบีบบังคับให้อีกฝ่ายต้องมาคุกเข่าขอขมาพวกเราไม่ใช่เหรอ ’
‘ แล้วสถานการณ์ในปัจจุบันนี่มันคืออะไร ทำไมถึงเป็นฉันที่ถูกกดดันแทน คงไม่ใช่ว่าพวกเขาแอบบรรลุเงื่อนไขร่วมกันอย่างสันติแล้วนะ ’
ถึงแม้อาเบะโน เซฮิเดะ จะจงรักภักดีขนาดไหน แต่เขาก็ไม่อยากเป็นตัวหมากชั้นเลวที่ถูกใช้แล้วทิ้งเช่นเดียวกัน
‘ จะยอมถอยไม่ได้เด็ดขาด เพื่อรักษาชีวิตเอาไว้ ฉันต้องเสี่ยงเดินหน้าไปให้สุดทาง ต่อให้สุดท้ายแล้วมันจะพาฉันดิ่งลงเหวก็ตามที ’
เมื่อคิดได้แบบนั้น อาเบะโน เซฮิเดะก็ดิ้นรนพาร่างกายอันบาดเจ็บสาหัสของตน คลานเข้าไปหาเทพีอามาเทราสุเหมือนสุนัขข้างถนน โดยไม่สนใจจ้าวเทียนที่ยืนอยู่ตรงหน้าแม้แต่น้อย
“ องค์เทพีผู้ยิ่งใหญ่ โปรดให้ความเป็นธรรมต่อผู้ที่รับใช้ท่านอย่างซื่อสัตย์ด้วยเถิด คนพวกนี้ได้โจมตีสถานที่พำนักของท่าน ทั้งยังทำลายค่ายกลป้องกันของพวกเราจนหมดสิ้น นี่ถือเป็นการลบหลู่ท่านอย่างชัดเจน ”
“ ต้องโทษที่ตัวข้าน้อยอ่อนแอเกินไป จึงไม่อาจทำหน้าที่ปกป้องศาลเจ้า ตามที่ท่านได้มอบหมายเอาไว้ ดังนั้น ภายหลังที่พวกเราจัดการศัตรูทั้งหมดแล้ว ข้าน้อยยินดีรับโทษทัณฑ์แต่เพียงผู้เดียว ” อาเบะโน เซฮิเดะก้มหัวติดพื้น แล้วพูดขึ้นด้วยความนอบน้อม การแสดงออกของเขาเต็มไปด้วยความจริงใจอย่างที่สุด
‘ ผู้ชายคนนี้ช่างกล้าจริงๆ ในหลายๆความหมายล่ะนะ ’
ลี่เหยาเหยาถอนหายใจออกมา แม้แต่ซูเปอร์สตาร์ระดับโลกอย่างเธอก็ไม่อาจแสดงท่าทีแบบนี้ท่ามกลางสายตาของผู้คนมากมายได้
ไม่ใช่ว่าไม่กล้าทำ…แต่เพราะเธอไม่อยากลดตัวลงไปใช้วิธีหน้าด้านหน้าทนขนาดนั้นมากกว่า
การที่ผู้มีพลังระดับ S ที่มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลกต้องคลานสี่ขา เข้าไปประจบประแจงเจ้านายของตน อย่าว่าแต่ศัตรูเลย แม้กระทั่งฝ่ายเดียวกันก็ยังอดส่งสายตาดูถูกดูแคลนออกมาไม่ได้
“ เซฮิเดะ! ฉันผิดหวังในตัวแกมาก ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป พวกเราไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันอีก ” ซาคากิ เคนจิโร่พูดขึ้นด้วยความอับอาย
จะดีจะร้ายอย่างไร ทั้งคู่ก็ได้รับฉายาว่าเป็นสองเสาหลักแห่งดินแดนอาทิตย์อุทัยเหมือนกัน การที่ต้องเห็นสหายหรือคู่ปรับเก่า ทำตัวน่าสมเพชแบบนี้ มันเกินจะรับไหวจริงๆ
“ หึหึ มาวันนี้ได้เห็นอะไรดีๆซะแล้วสิ ” อั้งฮวงหลงพูดออกมาด้วยน้ำเสียงเย้ยหยัน เพื่อเอาคืนคำเยาะเย้ยดูถูกก่อนหน้านี้
หากเป็นตัวเขาเองที่อยู่ในสถานการณ์เดียวกัน คงเลือกที่จะสู้ตายอย่างลูกผู้ชาย มากกว่าอยู่ต่อไปอย่างสุนัข
กรอดด!
อาเบะโน เซฮิเดะกัดฟันแน่นจนมีเลือดไหลซึมออกมา นิ้วมือของเขาจมลึกเข้าไปในพื้นหินจะแตกกระจาย เหมือนต้องการระบายความคับข้องใจของตนเองผ่านความเจ็บปวด
‘ ขอเพียงฉันยังรักษาชีวิตเอาไว้ได้ ด้วยพลังที่องค์เทพีมอบให้ อีกไม่นานฉันก็จะกลายเป็นยอดฝีมืออันดับหนึ่งของโลกแน่นอน ’
‘ พอถึงตอนนั้น ฉันขอสาบานว่าความอัปยศที่ได้รับมาในวันนี้ จะต้องตอบแทนพวกแกทุกคนคืนกลับไปอย่างสาสมจนถึงที่สุด ’
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จุติใหม่มหาเทพตี้เทียน